ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 3 / 1อ่านอรรถกถา 3 / 31อรรถกถา เล่มที่ 3 ข้อ 35อ่านอรรถกถา 3 / 40อ่านอรรถกถา 3 / 504
อรรถกถา ภิกขุนีวิภังค์ สัตตรสกัณฑ์
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒

               อรรถกถาสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒               
               ในสิกขาบทที่ ๒ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-

               แก้อรรถบางปาฐะ เรื่องภิกษุณีให้บวชหญิงโจร               
               บทว่า วรภณฺฑํ ได้แก่ ภัณฑะที่มีค่ามาก เช่น แก้วมุกดา แก้วมณีและแก้วไพฑูรย์เป็นต้น.
               บทว่า อปโลเกตฺวา แปลว่า ไม่บอกกล่าว.
               บทว่า คณํ วา ได้แก่ คณะ มีมัลลคณะและภัททปุตตคณะ๑- เป็นต้น.
               บทว่า ปูคํ ได้แก่ ธรรมคณะ.๒-
               บทว่า เสนึ ได้แก่ หมู่ชนผู้เป็นช่างทำของหอมและหมู่ชนผู้เป็นช่างหูกเป็นต้น.
               จริงอยู่ พระราชาทั้งหลายย่อมพระราชทานมอบบ้านและนิคมแก่หมู่ชนมีคณะเป็นต้น ในสถานที่ใดๆ ว่า พวกท่านเท่านั้นจงปกครองในบ้านและนิคมนี้. ชนพวกนั้นนั่นแหละย่อมเป็นใหญ่ในบ้านและนิคมนั้นๆ. เพราะเหตุนั้น คำว่า คณํ วา เป็นต้นนี้ ตรัสหมายเอาชนพวกนั้น.
               ก็บรรดาอิสรชนมีพระราชาเป็นต้นนี้ ภิกษุณีแม้ทูลขอพระบรมราชานุญาต หรือบอกกล่าวพวกชนมีคณะเป็นต้นแล้ว ต้องบอกกล่าวภิกษุณีสงฆ์ด้วย.
               สองบทว่า ฐเปตฺวา กปฺปํ มีความว่า เว้นหญิงผู้ได้ข้ออ้างเคยบวชแล้วในหมู่เดียรถีย์ หรือในหมู่ภิกษุณีอื่น.
               คำที่เหลือตื้นทั้งนั้น.
               สิกขาบทนี้มีการให้หญิงโจรบวชเป็นสมุฏฐาน เกิดขึ้นทางวาจากับจิต สำหรับภิกษุณีผู้เมื่อพวกภิกษุณีหลีกไปด้วยกรณียะบางอย่าง ไม่ไปยังขัณฑสีมา ให้หญิงโจรบวชกับบริษัทผู้เป็นนิสิตของตน ในสถานที่ตามที่ตนนั่งอยู่นั่นแล เกิดขึ้นทางกายวาจากับจิต สำหรับภิกษุณีผู้ไปยังขัณฑสีมา หรือแม่น้ำแล้วให้บวช เป็นทั้งกิริยาทั้งอกิริยาด้วยอำนาจการไม่บอกกล่าวการให้บวชเป็นสัญญาวิโมกข์ สจิตตกะ ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต ๓ มีเวทนา ๓ ดังนี้แล.
____________________________
๑- สารตฺถทีปนี ๓/๔๐๑ ให้อรรถาธิบายว่า คณะผู้บำเพ็ญบุญกรรม มีจัดตั้งน้ำดื่มและขุดสระน้ำเป็นต้น ไว้ในที่นั้นๆ ซึ่งเป็นผู้มีความภักดี (นับถือ) พระนารายณ์ ชื่อว่า มัลลคณะ. คณะผู้มีความภักดี (นับถือ) พระกุมาร (พระบุตร) ชื่อว่า ภัททิปุตตคณะ.
๒- คณะผู้บำเพ็ญบุญกรรมมีประการต่างๆ ซึ่งมีความภักดีต่อพระศาสนา เรียกว่า ธรรมคณะ.

               อรรถกถาสิกขาบทที่ ๒ จบ.               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ภิกขุนีวิภังค์ สัตตรสกัณฑ์ สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒ จบ.
อ่านอรรถกถา 3 / 1อ่านอรรถกถา 3 / 31อรรถกถา เล่มที่ 3 ข้อ 35อ่านอรรถกถา 3 / 40อ่านอรรถกถา 3 / 504
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=3&A=479&Z=558
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=2&A=10964
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=2&A=10964
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๘  ธันวาคม  พ.ศ.  ๒๕๕๕
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :