บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อาสาวรรคที่ ๑ อรรถกถาสูตรที่ ๑ บทว่า อาสา ได้แก่ ตัณหา ความอยาก. บทว่า ทุปฺปชหา ได้แก่ ละได้ยาก คือนำออกได้ยาก. สัตว์ทั้งหลายใช้เวลา ๑๐ ปีบ้าง ๒๐ ปีบ้าง ๖๐ ปีบ้าง รับใช้พระราชา ทำกสิกรรมเป็นต้น เข้าสู่สงครามที่ฝ่ายสองรบประชิดกัน ดำเนินอาชีพเลี้ยงแพะและทำหอกเป็นต้น แล่นเรือไปยังมหาสมุทร ด้วยหวังว่า พวกเราจักได้วันนี้ พวกเราจักได้พรุ่งนี้ ดังนี้ เพราะความหวังในลาภเป็นเรื่องละได้ยาก แม้เมื่อถึงเวลาจะตาย ก็ยังสำคัญตนว่าจะอยู่ได้ ๑๐๐ ปี แม้จะเห็นกรรมและกรรมนิมิตเป็นต้น มีผู้หวังดีตักเตือนว่าจงให้ทาน จงทำการบูชาเถิด ก็ไม่เชื่อคำของใครๆ ด้วยหวังอย่างนี้ว่าเราจักยังไม่ตาย นี้เพราะความหวังในชีวิตเป็นเรื่องละได้ยาก. อรรถกถาสูตรที่ ๒ บทว่า ปุพฺพการี ได้แก่ ผู้ทำอุปการะก่อน. บทว่า กตญฺญูกตเวที ได้แก่ ผู้รู้อุปการะที่เขาทำแล้วตอบแทนภายหลัง. ในสองท่านนั้น ผู้ทำอุปการะก่อน ย่อมสำคัญว่าเราให้กู้หนี้. ผู้ตอบแทนภายหลัง ย่อมสำคัญว่าเราชำระหนี้. อรรถกถาสูตรที่ ๓ บทว่า ติตฺโต จ ตปฺเปตา จ ความว่า พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระขีณาสพผู้เป็นสาวกของพระตถาคต ชื่อว่าผู้อิ่มแล้ว. พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อว่าผู้อิ่มแล้วด้วย ผู้ทำคนอื่นให้อิ่มด้วย. อรรถกถาสูตรที่ ๔ บทว่า ทุตฺตปฺปยา ความว่า ทายกทำให้อิ่มได้ยาก คือการทำให้เขาอิ่ม ทำไม่ได้ง่าย. บทว่า นิกฺขิปติ ได้แก่ ไม่ให้ใคร ไม่ใช้สอยเอง. บทว่า วิสชฺเชติ ได้แก่ ให้แก่ผู้อื่น. อรรถกถาสูตรที่ ๕ บทว่า น วิสชฺเชติ ความว่า ไม่ให้แก่ผู้อื่นเสียทั้งหมดทีเดียว แต่ให้ถือเอาพอเยียวยาอัตภาพตน เหลือนอกนั้นไม่ให้. อรรถกถาสูตรที่ ๖ บทว่า สุภนิมิตฺตํ ได้แก่ อารมณ์ที่น่าปรารถนา. อรรถกถาสูตรที่ ๗ บทว่า ปฏิฆนิมิตฺตํ ได้แก่ นิมิตที่ไม่น่าปรารถนา. อรรถกถาสูตรที่ ๘ บทว่า ปรโต จ โฆโส ได้แก่ การฟังอสัทธรรมจากสำนักของผู้อื่น. อรรถกถาสูตรที่ ๙ บทว่า ปรโต จ โฆโส ได้แก่ การฟังพระสัทธรรมจากสำนักของผู้อื่น. คำที่เหลือในบททั้งปวง ง่ายทั้งนั้นแล. จบอาสาวรรคที่ ๑ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต ตติยปัณณาสก์ อาสาวรรคที่ ๑ จบ. |