ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 

อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐]อ่านอรรถกถา 20 / 1อ่านอรรถกถา 20 / 139อรรถกถา เล่มที่ 20 ข้อ 146อ่านอรรถกถา 20 / 147อ่านอรรถกถา 20 / 596
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอตทัคคบาลี
วรรคที่ ๑

หน้าต่างที่ ๗ / ๑๐.

               อรรถกถาสูตรที่ ๗               
               ประวัติพระลกุณฎกภัททิยเถระ               
               พึงทราบวินิจฉัยในสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้
               บทว่า มญฺชุสฺสรานํ แปลว่า มีเสียงหวาน.
               บทว่า ลกุณฺฏกภทฺทิโย ความว่า ท่านว่าโดยส่วนสูง เป็นคนเตี้ย โดยชื่อชื่อว่า ภัททิยะ.
               ในปัญหากรรม แม้ของพระภัททิยะนั้นมีเรื่องที่จะกล่าวตามลำดับต่อไปนี้ :-
               กล่าวโดยพิสดาร ท่านพระเถระแม้นี้บังเกิดในตระกูลที่มีโภคะมาก ในกรุงหงสวดี ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ไปพระวิหารฟังธรรมตามนัยที่กล่าวแล้วนั่นแล.
               สมัยนั้น ท่านเห็นพระภิกษุผู้มีเสียงไพเราะรูปหนึ่งที่พระศาสดาทรงสถาปนาไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ เกิดจิตคิดว่า อัศจรรย์หนอ ต่อไปในอนาคต เราพึงเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้มีเสียงไพเราะในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง เหมือนภิกษุนี้ จึงนิมนต์พระศาสดาถวายมหาทานแด่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ๗ วัน แล้วหมอบลงแทบพระบาทของพระศาสดา ตั้งความปรารถนาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยผลแห่งทานนี้ ข้าพระองค์มิได้หวังสมบัติอื่น แต่ในอนาคตกาล ขอข้าพระองค์พึงเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้มีเสียงไพเราะในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเถิด.
               พระศาสดาทรงตรวจดูอนาคตก็ทรงเห็นความสำเร็จ จึงทรงพยากรณ์ว่า กรรมของท่านนี้จักสำเร็จในที่สุดแห่งแสนกัปแต่กัปนี้ พระพุทธเจ้าพระนามว่าโคดมจักทรงอุบัติขึ้น ท่านจักเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้มีเสียงไพเราะในศาสนาของพระองค์ ดังนี้แล้วเสด็จกลับพระวิหาร.
               แม้ท่านได้พยากรณ์นั้นแล้ว กระทำกรรมดีงามอยู่ตลอดชีวิต ทำกาละในอัตภาพนั้นแล้ว เวียนว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย.
               ครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี บังเกิดเป็นนกดุเหว่ามีขนปีกอันสวยงาม อยู่ในเขมมิคทายวัน.
               วันหนึ่งไปยังหิมวันตประเทศ เอาปากคาบผลมะม่วงหวานมา เห็นพระศาสดามีภิกษุสงฆ์แวดล้อม ถวายบังคมแล้วคิดว่า ในวันอื่นๆ เรามีตัวเปล่าพบพระตถาคต แต่วันนี้เรานำมะม่วงสุกผลนี้มาเพื่อฝากบุตรของเรา แต่สำหรับบุตรนั้นเราไปเอาผลอื่นมาให้ก็ได้ แต่ผลนี้เราควรถวายพระทศพลดังนี้ จึงคงบินอยู่ในอากาศ.
               พระศาสดาทรงทราบใจของนกจึงแลดูพระอุปัฏฐากนามว่าอโสกเถระ. พระเถระจึงนำบาตรถวายพระศาสดา นกดุเหว่าจึงเอาผลมะม่วงสุกวางไว้ในบาตรของพระทศพล. พระศาสดาประทับนั่งเสวยในที่นั้นนั่นแหละ. นกดุเหว่ามีจิตเลื่อมใสนึกถึงพระคุณของพระทศพลเนืองๆ ถวายบังคมพระทศพลแล้วไปรังของตน ยับยั้งอยู่ด้วยสุขปีติ ๗ วัน. ในอัตภาพนั้น เธอทำกัลยาณกรรมไว้มีประมาณเท่านี้ด้วยกรรมนี้ เธอจึงมีเสียงไพเราะ.
               แต่ครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสป เมื่อชนทั้งหลายปรารภเริ่มสร้างเจดีย์ ต่างพูดกันว่า เราจะสร้างขนาดเท่าไร เราสร้างขนาด ๗ โยชน์ก็จะใหญ่เกินไป ถ้าอย่างนั้นก็สร้างขนาด ๖ โยชน์ แม้ ๖ โยชน์นี้ก็ใหญ่เกินไป เราจะสร้าง ๕ โยชน์ เราจะสร้าง ๔ โยชน์… ๓ โยชน์… ๒ โยชน์ ดังนี้.
               ท่านภัททิยะนี้ ครั้งนั้นเป็นนายช่างใหญ่พูดว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย การสร้างก็ควรนึกถึงการบำรุงได้ง่ายในอนาคตกาลบ้าง แล้วกล่าวว่า มุขแต่ละมุขขนาดคาวุตหนึ่ง เจดีย์ส่วนกลมโยชน์หนึ่ง ส่วนสูงโยชน์หนึ่ง ดังนี้ ชนเหล่านั้นก็เชื่อ. ท่านได้กระทำแต่พอประมาณแด่พระพุทธเจ้าผู้หาประมาณมิได้ ด้วยกรรมนั้นดังกล่าวมานี้ จึงเป็นผู้มีขนาดต่ำกว่าชนเหล่าอื่นในที่ที่ตนเกิดแล้ว ด้วยประการดังนี้.
               ครั้งพระศาสดาของเรา ท่านมาบังเกิดในตระกูลที่มีโภคะสมบัติมากในกรุงสาวัตถี พวกญาติขนานนามของท่านว่า ภัททิยะ.
               ท่านเจริญวัยแล้ว เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ในเชตวันมหาวิหาร จึงไปพระวิหารฟังพระธรรมเทศนา ได้ศรัทธาแล้วรับกรรมฐานในสำนักของพระศาสดา เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตแล้ว.
               ต่อมาภายหลัง พระศาสดาประทับนั่งท่ามกลางพระอริยสงฆ์ ทรงสถาปนาท่านไว้ในตำแหน่งผู้ยอดของเหล่าภิกษุผู้มีเสียงไพเราะ.

               จบอรรถกถาสูตรที่ ๗               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอตทัคคบาลี วรรคที่ ๑
อ่านอรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐]
อ่านอรรถกถา 20 / 1อ่านอรรถกถา 20 / 139อรรถกถา เล่มที่ 20 ข้อ 146อ่านอรรถกถา 20 / 147อ่านอรรถกถา 20 / 596
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=628&Z=643
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=14&A=2634
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=14&A=2634
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๖  ธันวาคม  พ.ศ.  ๒๕๔๙
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :