บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
อรรถกถาขุททกนิกาย อปทาน ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น เถราปทาน สีหาสนิยวรรคที่ ๒ ๑๑.#- อรรถกถาสีหาสนทายกเถราปทาน #- เลขหน้าอรรถกถา บอกลำดับอปทานของพระเถระต่อจากเถราปทานวรรคที่ ๑. อปทานของท่านพระสีหาสนทายกเถระมีคำเริ่มต้นว่า นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ ดังนี้. แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้บำเพ็ญบารมีแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ทุกๆ พระองค์ สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าสิทธัตถะ ท่านบังเกิดในตระกูลแห่งหนึ่งที่เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ สมบูรณ์ด้วยศรัทธา. เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ ท่านยังอยู่ในเทวโลก เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานแล้ว จึงได้เกิด พอท่านบรรลุนิติภาวะแล้ว ได้พบเห็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรม เขากระทำเทียนธูปดอกไม้และของหอมเป็นต้นนานาชนิดให้เป็นเครื่องบูชา จนตลอดชีวิตเห็นปานนี้ จุติจากมนุษยโลกนั้นแล้วบังเกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติกลับไปกลับมาใน ในพระศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปะ ได้บวชบำเพ็ญสมณ ท่านพอได้บรรลุพระอรหัตผลแล้วอย่างนี้ จึงได้ระลึกถึงบุพ โลกนาถะ ในคาถานี้หมายถึงที่พึ่ง คือประธานของชาวโลก. อธิบายว่า เจ้าของแห่งชาวโลกทั้ง ๓. เชื่อมความว่า เมื่อพระโลกนาถเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะปรินิพพานแล้ว. บทว่า วิตฺถาริเต ปาวจเน ความว่า เมื่อปาพจน์คือพระไตรปิฎก กว้าง บทว่า พาหุชญฺญมฺหิ สาสเน ความว่า เมื่อหมู่ชนเป็นอันมากได้แก่พระ บทว่า ปสนฺนจิตฺโต สุมโน ความว่า ในกาลนั้น เราไม่มีโอกาสได้เกิดพบพระพุทธเจ้าขณะยังทรงพระชนม์อยู่ เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้วจึงได้จุติจากเทว ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า สีหาสนมกาสหํ ฯ เป ฯ ฆรํ ตตฺถ อกาสหํ ดังนี้. บทว่า เตน จิตฺตปฺปสาเทน ความว่า เรามีจิตเลื่อมใสสร้างอาสนะสีหะถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า คล้ายกับว่าพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่. บทว่า ตุสิตํ อุปปชฺชหํ ความว่า เราได้บังเกิดในดุสิตภพ. บทว่า อายาเมน จตุพฺพีส ความว่า วิมานมีส่วนยาวและสูง ๒๔ โยชน์ เกิดปรากฏแก่ข้าพเจ้าผู้เกิดเป็นเทวดาในดุสิตภพนั้น ด้วยบุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญเป็นอย่างดี และวิมานกว้าง ๑๔ โยชน์ ได้บังเกิดมีในขณะที่ข้าพเจ้าได้เกิดแล้วทีเดียว. คำที่เหลือพอรู้ได้ง่ายอยู่แล้ว. บทว่า จตุนฺนวุเต อิโต กปฺเป ความว่า เราได้กระทำ คือได้บำเพ็ญกรรมมาในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้. ความว่า ตั้งแต่นั้นมา ด้วยพลังแห่งบุญ เราจึงได้ไม่รู้จักทุคติอะไรเลย คือทุคติอะไรๆ ไม่เคยได้มีเลย. บทว่า เตสตฺตติมฺหิโต กปฺเป ได้แก่ ในกัปที่ ๗๓ แต่กัปนี้. บทว่า อินฺทนามา ตโย ชนา ความว่า พระเจ้าจักรพรรดิ ๓ พระองค์พระนามว่าอินทะ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าอินทะ ในกัปหนึ่ง ๓ ชาติ. บทว่า เทฺว สตฺตติมฺหิโต กปฺเป ได้แก่ ในกัปที่ ๗๒ แต่กัปนี้. คน ๓ คนที่มีชื่อว่าสุมนะ คือได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิถึง ๓ ครั้ง. บทว่า สมสตฺตติโต กปฺเป ความว่า เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓ ครั้งผู้มีพระนามอย่างนี้คือ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าวรุณ ในกัปที่ ๗๐ ไม่หย่อนไม่ยิ่งแต่กัปนี้ คือได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่สมบูรณ์ด้วยจักรรัตนะทุกอย่างในทวีปทั้ง ๔. คำที่เหลือพอรู้ได้อยู่แล้ว. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๒. สีหาสนิวรรค ๑. สีหาสนทายกเถราปทาน (๑๑) จบ. |