ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 270อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 271อ่านอรรถกถา 26 / 272อ่านอรรถกถา 26 / 474
อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ทุกนิบาต วรรคที่ ๒
๔. โสมมิตตเถรคาถา

               อรรถกถาโสมมิตตเถรคาถา               
               คาถาของท่านพระโสมมิตตเถระ เริ่มต้นว่า ปริตฺตํ ทารุํ.
               เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร?
               แม้พระเถระนี้ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำแล้วในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญไว้ในภพนั้นๆ เกิดในเรือนแห่งตระกูลในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าสิขี บรรลุความเป็นผู้รู้แล้ว สดับพระพุทธคุณ มีใจเลื่อมใส วันหนึ่งเห็นต้นทองกวาวมีดอกบานสะพรั่ง จึงเก็บเอาดอกมาแล้วเหวี่ยงขึ้นบนอากาศ (ตั้งใจ) บูชาเฉพาะพระศาสดา.
               ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเกิดในตระกูลพราหมณ์ พระนครพาราณสี ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้มีนามว่าโสมมิตตะ เป็นผู้เรียนจบไตรเพท เป็นผู้มีความคุ้นเคยกับพระเถระชื่อว่าวิมละ ไปสู่สำนักของพระเถระเนืองๆ ฟังธรรมแล้ว ได้มีศรัทธาในพระศาสนา บวชแล้วได้อุปสมบทแล้ว บำเพ็ญวัตรปฏิบัติเที่ยวไป.
               ส่วนพระวิมลเถระเป็นผู้เกียจคร้าน มากไปด้วยความหลับ ยังคืนและวันให้ล่วงไป.
               พระโสมมิตตะคิดว่า จะมีคุณประโยชน์อะไร เพราะอาศัยพระเถระผู้เกียจคร้าน (เช่นนี้) ดังนี้แล้ว จึงละพระวิมลเถระ เข้าไปหาพระกัสสปเถระ ตั้งอยู่ในโอวาทของพระกัสสปเถระแล้ว เริ่มเจริญวิปัสสนา ดำรงอยู่ในพระอรหัต ต่อกาลไม่นานนัก.
               สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า๑-
               เราเห็นต้นทองกวาวมีดอก จึงประนมกรอัญชลี นึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด แล้วบูชาในอากาศ ด้วยกรรมที่ทำไว้ดีแล้วนั้นและด้วยการตั้งเจตน์จำนงไว้ เราละร่างมนุษย์แล้วได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์.
               ในกัปที่ ๓๑ แต่ภัทรกัปนี้ เราได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา. เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ภพทั้งปวง เราถอนขึ้นแล้ว เราเปรียบเหมือนช้างตัวประเสริฐ ตัดบ่วงได้แล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่.
               การที่เรามาในสำนักแห่งพระพุทธเจ้าของเราเป็นการมาดีแล้วหนอ วิชชา ๓ เราได้บรรลุแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เรากระทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.
____________________________
๑- ขุ. อ. เล่ม ๓๓/ข้อ ๘๔

               ก็พระเถระ ครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว เมื่อจะคุกคามพระวิมลเถระ โดยโอวาทได้กล่าวคาถา ๒ คาถาความว่า
                         เต่าตาบอดเกาะไม้เล็กๆ จมลงไปในห้วงน้ำใหญ่ฉันใด
                         กุลบุตรอาศัยคนเกียจคร้านดำรงชีพ ย่อมจมลงในสังสาร
                         วัฏฉันนั้น เพราะฉะนั้น บุคคลพึงเว้นคนเกียจคร้านผู้มี
                         ความเพียรเลวทรามเสีย ควรอยู่กับบัณฑิตทั้งหลายผู้สงัด
                         เป็นอริยะมีใจเด็ดเดี่ยวเพ่งฌาน มีความเพียรอันปรารภ
                         แล้วเป็นนิตย์ ดังนี้.

               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปริตฺตํ ทารุมารุยฺห ยถา สีเท มหณฺณเว ความว่า กุลบุตรแม้มีศีลเป็นที่รัก อาศัยคนเกียจคร้าน คือคนขี้เกียจ ย่อมจมลงคือตกไปในสงสาร ได้แก่ไปไม่ถึงฝั่งแห่งมหรรณพ คือพระนิพพาน เพราะเหตุเป็นอย่างนี้ ฉะนั้น กุลบุตรพึงเว้นบุคคลนั้น ผู้ชื่อว่าเกียจคร้าน เพราะจมลงสู่สภาพอันต่ำช้าโดยไม่ยกศีรษะขึ้น ด้วยสามารถแห่งกุศลธรรมอันยิ่ง ชื่อว่ามีความเพียรเลว เพราะไม่มีการปรารภความเพียร.
               อธิบายว่า ไม่พึงถึงทิฏฐานุคติของเขา (ไม่ควรเอาเยี่ยงเขา).
               พระเถระครั้นแสดงโทษของความเกียจคร้านด้วยคาถาอันเป็นบุคลาธิษฐานอย่างนี้แล้ว บัดนี้ เพื่อจะแสดงอานิสงส์ในการปรารภความเพียร จึงกล่าวคำมีอาทิว่า วิวิตฺเตหิ ดังนี้.
               คำเป็นคาถานั้นมีอธิบายว่า
               ก็บุคคลเหล่าใด ชื่อว่าเป็นผู้สงัดแล้ว เพราะมีกายวิเวก ต่อแต่นั้นไปก็ชื่อว่าเป็นพระอริยะ เพราะเป็นผู้ไกลจากกิเลสทั้งหลาย. ชื่อว่าเป็นผู้มีตนอันส่งไปแล้ว เพราะความเป็นผู้มีตนอันส่งไปแล้วสู่พระนิพพาน. ชื่อว่าเป็นผู้มีฌาน ด้วยสามารถแห่งอารัมมณูปนิชฌานและด้วยสามารถแห่งลักขณูปนิชฌาน. ชื่อว่าเป็นผู้มีความเพียรอันปรารภแล้ว เพราะความเป็นผู้มีความเพียรอันประคองแล้วตลอดกาลทั้งปวง. ชื่อว่าเป็นบัณฑิต เพราะประกอบด้วยปัญญาอันต่างด้วยโลกิยปัญญาและโลกุตรปัญญา.
               กุลบุตรผู้ประสงค์จะยังประโยชน์ตนให้สำเร็จ พึงอยู่กับบัณฑิตเหล่านั้นคืออยู่ร่วมกัน.
               พระวิมลเถระฟังโอวาทนั้นแล้ว มีความสลดใจ เริ่มตั้งวิปัสสนา ยังประโยชน์ตนให้สำเร็จแล้ว. ความข้อนี้นั้นจักมีต่อไปข้างหน้าอีก.

               จบอรรถกถาโสมมิตตเถรคาถา               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ทุกนิบาต วรรคที่ ๒ ๔. โสมมิตตเถรคาถา จบ.
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 270อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 271อ่านอรรถกถา 26 / 272อ่านอรรถกถา 26 / 474
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=26&A=5770&Z=5776
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=32&A=9195
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=32&A=9195
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๓  มกราคม  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :