ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 348อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 349อ่านอรรถกถา 26 / 350อ่านอรรถกถา 26 / 474
อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ฉักกนิบาต
๓. มหานาคเถรคาถา

               อรรถกถามหานาคเถรคาถาที่ ๓               
               คาถาของท่านพระมหานาคเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ยสฺส สพฺรหฺมจารีสุ ดังนี้.
               เรื่องนั้นมีเหตุเกิดขึ้นอย่างไร?
               แม้พระเถระนี้ก็ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าอันมีในกาลก่อน ก่อสร้างกุศลอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากกุสันธะ ได้บังเกิดในเรือนของตระกูล รู้เดียงสาแล้ว วันหนึ่งได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้ากกุสันธะหยั่งลงยังป่า ประทับนั่งอยู่ที่โคนไม้ต้นหนึ่ง ด้วยความสุขในฌาน จึงมีใจเลื่อมใส ได้ถวายผลทับทิมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น.
               ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดเป็นบุตรของพราหมณ์นามว่ามธุวาเสฏฐะ ในเมืองสาเกต เขาได้มีชื่อว่ามหานาค.
               มหานาคนั้นรู้เดียงสาแล้ว เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในป่าอัญชนวัน ใกล้เมืองสาเกต ได้เห็นปาฏิหาริย์ของท่านพระควัมปติเถระ ได้ศรัทธาจึงบวชในสำนักของพระเถระนั่นแหละ ตั้งอยู่ในโอวาทของท่าน จึงบรรลุพระอรหัต.
               ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวไว้ในอปทานว่า๑-
               พระกกุสันธะพระองค์นั้นผู้แกล้วกล้าใหญ่ ถึงฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง หลีกออกจากหมู่ ได้ไปยังระหว่างป่า เราถือเอาเยื่อของพืชแล้วเอาเครือเถาร้อยไว้. สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเข้าฌานอยู่ในระหว่างภูเขา ครั้นเราได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นเทพของเทพ มีใจเลื่อมใส ได้ถวายเยื่อของพืชแก่พระวีรเจ้าผู้เป็นทักขิไณยบุคคล.
               ในกัปนี้แหละ เราได้ถวายเยื่อพืชใดในกาลนั้น ด้วยการได้ถวายเยื่อพืชนั้น เราจึงไม่รู้จักทุคตินี้ เป็นผลแห่งเยื่อพืช. เราเผากิเลสได้แล้ว ... ฯลฯ ... เราได้กระทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว.
____________________________
๑- ขุ. อ. เล่ม ๓๓/ข้อ ๓๑

               ก็พระเถระครั้นได้บรรลุพระอรหัตแล้ว จึงอยู่ด้วยสุขอันเกิดแต่วิมุตติ เห็นภิกษุฉัพพัคคีย์ไม่กระทำความเคารพในเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย จึงกล่าวคาถา ๖ คาถานี้ เนื่องด้วยการให้โอวาทแก่ภิกษุฉัพพัคคีย์นั้นว่า
                         ผู้ใดไม่มีความเคารพในเพื่อนสพรหมจารี ผู้นั้นย่อมเสื่อม
               จากพระสัทธรรม เหมือนปลาในน้ำน้อย ผู้ใดไม่มีมีความเคารพ
               ในเพื่อนสพรหมจารี ผู้นั้นย่อมไม่งอกงามในพระสัทธรรม เหมือน
               พืชที่เน่าในไร่นา ผู้ใดไม่มีความเคารพในเพื่อนสพรหมจารี ผู้นั้น
               ย่อมอยู่ไกลจากพระนิพพาน ในศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้า
               ผู้เป็นพระธรรมราชา.
                         ผู้ใดมีความเคารพในเพื่อนสพรหมจารี ผู้นั้นย่อมไม่เสื่อม
               จากพระสัทธรรม เหมือนปลาในน้ำมากฉะนั้น ผู้ใดมีความเคารพ
               ในเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ผู้นั้นย่อมงอกงามในพระสัทธรรม
               เหมือนพืชดีในไร่นาฉะนั้น ผู้ใดมีความเคารพในเพื่อนสพรหมจารี
               ผู้นั้นย่อมอยู่ใกล้พระนิพพาน ในศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้า
               ผู้เป็นพระธรรมราชา.

               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สพฺรหฺมจารีสุ ความว่า ชื่อว่าเพื่อนสพรหมจารี เพราะประพฤติธรรมอันประเสริฐมีศีลเป็นต้นที่มีอยู่, ผู้ที่ถึงความเสมอกันด้วยศีลและทิฏฐิ ชื่อว่าสหธรรมิก, ในเพื่อนสพรหมจารีและสหธรรมิกเหล่านั้น.
               บทว่า คารโว ได้แก่ ความเป็นผู้มีความเคารพ คือกระทำความเคารพอันมีคุณมีศีลเป็นต้นเป็นเหตุ.
               บทว่า นูปลพฺภติ ได้แก่ ไม่มี คือไม่เป็นไป. อธิบายว่า ไม่เข้าไปตั้งอยู่.
               บทว่า นิพฺพานา ได้แก่ จากการทำกิเลสให้ดับ คือจากความสิ้นกิเลส.
               บทว่า ธมฺมราชสฺส ได้แก่ พระศาสดา.
               จริงอยู่ พระศาสดาชื่อว่าพระธรรมราชา เพราะยังโลกพร้อมทั้งเทวโลกให้ยินดีด้วยธรรมอันเป็นโลกิยะและโลกุตระตามสมควร.
               ก็ด้วยคำว่า ในศาสนาของพระธรรมราชานี้ ในคาถานั้น ชื่อว่าพระนิพพานย่อมมีในศาสนาของพระธรรมราชาเท่านั้น ไม่มีในศาสนาอื่น.
               ในคาถานั้น ท่านแสดงว่า ผู้ใดเว้นความเคารพในเพื่อนสพรหมจารี ผู้นั้นย่อมเป็นผู้ห่างไกลแม้จากศาสนาของพระธรรมราชา เหมือนอยู่ห่างไกลจากพระนิพพานฉะนั้น.
               บทว่า พโหฺวทเก ได้แก่ ในน้ำมาก.
               บทว่า สนฺติเก โหติ นิพฺพานํ ความว่า พระนิพพานย่อมมีอยู่ในสำนัก คือในที่ใกล้บุคคลนั้น.
               คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแหละ.
               ก็คาถาเหล่านี้แหละ เป็นคาถาพยากรณ์พระอรหัตผลของพระเถระ.

               จบอรรถกถามหานาคเถรคาถาที่ ๓               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ฉักกนิบาต ๓. มหานาคเถรคาถา จบ.
อ่านอรรถกถา 26 / 1อ่านอรรถกถา 26 / 348อรรถกถา เล่มที่ 26 ข้อ 349อ่านอรรถกถา 26 / 350อ่านอรรถกถา 26 / 474
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=26&A=6525&Z=6536
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=33&A=2263
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=33&A=2263
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๓  มกราคม  พ.ศ.  ๒๕๕๐
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :