บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
แม้พระเถรีชื่ออุตตมาองค์นี้ ก็ได้สร้างสมบุญบารมีไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมกุศลอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าวิปัสสี บังเกิดเป็นกุลทาสี ในพระนครพันธุมดี. วันหนึ่ง กุลทาสีนั้นเห็นพระเถระขีณาสพองค์หนึ่งผู้เป็นสาวกของพระศาสดาเที่ยวบิณฑบาตอยู่ มีใจ ในพุทธุปปาทกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาลตระกูลหนึ่งในโกศลชนบท รู้ความแล้วฟังธรรมในสำนักของพระศาสดาผู้เสด็จจาริกไปในชนบท ได้ศรัทธา บวชไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวไว้ในอปทานว่า๑- ข้าพเจ้าเป็นกุมภทาสี อยู่ในพระนครพันธุมดี ข้าพเจ้าถือเอาขนมต้มส่วนของข้าพเจ้าไปที่ท่าน้ำ ได้พบสมณะผู้มีจิตสงบ มีใจเป็นสมาธิที่หนทาง มีจิตเลื่อมใส ดีใจ ได้ถวายขนมต้ม ๓ ชิ้น เพราะกรรมที่ทำไว้ดีนั้นและด้วยความตั้งใจแน่วแน่ ข้าพเจ้าไม่ได้ไปสู่วินิบาตเลยตลอดเวลา ๒๙ กัป ข้าพเจ้าทำสมบัติแล้วได้เสวยสมบัตินั้นทุกอย่าง ข้าพเจ้าถวายขนมต้ม ๓ ชิ้นแล้วได้บรรลุอจลบท ข้าพเจ้าเผากิเลสแล้ว ฯลฯ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว. ____________________________ ๑- ขุ. อ. เล่ม ๓๓/ข้อ ๑๕๓ โมทกทายิกาเถรีอปทาน ครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว พิจารณาการปฏิบัติของตน ได้กล่าวคาถาเหล่านี้เป็นอุทานว่า โพชฌงค์ ๗ ประการเหล่านี้เป็นมรรคาแห่ง การบรรลุพระนิพพาน ข้าพเจ้าเจริญแล้วทั้งหมด ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ข้าพเจ้าได้สุญญตสมาบัติและอนิมิตตสมาบัติ ตามปรารถนา ข้าพเจ้าเป็นธิดาเกิดแต่พระอุระของ พระพุทธเจ้า ยินดียิ่งแล้วในพระนิพพานทุกเมื่อ กามทั้งปวงทั้งเป็นของทิพย์และของมนุษย์ ข้าพเจ้าตัดขาดแล้ว ชาติสงสารขาดสิ้นแล้ว บัดนี้ ภพใหม่มิได้มี. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สุญฺญตสฺสานิมิตฺตสฺส ลาภินีหํ ยทิจฺฉกํ ความว่า ข้าพเจ้าได้สุญญตสมาบัติและอนิมิตตสมาบัติ ดังที่ปรารถนา. อธิบายในข้อนั้นว่า ข้าพเจ้าปรารถนาจะเข้าสมาบัติใดๆ ในที่ใดๆ ข้าพเจ้าย่อมเข้าสมาบัตินั้นๆ ในที่นั้นๆ ในกาลนั้นๆ อยู่ แม้ถึงจะเกิดผลทั้งสามมีสุญญตะเป็นต้นของมรรคใดมรรคหนึ่งที่มีชื่อว่าสุญญตะและอัปปณิหิตะเป็นต้นก็จริง ถึงอย่างนั้น พระเถรีองค์นี้ก็เข้าสุญญตสมาบัติและอนิมิตสมาบัติเท่านั้น เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า สุญฺญตสฺสานิมิตฺตสฺส ลาภินีหํ ยทิจฺฉกํ ดังนี้. อีกอย่างหนึ่ง คำนี้ท่านกล่าวตามที่เป็นไปโดยมาก. อาจารย์บางท่านกล่าวว่า นั่นเป็นเพียงชี้แจง. บทว่า เย ทิพฺพา เย จ มานุสา ความว่า วัตถุกามทั้งที่นับเนื่องในเทวโลกทั้งที่นับเนื่องในมนุษยโลกเหล่านั้นทั้งหมด ข้าพเจ้าตัดขาดโดยชอบทีเดียว ด้วยการละฉันทราคะที่เกี่ยวเกาะวัตถุกามนั้น คือทำให้ไม่ควรบริโภค ดังที่ตรัสไว้ว่า ดูก่อนอาวุโส ภิกษุขีณาสพไม่ควรบริโภคกามทั้งหลาย เหมือนเมื่อเป็นคฤหัสถ์ในกาลก่อน. คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้ว. จบอรรถกถาอัญญตราอุตตมาเถรีคาถาที่ ๓ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรีคาถา ติกนิบาต ๓. อัญญตราอุตตมาเถรีคาถา จบ. |