ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 454 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 457 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 460 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อรรถกถา สาลุกชาดก
ว่าด้วย อุบายไม่ให้ถูกฆ่า

               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร ทรงปรารภการประเล้าประโลมของนางถูลกุมาริกา จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า มา สาลุกสฺส ปิหยิ ดังนี้.
               เรื่องการประเล้าประโลมของนางกุมาริกานั้น จักมีแจ้งใน จูฬนารทกัสสปชาดก.
               แต่ในที่นี้ พระศาสดาตรัสถามภิกษุนั้นว่า ดูก่อนภิกษุ ได้ยินว่าเธอกระสันขึ้นแล้วจริงหรือ? ภิกษุนั้นกราบทูลว่า อย่างนั้นพระเจ้าข้า. พระศาสดาตรัสถามว่า ใครทำให้เธอกระสันขึ้นมา? ภิกษุนั้นกราบทูลว่า นางถูลกุมาริกาพระเจ้าข้า.
               พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ นางถูลกุมาริกานี้เป็นผู้กระทำความฉิบหายให้แก่เธอแม้ในกาลก่อน เธอก็ได้เป็นแกงอ่อมของบริษัทที่มาในวันวิวาห์ของนางถูลกุมาริกานี้ อันภิกษุทั้งหลายทูลอาราธนาแล้ว จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้.
               ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เป็นโคผู้ชื่อว่ามหาโลหิต ส่วนน้องชายของพระโพธิสัตว์นั้นได้เป็นโคผู้ชื่อว่าจุลลโลหิต. โคทั้งสองตัวนั้นทำงานในตระกูลหนึ่งในหมู่บ้าน.
               ตระกูลนั้นมีนางกุมาริกาคนหนึ่งกำลังเจริญวัย ตระกูลอื่นได้ขอนางกุมาริกานั้น. ครั้งนั้น ตระกูลนั้นคิดว่า ในกาลวิวาหมงคลจักมีแกงอ่อม จึงปรนเปรอสุกรชื่อว่าสาลุกะ ด้วยข้าวยาคูและภัต. สาลุกสุกรนั้นนอนอยู่ใต้เตียง. อยู่มาวันหนึ่ง โคจุลลโลหิตกล่าวกะพี่ชายว่า พี่พวกเราทำการงานในตระกูลนี้ ตระกูลนี้อาศัยพวกเราเลี้ยงชีวิต ก็แหละ เมื่อเป็นอย่างนั้น มนุษย์เหล่านี้ให้แต่หญ้าและฟางแก่พวกเรา แต่เลี้ยงดูสุกรตัวนี้ด้วยข้าวยาคูและภัต และให้นอนใต้เตียง สุกรตัวนี้จักทำอะไรแก่คนเหล่านี้.
               โคมหาโลหิตกล่าวว่า พ่อ เจ้าอย่าปรารถนาข้าวยาคูและภัตของสุกรตัวนี้เลย ก็ในวันวิวาหมงคลของนางกุมาริกานี้ เขาประสงค์จะทำสุกรตัวนี้ให้เป็นแกงอ่อมจึงเลี้ยงสุกรตัวนี้ด้วยข้าวยาคูและภัต เพื่อกระทำเนื้อให้เป็นกล้ามๆ อีก ๒-๓ วัน เจ้าจะเห็นสุกรตัวนั้นถูกเขาฉุดลากออกจากใต้เตียงแล้ว ฆ่าสับให้เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่ กระทำให้เป็นอาหาร สำหรับเลี้ยงแขก ดังนี้
               แล้วตั้งคาถา ๒ คาถาแรกว่า :-
               ท่านอย่าปรารถนาต่อสาลุกสุกรเลย เพราะเขาบริโภคอาหารอันเดือดร้อน ท่านจงเป็นผู้มีความขวนขวายน้อยเคี้ยวกินแกลบเถอะ นี้เป็นลักษณะแห่งความอายุยืน.
               ในไม่ช้า ราชบุรุษผู้มีบริวารมากนั้น ก็จะเป็นแขกมาประชุมกันที่นี้ ในกาลนั้น ท่านก็จะได้เห็นสาลุกสุกรตัวนี้ถูกเขาทุบด้วยสากตะลุมพุก นอนตายอยู่.


               ในกาลนั้น มีเนื้อความสังเขปดังต่อไปนี้ :-
               พ่อมหาจำเริญ ท่านอย่าปรารถนาภาวะเช่นสาลุกสุกรเลย เพราะว่าสาลุกสุกรนี้บริโภคอาหารอันเดือดร้อน คือโภชนะเครื่องฆ่าตนซึ่งบริโภคแล้วไม่นานนัก จักถึงความตาย แต่ท่านจงเป็นผู้มีความขวนขวายน้อย ไม่ห่วงใย เคี้ยวกินแกลบปนฟางนี้ที่ตนได้แล้วเถิด นี้เป็นลักษณะคือเป็นนิมิตให้รู้ถึงความเป็นผู้มีอายุยืนยาว บัดนี้ คือไม่นานนัก ราชบุรุษผู้มาในงานวิวาหมงคลนั้น ชื่อว่าอำมาตย์ราชเสวก เพราะประกอบด้วยบริวารเป็นอันมาก จักเป็นแขกมาในที่นี้ เมื่อนั้นแหละ ท่านจะได้เห็นสาลุกสุกรนี้ ถูกทุบด้วยสากตะลุมพุก เพราะประกอบส่วนข้างบนเหมือนสาก นอนตายอยู่.

               ต่อมาสองสามวันเท่านั้น เมื่อแขกในงานวิวาหมงคลพากันมาแล้ว เจ้าของงานทั้งหลายได้ฆ่าสาลุกสุกรทำเป็นแกงอ่อม. โคทั้งสองเห็นความวิบัตินั้นของสาลุกสุกรนั้น จึงปรึกษากันว่า แกลบเท่านั้นเป็นของประเสริฐสำหรับพวกเรา.

               พระศาสดาทรงเป็นผู้ตรัสรู้พร้อมเฉพาะแล้ว จึงตรัสพระคาถาที่ ๓ อันเกิดจากเรื่องนั้นว่า :-
               วัวชราทั้งสองได้เห็นสาลุกสุกรผู้กล้าหาญ ถูกเจ้าของทุบด้วยสากตะลุมพุก นอนตายอยู่ จึงได้คิดกันว่า ข้าวลีบเท่านั้นเป็นอาหารอย่างสูงสุดของพวกเรา.


               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ภุสามิว ความว่า ข้าวลีบเท่านั้นเป็นอาหารประเสริฐ คือสูงสุดของเรา.

               พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะ แล้วทรงประชุมชาดก. ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุนั้นดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล.
               ถูลกุมาริกาในครั้งนั้น ได้เป็น นางถูลกุมาริกา ในบัดนี้แหละ
               สาลุกสุกรในครั้งนั้น ได้เป็น ภิกษุผู้กระสัน ในบัดนี้
               โคจุลลโลหิตในครั้งนั้น ได้เป็น พระอานนท์ ในบัดนี้
               ส่วนโคมหาโลหิตในครั้งนั้น ได้เป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.

               จบ อรรถกถาสาลุกชาดกที่ ๖               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา สาลุกชาดก ว่าด้วย อุบายไม่ให้ถูกฆ่า จบ.
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 454 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 457 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 460 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=27&A=2416&Z=2427
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=38&A=3771
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=38&A=3771
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๑๖  มิถุนายน  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :