บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
พึงทราบวินิจฉัยในธรรมอันเป็นอัพยากฤตต่อไป. กามาวจรวิบากย่อมเป็นเหมือนกันบ้าง ไม่เหมือนกันบ้างกับกุศลจิตของตน เพราะฉะนั้น วิบากจิตของกุศลนั้น ท่านจึงมิได้จำแนกให้เป็นวิบากคล้อยตามกุศล. ส่วนรูปาวจรวิบากและอรูปาวจรวิบาก ย่อมเป็นเช่นเดียวกับกุศลของตน เหมือนเงาทั้งหลายมีเงาช้างม้าและต้นไม้เป็นต้น ย่อมเป็นเช่นช้างม้าและต้นไม้เป็นต้นนั่นแหละ ดังนั้น ท่านจึงจำแนกทำให้คล้อยตามกุศล. อนึ่ง กามาวจรกุศลย่อมให้วิบากในกาลบางครั้งบางคราวก็ได้ ส่วนรูปาวจรกุศลและอรูปาวจรกุศลย่อมให้วิบากเฉพาะอัตภาพในภพที่สองทีเดียวโดยไม่มีอันตราย แม้เพราะเหตุนี้ ท่านจึงจำแนกให้เป็นเช่นกับกุศลนั่นแหละ. คำที่เหลือพึงทราบโดยนัยที่กล่าวในกุศลนั่นแล. ส่วนความแตกต่างกันมีดังนี้. พึงทราบประเภทมีปฏิปทาเป็นต้น และความเป็นหีนจิต ปณีตจิตและมัชฌิมจิต เพราะการมาแห่งฌานในรูปาวจรวิบากและอรูปาวจรวิบากเหล่านี้. แต่วิบากเหล่านี้ไม่มีอธิบดีเลย เพราะไม่ทำธรรมมีฉันทะเป็นต้นดวงใดดวงหนึ่งให้เป็นธุระเกิดขึ้นแล. รูปาวจรวิบากและอรูปาวจรวิบาก จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ธรรมสังคณีปกรณ์ จิตตุปปาทกัณฑ์ อัพยากตธรรม รูปาวจรวิบากและอรูปาวจรวิบาก จบ. |