พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
ทรงปรารภพระสูตร ว่าด้วยการประเล้าประโลมของมารธิดา ณ อชปาลนิโครธ
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า กุสลูปเทเส ธิติยาทฬฺหาย จ ดังนี้.
ความพิสดารว่า ในกาลที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระสูตรนั้นตั้งแต่ต้นจนจบบริบูรณ์ อย่างนี้ว่า :-
นางตัณหา นางอรดีและนางราคา ล้วนเพริศพริ้งแพรวพราวพากันมา
พระศาสดาทรงกำจัดนางเหล่านั้นไปเสีย เหมือนลมพัดปุยนุ่นให้หล่นกระจายไปฉะนั้น.
พวกภิกษุประชุมกันในโรงธรรม ตั้งเรื่องสนทนากันว่า
ผู้มีอายุทั้งหลาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้ทรงลืมพระเนตรแลดูพวกมารธิดาอันจำแลงรูปทิพย์หลายร้อยอย่าง แล้วเข้าไปหา เพื่อจะเล้าโลม.
โอ ขึ้นชื่อว่า กำลังของพระพุทธเจ้า น่าอัศจรรย์.
พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร? เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันการที่ไม่แลดูพวกมารธิดาของเรา ผู้ทำให้อาสวะหมดสิ้นไปแล้ว บรรลุความเป็นพระสัพพัญญูแล้ว ในบัดนี้ ไม่น่าอัศจรรย์เลย
แท้จริงในกาลก่อน เรากำลังแสวงหาพระโพธิญาณ มิได้ทำลายอินทรีย์ทั้งหลายเสีย แลดูแม้ซึ่งรูปทิพย์ที่พวกนางยักษิณีพากันเนรมิตไว้ด้วยอำนาจกิเลส
ทั้งที่เรายังมีกิเลส ดำเนินไปจนบรรลุถึงความเป็นมหาราชได้ แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี
พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นน้ององค์เล็กที่สุด ของพระพี่ยาเธอตั้ง ๑๐๐ องค์.
เรื่องราวทั้งหมด บัณฑิตพึงให้พิสดารโดยนัยดังกล่าวแล้วในตักกสิลาชาดก ในหนหลังนั้นแล
(แปลก) แต่ว่า ในครั้งนั้น เมื่อชาวเมืองตักกสิลาเข้าไปอัญเชิญพระโพธิสัตว์ ณ ศาลาภายนอกพระนคร มอบถวายราชสมบัติ กระทำการอภิเษกแล้ว
ชาวตักกสิลานคร พากันตกแต่งพระนครเหมือนเมืองสวรรค์ ตกแต่งพระราชนิเวศน์เหมือนวิมานอินทร์.
ปางเมื่อพระโพธิสัตว์เสด็จเข้าพระนครแล้ว เสด็จขึ้นสู่บัลลังก์รัตน์ ภายใต้เศวตฉัตรในท้องพระโรงหลวงในปราสาทอันเป็นพระราชสถาน ประทับนั่งด้วยลีลาประหนึ่งท้าวเทวราช.
เหล่าอำมาตย์ พราหมณ์ คฤหบดีและขัตติยกุมาร ต่างแต่งองค์ทรงเครื่อง พร้อมแวดล้อมโดยขนัด
นางบำเรอประมาณหมื่นหกพันนาง ล้วนแน่งน้อย เปรียบประดุจเทพอัปสร ทุกนางต่างฉลาดในการฟ้อนรำ ขับร้องและบรรเลง.
พระราชวังก็ครื้นเครงทั่วกัน ด้วยเสียงขับร้องและบรรเลงเพลงประสาน ปานประหนึ่งท้องมหาสมุทรที่กำลังคะนองคลื่นเบื้องหน้า แต่เมฆฝนตกกระหน่ำแล้ว.
พระโพธิสัตว์ทอดพระเนตรดูศิริเสาวภาคอันบรรลุแก่พระองค์นั้น ทรงดำริว่า
ถ้าเราจักพะวงแลดูรูปทิพย์ที่นางยักษิณีเหล่านั้นจำแลงเสียแล้วละ
ก็คงสิ้นชีวิตไปแล้ว คงไม่ได้ดูศิริเสาวภาคนี้ แต่เพราะเราตั้งอยู่ในโอวาทของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย ศิริโสภาคนี้จึงบรรลุแก่เรา.
ครั้นทรงดำริฉะนี้แล้ว เมื่อจะทรงเปล่งพระอุทาน ได้ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
"เราไม่ตกอยู่ในอำนาจของพวกรากษส
เพราะความเพียรมั่นคง ดำรงอยู่ในคำแนะนำของผู้ฉลาด และความไม่หวาดหวั่นต่อภัย
และความสยดสยอง สวัสดิภาพจากภัยอันใหญ่หลวง จึงมีแก่เรา" ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กุสลูปเทเส ความว่า ในคำชี้แจงของท่านผู้ฉลาดทั้งหลาย. อธิบายว่า ในโอวาทของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย.
บทว่า ธิติยา ทฬฺหาย จ ความว่า เพราะความเพียรอันเด็ดเดี่ยวมั่นคง และเพราะความเพียรอันเฉียบขาดแน่นอน.
บทว่า อวตฺถิตตฺตา ภยภีรุตาย จ ความว่า และเพราะความไม่หวาดหวั่นต่อภัยใหญ่ ที่ทำให้กายสะท้าน ในภัยทั้งสองอย่างนั้น ภัยเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้จิตสะดุ้งชื่อว่า ภัย
ภัยใหญ่หลวงที่ทำให้ร่างกายสั่นหวั่นไหว ชื่อว่าความสยดสยอง
ภัยทั้งสองประการนี้ก็ดี อารมณ์อันน่าสยดสยองว่า ขึ้นชื่อว่ายักษิณีเหล่านี้ มันกินมนุษย์ทั้งนั้น ดังนี้ก็ดี มิได้มีแก่พระมหาสัตว์เลย
ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า อวตฺถิตตฺตา ภยภีรุตาย จ ความไม่มีความหวาดหวั่นต่อภัย และความสยดสยอง.
อธิบายว่า เพราะไม่มีความหวาดหวั่นสยดสยองเสียเลย คือถึงจะเห็นอารมณ์ที่น่าสยดสยอง ก็ไม่ยอมท้อถอย.
บทว่า น รกฺขสีนํ วสมาคมิมฺห เส ความว่า ไม่ต้องมาสู่อำนาจแห่งนางรากษสเหล่านั้น
ในทางอันกันดารด้วยยักษ์ ท่านกล่าวอธิบายว่า เพราะเหตุที่เรามีความเด็ดเดี่ยวมั่นคงในคำชี้แจงของท่านผู้ฉลาด
และเรามีการไม่ย่นย่อท้อถอยเป็นสภาพ เพราะไม่มีความกลัวและความหวาดสะดุ้ง
ฉะนั้น เราจึงไม่มาสู่อำนาจของพวกรากษส ดังนี้ สวัสดิภาพ คือความเกษมจากภัยอันใหญ่หลวง
คือจากทุกข์โทมนัสที่เราต้องประสบในสำนักของพวกนางรากษส ของเรานั้น ก็คือความปีติโสมนัสอย่างเดียวนี้เกิดแล้วแก่เราในวันนี้.
พระมหาสัตว์ทรงแสดงธรรมด้วยคาถานี้ ด้วยประการฉะนี้ ทรงครองราชสมบัติโดยธรรม บำเพ็ญบุญมีให้ทานเป็นต้น เสด็จไปตามยถากรรม.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า
เราตถาคต ได้เป็นราชกุมารผู้ไปปกครองราชสมบัติในพระนครตักกสิลา ในครั้งนั้นฉะนี้แล.
------------------------------------------------
.. อรรถกถา ปัญจภีรุกชาดก ว่าด้วย ความสวัสดี จบ.
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=27&A=875&Z=880
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=36&A=7000
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=36&A=7000
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]