บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บุคคลชื่อว่ามีทรัพย์มาก เพราะอรรถว่าทรัพย์ของเขาอันเป็นสาระมีแก้วมุกดาเป็นต้นมีมาก. บุคคลมีโภคะมาก (สมบัติมาก) เพราะอรรถว่าเขามีมหาโภคะอันเป็นภาชนะที่ทำด้วยทองและเงินเป็นต้นมาก. บทว่า อญฺญมญฺญาภิคิชฺฌนฺติ แปลว่า ย่อมต้องการของกันและกัน คือย่อมปรารถนา ย่อมริษยาของกันและกัน. บทว่า อนลงฺกตา แปลว่า ไม่รู้จักพอ คือไม่รู้จักอิ่ม เกิดความอยากไม่สิ้นสุด. บทว่า อุสฺสุกฺกชาเตสุ แปลว่า มีความขวนขวาย คือพยายามเพื่อต้องการสิ่งที่ชอบใจทั้ง บทว่า ภวโสตานุสาริสุ แปลว่า ลอยไปตามกระแสแห่งภพ ได้แก่แล่นไปตามกระแสแห่งวัฏฏะ. บทว่า อนุสฺสุกา แปลว่า ไม่มีความขวนขวาย ได้แก่เพราะไม่มีสิ่งเบียดเบียน. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า บุคคลทั้งหลายละเรือน ละบุตร ละปสุสัตว์ที่รัก บวชแล้วกำจัดราคะโทสะ และอวิชชาเสียแล้ว เป็นผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว เป็นผู้ไกลจากกิเลส บุคคลพวกนั้น เป็นผู้ไม่ขวนขวายในโลก. บทว่า อคารํ แปลว่า เรือน ได้แก่บ้านพร้อมทั้งมาตุคาม. บทว่า วิราชิยา แปลว่า กำจัดแล้ว ได้แก่ทำลายแล้ว. คำที่เหลือง่ายทั้งนั้น. จบอรรถกถามหัทธนสูตรที่ ๘ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต สัตติวรรคที่ ๓ มหัทธนสูตรที่ ๘ จบ. |