|
อ่าน อรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐]
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท อรหันตวรรคที่ ๗ ๗. อรหันตวรรควรรณนา ๑. เรื่องหมอชีวก [๗๑] ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในสวนมะม่วงของหมอชีวก ทรงปรารภปัญหาอันหมอชีวกทูลถามแล้ว ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "คตทฺธิโน" เป็นต้น.
พระเทวทัตทำโลหิตุปบาทกรรม
เรื่องหมอชีวก ท่านให้พิสดารในขันธกะแล้วแล.
ความพิสดารว่า ในสมัยหนึ่ง พระเทวทัตเป็นผู้ร่วมคิดกับพระเจ้าอชาตศัตรู ขึ้นสู่เขาคิชฌกูฏ มีจิตคิดร้าย คิดว่า "เราจักปลงพระชนม์พระศาสดา" จึงกลิ้งหินลง.
ยอดเขา ๒ ยอด รับหินนั้นไว้. สะเก็ดซึ่งแตกออกจากหินนั้น กระเด็นไปกระทบพระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้า ยังพระโลหิตให้ห้อแล้ว. เวทนากล้าเป็นไปแล้ว.
หมอชีวกทำการพยาบาลแผล
ภิกษุทั้งหลายนำพระศาสดาไปยังสวนมัททกุจฉิ. พระศาสดามีพระประสงค์จะเสด็จ แม้จากสวนมัททกุจฉินั้นไปยังสวนมะม่วงของหมอชีวก
จึงตรัสว่า "เธอทั้งหลายจงนำเราไปในสวนมะม่วงของหมอชีวกนั้น." พวกภิกษุได้พาพระผู้มีพระภาคเจ้าไปยังสวนมะม่วงของหมอชีวกแล้ว.
หมอชีวกทราบเรื่องนั้น ไปสู่สำนักพระศาสดา ถวายเภสัชขนานที่ชะงัด เพื่อประโยชน์กำชับแผล พันแผลเสร็จแล้ว ได้กราบทูลคำนี้กะพระศาสดาว่า
"พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ประกอบเภสัชแก่มนุษย์ผู้หนึ่งภายในพระนคร, ข้าพระองค์จักไปยังสำนักของมนุษย์นั้นแล้ว จัก (กลับ) มาเฝ้า นี้จงตั้งอยู่โดยนิยามที่ข้าพระองค์พันไว้นั่นแหละ จนกว่าข้าพระองค์จะกลับมาเฝ้า."
เขาไปทำกิจที่ควรทำแก่บุรุษนั้นแล้ว กลับมาในเวลาปิดประตู จึงไม่ทันประตู. ทีนั้น เขาได้มีความวิตกอย่างนี้ว่า "แย่จริง เราทำกรรมหนักเสียแล้ว,
ที่เราถวายเภสัชอย่างชะงัด พันแผลที่พระบาทของพระตถาคตเจ้า ดุจคนสามัญ๑- เวลานี้เป็นเวลาแก้แผลนั้น, เมื่อแผลนั้นอันเรายังไม่แก้, ความเร่าร้อนในพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า จักเกิดตลอดคืนยังรุ่ง."
____________________________
๑- อญฺญตรสฺส แปลว่า คนใดคนหนึ่ง.
แผลของพระศาสดาหายสนิท
ขณะนั้น พระศาสดาตรัสเรียกพระอานนทเถระมาเฝ้า รับสั่งว่า "อานนท์ หมอชีวกมาในเวลาเย็นไม่ทันประตู, ก็เขาคิดว่า เวลานี้เป็นเวลาแก้แผล, เธอจงแก้แผลนั้น." พระเถระแก้แล้ว. แผลหายสนิท ดุจสะเก็ดไม้หลุดออกจากต้นไม้.
พระอรหันต์ไม่มีความเร่าร้อนใจ
หมอชีวกมายังสำนักพระศาสดาโดยเร็ว ภายในอรุณนั่นแล ทูลถามว่า "พระเจ้าข้า ความเร่าร้อนเกิดขึ้นในพระสรีระของพระองค์หรือไม่?"
พระศาสดาตรัสว่า "ชีวก ความเร่าร้อนทั้งปวงของตถาคตสงบราบคาบแล้ว ที่ควงโพธิพฤกษ์นั่นแล" ดังนี้แล้ว
เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
๑. | คตทฺธิโน วิโสกสฺส | วิปฺปมุตฺตสฺส สพฺพธิ
| | สพฺพคนฺถปฺปหีนสฺส | ปริฬาโห น วิชฺชติ.
| | ความเร่าร้อน ย่อมไม่มีแก่ท่านผู้มีทางไกลอันถึงแล้ว
| | หาความเศร้าโศกมิได้ หลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง
| | ผู้ละกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งปวงได้แล้ว. |
แก้อรรถ
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า คตทฺธิโน ได้แก่ ผู้มีทางไกลอันถึงแล้ว. ชื่อว่าทางไกลมี ๒ อย่าง คือ ทางไกลคือกันดาร ทางไกลคือวัฏฏะ,
บรรดาทางไกล ๒ อย่างนั้น ผู้เดินทางกันดาร ยังไม่ถึงที่ๆ ตนปรารถนาเพียงใด ก็ชื่อว่าผู้เดินทางไกลเรื่อยไปเพียงนั้น, แต่เมื่อทางไกลนั้นอันเขาถึงแล้ว ย่อมเป็นผู้ชื่อว่ามีทางไกลอันถึงแล้ว,
ฝ่ายสัตว์ทั้งหลายแม้ผู้อาวัฏฏะ, ตนยังอยู่ในวัฏฏะเพียงใด ก็ชื่อว่าผู้เดินทางไกลเรื่อยไปเพียงนั้น,
มีคำถามสอดเข้ามาว่า เพราะเหตุไร?
แก้ว่า เพราะความที่วัฏฏะอันตนยังให้สิ้นไปไม่ได้. แม้พระอริยบุคคลทั้งหลายมีพระโสดาบันเป็นต้น ก็ชื่อว่าผู้เดินทางไกลเหมือนกัน,
ส่วนพระขีณาสพยังวัฏฏะให้สิ้นไปได้แล้วดำรงอยู่ ย่อมเป็นผู้ชื่อว่ามีทางไกลอันถึงแล้ว แก่พระขีณาสพนั้นผู้มีทางไกลอันถึงแล้ว.
บทว่า วิโสกสฺส คือ ชื่อว่าผู้หาความเศร้าโศกมิได้ เพราะความที่ความเศร้าโศกมีวัฏฏะเป็นมูลปราศจากไปแล้ว.
บาทพระคาถาว่า วิปฺปมุตฺตสฺส สพฺพธิ คือ ผู้หลุดพ้นแล้วในธรรมมีขันธ์เป็นต้นทั้งปวง.
บาทพระคาถาว่า สพฺพคนฺถปฺปหีนสฺส คือ ชื่อว่าผู้ละกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งปวงได้ เพราะความที่กิเลสเครื่องร้อยรัด ๔ อย่างอันตนละได้แล้ว.
บาทพระคาถาว่า ปริฬาโห น วิชฺชติ ความว่า ความเร่าร้อนมี ๒ อย่าง คือความเร่าร้อนเป็นไปทางกายอย่าง ๑ ความเร่าร้อนเป็นไปทางจิตอย่าง ๑.
บรรดาความเร่าร้อน ๒ อย่างนั้น ความเร่าร้อนเป็นไปทางกาย ซึ่งเกิดขึ้นแก่พระขีณาสพ ด้วยสามารถแห่งผัสสะมีหนาวและร้อนเป็นต้น ยังไม่ดับเลย,
หมอชีวกทูลถามหมายถึงความเร่าร้อนอันเป็นไปทางกายนั้น. แต่พระศาสดาทรงพลิกแพลงพระเทศนาด้วยสามารถแห่งความเร่าร้อนอันเป็นไปทางจิต
เพราะความที่พระองค์เป็นผู้ฉลาดในเทศนาวิธี เพราะความที่พระองค์เป็นพระธรรมราชาจึงตรัสว่า "ชีวกผู้มีอายุ ก็โดยปรมัตถ์ ความเร่าร้อน ย่อมไม่มีแก่พระขีณาสพผู้เห็นปานนั้น."
ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลายมีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องหมอชีวก จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท อรหันตวรรคที่ ๗ อ่านอรรถกถาหน้าต่างที่ [หน้าสารบัญ] [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐]
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=515&Z=543&bgc=lavender อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=21&A=1085 The Pali Atthakatha in Roman https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=21&A=1085 - -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]
|