บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า สงฺขตสฺส ความว่า อันปัจจัยทั้งหลายมารวมกันสร้าง (ปรุงแต่ง). เครื่องหมายที่เป็นเหตุให้หมายรู้ว่า สิ่งนี้อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว ชื่อว่าสังขตลักษณะ. บทว่า อุปฺปาโท ได้แก่ ความเกิด. ความแตกดับชื่อว่าความเสื่อม ความแก่ชื่อว่าความแปรไปของผู้ที่ดำรงอยู่แล้ว. ธรรมที่เป็นไปในภูมิ ๓ ชื่อว่าสังขตะ ในบทว่า สงฺขตสฺส นั้น แต่มรรคผลพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ตรัสไว้ในพระสูตรนี้ เพราะไม่เข้าถึงการพิจารณา. การเกิดขึ้นเป็นต้น ชื่อว่าสังขตลักษณะ. บรรดาลักษณะทั้ง ๓ นั้น ความเกิดขึ้นมีในอุปปาทขณะ. ความแก่มีในขณะที่ตั้งอยู่ (ฐิติขณะ). ความเสื่อมมีในภังคขณะ. ลักษณะเครื่องหมายไม่ใช่สังขตะ (สิ่งที่ถูกปรุงแต่ง) สังขตะ (สิ่งที่ถูกปรุงแต่ง) ก็ไม่ใช่ลักษณะ (เครื่องหมาย). แต่สิ่งที่เป็นสังขตะถูกกำหนดด้วยลักษณะ. ลักษณะของช้าง ม้า โคและกระบือเป็นต้นที่เป็นเหตุให้จำได้หมายรู้ เช่น หอกหลาวเป็นต้น ไม่ใช่ (ตัว) ช้างเป็นต้น ถึง (ตัว) ช้างเป็นต้นก็ไม่ใช่ลักษณะเหมือนกัน แต่ช้าง ม้า โคและกระบือเป็นต้นเหล่านั้น (เรา) รู้กันว่าเป็นช้างของคนโน้น ม้าของคนโน้น หรือช้างชื่อโน้น ม้าชื่อโน้น ก็ด้วยลักษณะทั้งหลายฉันใด ข้ออุปไมยนี้ก็พึงทราบฉันนั้น. จบอรรถกถาสังขตสูตรที่ ๗ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ จูฬวรรคที่ ๕ ๗. สังขตสูตร จบ. |