บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
พระเถระแม้นี้ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าอัตถทัสสี บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง บรรลุนิติภาวะแล้ว เลื่อม พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับแล้ว ก็แลครั้นทรงรับที่จงกรมแล้ว ทรงเข้าสมาธิอันสำเร็จทางกายและจิตอันเป็นสุข แล้วทรงพยากรณ์ว่า ในอนาคต ผู้นี้จักได้เป็นสาวกในพระศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าโคตมะ. ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เสวยสมบัติทั้งสอง. ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้ว เพียบพร้อมด้วยศรัทธา บวชในศาสนา ไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัต. ท่านได้ปรากฏโดยนามแห่งบุญที่ท่านบำเพ็ญมาว่า จังกมนทานยกเถระ ดังนี้. วันหนึ่ง ท่านระลึกถึงบุญกรรมที่ตนเคยบำเพ็ญในกาลก่อน เกิดโสมนัส เมื่อจะ บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อตฺถทสฺสิสฺส ความว่า ชื่อว่าอัตถทัสสี เพราะเห็นประโยชน์ คือความเจริญงดงาม ได้แก่พระนิพพาน, อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่าอัตถทัสสี เพราะมีปกติรู้เห็นประโยชน์คือพระนิพพาน. เชื่อมความว่า ข้าพเจ้าได้สร้างที่จงกรมอันน่ารื่นรมย์ใจ เป็นที่หลักเร้น เป็นที่เจริญภาวนาพึงกระทำไว้ในใจ ถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้มีปกติเห็นประโยชน์นั้น ผู้เป็นมุนีคือผู้ประกอบด้วยญาณคือโมนะเครื่องเป็นผู้นิ่ง. คำที่เหลือมีอรรถรู้ได้ง่ายทั้งนั้น ตามกระแสแห่งนัยที่กล่าวแล้วนั่นแล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๕. อุปาลีวรรค ๘. จังกมทายกเถราปทาน (๔๘) จบ. |