บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บทว่า สีลวิปตฺติ ได้แก่ อาการที่ศีลวิบัติ. แม้ในบทที่เหลือก็มีนัยนี้แหละ. ด้วยบทว่า นตฺถิ ทินฺนํ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสหมายเอาความที่ทานที่ให้แล้วไม่มีผล. การบูชาใหญ่ เรียกว่า ยิฏฐะ. ลาภสักการะที่เพียงพอ ทรงประสงค์เอาว่า หุตะ. มิจฉาทิฏฐิบุคคล ห้ามยิฏฐะและหุตะทั้งสองนั้น ว่าไม่มีผลเลย. บทว่า สุกฏทุกฺกฏานํ ได้แก่ กรรมที่ทำดีและทำชั่ว. อธิบายว่า ได้แก่ กุศลกรรมและอกุศลกรรม. ด้วยบทว่า ผลํ วิปาโก มิจฉาทิฏฐิบุคคลกล่าวสิ่งที่เรียกว่า ผลหรือวิบาก ว่าไม่มี. บทว่า นตฺถิ อยํ โลโก ความว่า โลกนี้ไม่มีสำหรับผู้ที่ตั้งอยู่ในโลกหน้า. บทว่า นตฺถิ ปโร โลโก ความว่า โลกหน้าไม่มีแม้สำหรับผู้ตั้งอยู่ในโลกนี้. มิจฉาทิฏฐิบุคคล แสดงว่า สัตว์ทั้งหมด (ตายแล้ว) ย่อมขาดสูญ ในโลกนั้นๆ นั่นเอง. ด้วยบทว่า นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตา มิจฉาทิฏฐิบุคคลกล่าวโดยสามารถแห่งการปฏิบัติชอบและการปฏิบัติผิดในมารดา บิดา เหล่านั้นว่าไม่มีผล. บทว่า นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา ความว่า ขึ้นชื่อว่าสัตว์ที่จะจุติแล้วเกิดไม่มี. ความบริบูรณ์ ชื่อว่า สมฺปทา ความที่ศีลบริบูรณ์ไม่บกพร่อง ชื่อว่าสีลสัมปทา. แม้ในบททั้งสองที่เหลือก็มีนัยนี้เหมือนกัน. บทว่า อตฺถิ ทินฺนํ เป็นต้น นักศึกษาพึงถือเอาโดยนัยที่ตรงข้ามกับที่กล่าวมาแล้ว. จบอรรถกถาอยสูตรที่ ๕ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต ตติยปัณณาสก์ อาปายิกวรรคที่ ๒ ๕. อยสูตร จบ. |