บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
สอุปาทิเสสนฺติ สอุปาทานเสสํ ฯ บทว่า สอุปาทิเสสํ ได้แก่ เป็นผู้ยังมีอุปาทานเหลืออยู่. บทว่า อนุปาทิเสสํ ได้แก่ เป็นผู้ไม่เหลืออุปาทาน คือหมดความยึดถือ. บทว่า มตฺตโสการี ได้แก่ เป็นผู้ทำพอประมาณ คือไม่ทำให้บริบูรณ์. บทว่า น ตาวายํ สาริปุตฺต ธมฺมปิรยาโย ปฏิภาสิ ความว่า ก็ในข้อนี้ได้ความหมายดังนี้ว่า ธรรมดาความไม่แจ่มแจ้ง ย่อมไม่มีแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า เราจักไม่กล่าวธรรมปริยายนี้ก่อน. บทว่า มายิมํ ธมฺมปริยายํ สุตฺวา ปมาทํ อาหรึสุ ความว่า บุคคลทั้งหลาย เมื่อไม่ทำความเพียรเพื่ออรหัตในเบื้องบน อย่าถึงความประมาทด้วยเข้าใจว่า นัยว่าเราทั้งหลาย พ้นแล้วจากอบาย ๔ ดังนี้. บทว่า ปญฺหาธิปฺปาเยน ภาสิโต ท่านแสดงว่า เรากล่าวว่า เรากล่าวตามปัญหาที่ท่านถามแล้วดังนี้. ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำเหตุนั้นเท่านั้นให้เกิด เพื่อบรรเทาฉันทราคะในภพทั้งหลายของบุคคล ๙ จำพวกเหล่านี้แล้ว จึงได้ตรัสพระสูตรนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คูถแม้มีประมาณน้อย ย่อมมีกลิ่นเหม็นแม้ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่กล่าวซึ่งภพแม้มีประมาณน้อยโดยที่สุด แม้เพียงชั่วลัดนิ้วมือฉันนั้นเหมือนกัน. มิใช่อย่างเดียว ภูมิเป็นที่ไปของบุคคล ๙ จำพวกเหล่านั้นก็ติดต่อกัน. สรณะ ๓ ศีล ๕ สลากภัตหนึ่ง ปักขิตภัตหนึ่ง วัสสาวาสิกะหนึ่ง สระโบกขรณีหนึ่ง อาวาสหนึ่ง บุญที่เนื่องกันเห็นปานนี้ มีอยู่แก่ตระกูลทั้งหลายเท่าใด ทางดำเนินแม้ของตระกูลทั้งหลายเหล่านั้นก็เนื่องกัน ตระกูลทั้งหลายเหล่านั้น เป็นเช่นกับโสดาบันบุคคลนั่นเอง. จบอรรถกถาสอุปาทิเสสสูตรที่ ๒ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต ปัณณาสก์ สีหนาทวรรคที่ ๒ ๒. สอุปาทิเสสสูตร จบ. |