ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 

อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙]อ่านอรรถกถา 25 / 1อ่านอรรถกถา 25 / 25อรรถกถา เล่มที่ 25 ข้อ 26อ่านอรรถกถา 25 / 27อ่านอรรถกถา 25 / 440
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปิยวรรคที่ ๑๖

หน้าต่างที่ ๒ / ๙.

               ๒. เรื่องกุฎุมพีคนใดคนหนึ่ง [๑๖๖]               
               ข้อความเบื้องต้น               
               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภกุฎุมพีคนใดคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ปิยโต ชายตี๑-" เป็นต้น.
____________________________
๑- โบราณว่า ชายเต.

               พระศาสดาเสด็จไประงับความโศกของพราหมณ์               
               ความพิสดารว่า กุฎุมพีนั้น ครั้นบุตรของตนทำกาละแล้ว อันความโศกถึงบุตรครอบงำ ไปสู่ป่าช้า ร้องไห้อยู่ ไม่อาจที่จะหักห้ามความโศกถึงบุตรได้.
               พระศาสดาทรงพิจารณาดูสัตวโลกในเวลาใกล้รุ่ง ทรงเห็นอุปนิสัยโสดาปัตติมรรคของกุฎุมพีนั้น กลับจากบิณฑบาตแล้ว ได้ทรงพาภิกษุผู้เป็นปัจฉาสมณะรูปหนึ่ง เสด็จไปประตูเรือนของกุฎุมพีนั้น กุฎุมพีนั้นได้ฟังความที่พระศาสดาเสด็จมา คิดว่า "พระศาสดาจักทรงประสงค์เพื่อทำปฏิสันถารกับด้วยเรา" จึงอัญเชิญพระศาสดาให้เสด็จไปสู่เรือน ปูอาสนะไว้ในท่ามกลางเรือน. เมื่อพระศาสดาประทับนั่งแล้ว ก็มาถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง.
               ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสถามกุฎุมพีนั้นว่า "อุบาสก ท่านต้องทุกข์ เพราะเหตุอะไรหนอแล?" เมื่อกุฎุมพีนั้นกราบทูลทุกข์เพราะพลัดพรากจากบุตรแล้ว
               ตรัสว่า "อย่าคิดเลย อุบาสก ชื่อว่าความตายนี้มิใช่มีอยู่ในที่เดียว และมิใช่มีจำเพาะแก่บุคคลผู้เดียว ก็ชื่อว่าความเป็นไปแห่งภพ ยังมีอยู่เพียงใด, ความตายก็ย่อมมีแก่สรรพสัตว์เพียงนั้นเหมือนกัน; แม้สังขารอันหนึ่ง ที่ชื่อว่าเที่ยงย่อมไม่มี
               เพราะเหตุนั้น ท่านพึงพิจารณาโดยอุบายอันแยบคายว่า
                         'ธรรมชาติมีความตายเป็นธรรมดา ตายเสียแล้ว,
                          ธรรมชาติมีความแตกเป็นธรรมดา แตกเสียแล้ว’
               ไม่พึงเศร้าโศก เพราะว่าโบราณกบัณฑิตทั้งหลายในกาลที่ลูกรักตายแล้ว
               พิจารณาว่า
                         ‘ธรรมชาติมีความตายเป็นธรรมดา ตายเสียแล้ว,
                          ธรรมชาติมีความแตกเป็นธรรมดา แตกเสียแล้ว’
               ดังนี้แล้ว ไม่ทำความเศร้าโศก เจริญมรณัสสติอย่างเดียว"
               อันกุฎุมพีทูลอ้อนวอนว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัณฑิตพวกไหนได้ทำแล้วอย่างนั้น และได้ทำในกาลไร? ขอพระองค์จงตรัสบอกแก่ข้าพระองค์"
               เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงทรงนำอดีตนิทานมา ยังอุรคชาดก๑- ในปัญจกนิบาตนี้ให้พิสดารว่า :-
                                   บุตรของเรา เมื่อสรีระใช้ไม่ได้ ละสรีระของตนไป
                         ดุจงูลอกคราบเก่าฉะนั้น, เมื่อบุตรของเราตายจากไปแล้ว,
                         เขาถูกเผาอยู่ ย่อมไม่รู้ปริเทวนาการของพวกญาติ เพราะ
                         ฉะนั้น เราจึงไม่เศร้าโศกถึงบุตรนั่น; เขามีคติเช่นใด ก็
                         ไปสู่คติเช่นนั้น (เอง)"

               ดังนี้แล้ว จึงตรัส (ต่อไปอีก) ว่า "บัณฑิตในกาลก่อน เมื่อลูกรักทำกาละแล้วอย่างนั้น ไม่ประพฤติอย่างท่านผู้ทอดทิ้งการงานแล้วอดอาหารเที่ยวร้องไห้อยู่เดี๋ยวนี้ ไม่ทำความโศกด้วยอำนาจมรณัสสติภาวนา รับประทานอาหาร และอธิษฐาน (ตั้งใจทำ) การงาน เพราะฉะนั้น ท่านอย่าคิดว่า ‘ลูกรักของเรากระทำกาละแล้ว’
               แท้จริง ความโศกก็ดี ภัยก็ดี เมื่อจะเกิดย่อมอาศัยของที่รักนั่นเองเกิด"
____________________________
๑- ขุ. ชา. เล่ม ๒๗/ข้อ ๗๑๗; อรรถกถา ขุ. ชา. เล่ม ๒๗/ข้อ ๗๑๗

               ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
                         ๒. ปิยโต ชายตี โสโก    ปิยโต ชายตี ภยํ
                         ปิยโต วิปฺปมุตฺตสฺส    นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ.
                         ความโศกย่อมเกิดแต่ของที่รัก, ภัยย่อมเกิดแต่ของที่รัก;
                         ความโศกย่อมไม่มีแก่ผู้ปลดเปลื้องได้จากของที่รัก,
                         ภัยจักมีแต่ไหน.

               แก้อรรถ               
               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปิยโต เป็นต้น ความว่า ก็ความโศกก็ดี ภัยก็ดี อันมีวัฏฏะเป็นมูล เมื่อจะเกิดขึ้น ย่อมอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักเท่านั้นเกิด แต่ความโศกและภัยแม้ทั้งสองนั่น ย่อมไม่มีแก่ผู้ปลดเปลื้องจากสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักนั้นได้แล้ว.
               ในกาลจบเทศนา กุฎุมพีตั้งอยู่แล้วในโสดาปัตติผล.
               เทศนาได้มีประโยชน์แก่ชนผู้ประชุมกันแล้ว ดังนี้แล.

               เรื่องกุฎุมพีคนใดคนหนึ่ง จบ.               
               ----------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปิยวรรคที่ ๑๖
อ่านอรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙]
อ่านอรรถกถา 25 / 1อ่านอรรถกถา 25 / 25อรรถกถา เล่มที่ 25 ข้อ 26อ่านอรรถกถา 25 / 27อ่านอรรถกถา 25 / 440
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=830&Z=861
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=23&A=2756
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=23&A=2756
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๓๐  พฤศจิกายน  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :