ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 788 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 793 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 798 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อรรถกถา มิตตวินทุกชาดก
ว่าด้วย จักรกรดพัดบนหัว

               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภภิกษุว่ายากรูปหนึ่ง จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า กฺยาหํ เทวานมกรํ ดังนี้
               เรื่องปัจจุบันจักมีแจ้งในมหามิตตวินทุกชาดก.
               ก็นายมิตตวินทุกะนี้ถูกเขาโยนทิ้งในทะเล แล้วได้ไปพบนางเวมานิกเปรตแห่งหนึ่ง ๔ นาง แห่งหนึ่ง ๘ นาง แห่งหนึ่ง ๑๖ นาง แห่งหนึ่ง ๓๒ นาง ก็ยังเป็นผู้ปรารถนายิ่งขึ้นไม่รู้จักพอ จึงเดินต่อไปข้างหน้า ได้พบอุสสุทนรกอันเป็นสถานที่เสวยวิบากของพวกสัตว์นรก จึงได้เข้าไปด้วยสำคัญว่า เป็นเมืองๆ หนึ่ง เห็นจักรกรดพัดอยู่บนหัวสัตว์นรก สำคัญว่าเป็นเครื่องประดับ จึงยินดีชอบใจจักรกรด อ้อนวอนขอได้มา.
               คราวนั้น พระโพธิสัตว์เป็นเทวบุตรเที่ยวจาริกไปในอุสสุทนรก.
               นายมิตตวินทุกะนั้นเห็นพระโพธิสัตว์นั้นแล้ว เมื่อจะถาม จึงกล่าวคาถาที่ ๑ ว่า :-
               ข้าพเจ้าได้กระทำอะไรไว้แก่เหล่าเทวดา บาปอะไรที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ จักรกรดจึงได้มากระทบศีรษะของข้าพเจ้าแล้วพัดอยู่บนกระหม่อม.


               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กฺยาหํ เทวานมกรํ ความว่า ข้าแต่เทพบุตรผู้เป็นนาย ข้าพเจ้าได้กระทำกรรมชื่ออะไรไว้แก่เหล่าเทพดา เหล่าเทพดาเบียดเบียนข้าพเจ้าทำไม.
               บทว่า กึ ปาปํ ปกตํ มยา ความว่า นายมิตตวินทุกะได้รับทุกขเวทนา กำหนดบาปที่ตนทำไว้ไม่ได้ เพราะมีทุกข์มาก จึงได้กล่าวอย่างนั้น.
               บทว่า ยํ เม ความว่า จักรกรดนี้จรด คือกระทบศีรษะข้าพเจ้า แล้วหมุนอยู่บนกระหม่อมของข้าพเจ้า เพราะบาปใด บาปนั้นชื่ออะไร.

               พระโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
               ท่านล่วงเลยปราสาทแล้วผลึก ปราสาทแก้วมณี ปราสาทเงิน และปราสาททอง แล้วมาที่นี้ เพราะเหตุอะไร.


               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า รมณกํ ได้แก่ ปราสาทแก้วผลึก.
               บทว่า ทุพฺพกํ ได้แก่ ปราสาทแก้วมณี.
               บทว่า สทามตฺตํ ได้แก่ ปราสาทเงิน.
               บทว่า พฺรหฺมตรญฺจ ปาสาทํ ได้แก่ ปราสาททอง.
               บทว่า เกนฏฺเฐน ความว่า ท่านละนางเทพธิดาเหล่านี้ คือเทพธิดา ๔ นาง ๘ นาง ๑๖ นางและ ๓๒ นางในปราสาทแก้วผลึกเป็นต้นเหล่านี้ แล้วก้าวล่วงปราสาทเหล่านั้นมาที่นี้ เพราะเหตุอะไร?

               ลำดับนั้น นายมิตตวินทุกะกล่าวคาถาที่ ๓ ว่า :-
               เชิญท่านดูข้าพเจ้าผู้ถึงความฉิบหาย เพราะความสำคัญนี้ว่า โภคสมบัติในที่นี้ เห็นจะมีมากกว่าโภคสมบัติในปราสาททั้งสี่นั้น.


               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อิโต พหุตรา ความว่า จักมีเหลือเฟือกว่าโภคสมบัติในปราสาททั้งสี่นี้.

               ลำดับนั้น พระโพธิสัตว์ได้กล่าวคาถาที่เหลือว่า :-
               ท่านละทิ้งนางเวมานิกเปรต ๔ มาได้ นางเวมานิกเปรต ๘ ละทิ้งนางเวมานิกเปรต ๘ มาได้นางเวมานิกเปรต ๑๖ ละทิ้งนางเวมานิกเปรต ๑๖ มาได้นางเวมานิกเปรต ๓๒ ยังปรารถนายิ่งขึ้นไม่รู้จักพอ มายินดีจักรกรด จักรกรดจึงพัดอยู่บนกระหม่อมของท่านผู้ถูกความปรารถนาครอบงำ.
               อันธรรมดาตัณหาเป็นสิ่งที่กว้างขวางอยู่ในเบื้องบน ให้เต็มได้ยาก มักเป็นไปตามอำนาจของความปรารถนา เพราะฉะนั้น ชนเหล่าใดมากำหนัดยินดีตัณหานั้น ชนเหล่านั้นจึงต้องเป็นผู้ทูนจักรกรดไว้.


               ด้วยบทว่า อุปริ วิสาลา นี้ ในคาถานั้น พระโพธิสัตว์กล่าวว่า
               ดูก่อนมิตตวินทุกะ ขึ้นชื่อว่าตัณหานี้ เมื่อบุคคลซ่องเสพอยู่ย่อมเป็นของกว้างขวางอยู่เบื้องบน คือเป็นของแผ่ไป ธรรมดาตัณหาให้เต็มได้โดยยาก เสมือนมหาสมุทรมีปกติไปตามอำนาจความอยากได้ คือความปรารถนาซึ่งอยากได้อารมณ์นั้นๆ ในบรรดารูปารมณ์เป็นต้น เพราะฉะนั้น คนเหล่าใดมากำหนัดยินดีตัณหานั้นคือเห็นปานนั้น คือเป็นผู้อยากได้แล้วๆ เล่าๆ ยึดถืออยู่.
               บทว่า เต โหนฺติ จกฺกธาริโน ความว่า ชนเหล่านั้นย่อมทูนจักรกรดนั้นไว้.

               ก็นายมิตตวินทุกะกำลังพูดอยู่นั่นแหละ จักรแม้นั้นก็พัดกดลงไป ด้วยเหตุนั้น เขาจึงไม่อาจจะกล่าวอีกต่อไป เทพบุตรจึงไปยังเทวสถานของตนทีเดียว.

               พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า
               นายมิตตวินทุกะในครั้งนั้น ได้มาเป็นภิกษุว่ายาก
               ส่วนเทพบุตรในครั้งนั้น ได้เป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.

               จบ อรรถกถามิตตวินทุกชาดกที่ ๙               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา มิตตวินทุกชาดก ว่าด้วย จักรกรดพัดบนหัว จบ.
อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 0 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 788 อรรถกถาอรรถาธิบาย
เล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 793 อรรถาธิบายเล่มที่ 27 เริ่มข้อที่ 798 อรรถาธิบายเล่มที่  27 เริ่มข้อที่ 2519
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=27&A=3680&Z=3696
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=38&A=10148
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=38&A=10148
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๗  มิถุนายน  พ.ศ.  ๒๕๔๘
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :