บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] หน้าต่างที่ ๙ / ๑๐. ๙. ประวัติหมอชีวกโกมารภัจ ด้วยบทว่า ปุคฺคลปฺปสนฺนานํ ท่านแสดงว่า หมอชีวกโกมารภัจเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสกผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสในบุคคล. ดังได้สดับมา หมอชีวกนั้น ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ บังเกิดในเรือนสกุล กรุงหังสวดี กำลังฟังธรรมกถาของพระศาสดา เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาอุบาสกผู้หนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสกผู้เลื่อมใสในบุคคล ทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น. ท่านเวียนว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์ถึงแสนกัป ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในครรภ์ของสตรี ชื่อสาสวดี๑- อาศัยรูปเลี้ยงชีพ อาศัยอภัยราชกุมารอยู่ ณ กรุงราชคฤห์. ____________________________ ๑- ม. สาลวดี ก็ขึ้นชื่อว่าสตรีผู้อาศัยรูปเลี้ยงชีพ เวลาคลอด ถ้าเป็นบุตรชายก็ทิ้งเสีย ถ้าเป็นบุตรหญิงก็เลี้ยงไว้. ดังนั้น นางจึงเอากระด้งใส่เด็กชายทิ้งเสียที่กองขยะ. ครั้งนั้น อภัยราชกุมารเสด็จไปที่เข้าเฝ้า ทอดพระเนตรเห็นเด็กชายนั้น จึงตรัสถามว่า พนาย อะไรนั่น ฝูงกาจึงรุมล้อมเต็มไป ทรงส่งพวกราชบุรุษไป เมื่อเขากราบทูลว่า ทารก พระเจ้าข้า. ตรัสถามว่า ยังเป็นอยู่หรือ พนาย. ทรงฟังว่า ยังเป็นอยู่ พระเจ้าข้า. จึงโปรดให้นำไปเลี้ยงไว้ภายในบุรีของพระองค์. เขาพากันขนานนามท่านว่า ชีวก. พออายุได้ ๑๖ ปีก็ไปกรุงตักกสิลา เรียนแพทย์ศิลปะ ได้ลาภสักการะจากราชสำนักของพระเจ้าพิมพิสาร ได้กระทำพระโรคของพระเจ้าจัณฑปัชโชตให้หายจนทรงพระสำราญ ท้าวเธอก็ส่งข้าวสาร ๕๐๐ เล่มเกวียน กหาปณะ ๑๖,๐๐๐ และคู่ผ้าแคว้นสีพี ที่ประมาณค่ามิได้ ทั้งผ้าบริวารนับจำนวน ๑,๐๐๐ พระราชทานแก่หมอชีวกนั้น. สมัยนั้น พระศาสดาทรงอาศัยกรุงราชคฤห์ ประทับอยู่ที่เขาคิชฌกูฏ. หมอชีวกประกอบเภสัชทูลถวายการขับถ่ายในพระวรกายที่มีธาตุสะสมแล้วแด่พระศาสดา คิดว่า ปัจจัย ๔ เฉพาะเป็นของๆ เรามีอยู่ ดังนี้ จึงอาราธนาให้พระศาสดาประทับอยู่ในวิหารของตน ปรุงยาถวาย น้อมคู่ผ้านั้นถวาย กราบทูลว่า ข้า นี้เป็นความย่อในเรื่องหมอชีวกโกมารภัจนั้น. ส่วนโดยพิสดาร เรื่องหมอชีวกมาแล้วในขันธกวินัย ต่อมา พระศาสดาประทับอยู่ในพระเชตวันวิหาร จึงทรงสถาปนาหมอชีวกโกมารภัจไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสกผู้เลื่อมใสในบุคคล แล. จบอรรถกถาสูตรที่ ๙ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอตทัคคบาลี วรรคที่ ๖ |