บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ว่าด้วยทานที่บุคคลให้แล้วแต่โลกนี้ ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายราชคิริกะและสิทธัตถิกะทั้งหลายว่า วัตถุอันใดมีจีวรทานเป็นต้นที่บุคคลให้แล้วจากโลกนี้มีอยู่ เปรตทั้งหลายย่อมยังอัตภาพให้เป็นไปได้ด้วยวัตถุอันนั้นนั่นแหละ ดังนี้ เพราะอาศัยพระบาลีว่า ชนทั้งหลายผู้ละไปแล้ว คือผู้ที่ตายไปแล้ว ย่อมยังอัตภาพให้เป็นไปในเปตโลกนั้น ด้วยทานอันบุคคลให้แล้วแต่โลกนี้ ดังนี้. คำถามของสกวาทีว่า ทานที่บุคคลให้แล้วแต่โลกนี้ เป็นต้น โดยหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ถูกสกวาทีซักถามปัญหาด้วยการให้จีวรเป็นต้นอีก ก็ตอบปฏิเสธ. ข้อว่า ผู้อื่นเป็นผู้กระทำแก่ผู้อื่น ข้อนี้ท่านอธิบายไว้ว่า ผู้อื่นเป็นผู้ทำกรรมทั้งหลายเพื่อให้วิบากเกิดแก่ผู้อื่น มิใช่ตนเองทำให้แก่ตน. ก็ปรวาทีนั้นถูกถามปัญหาอย่างนี้ ก็ตอบปฏิเสธ เพราะกลัวผิดจากพระสูตร. คำว่า พวกเปรตเห็นเขาให้ทาน อธิบายว่า เห็นบุคคลผู้ให้ทาน. ในคำเหล่านั้น บัณฑิตพึงทราบเนื้อความว่า ก็โภคะทั้งหลายย่อมเกิดขึ้นแก่เปรตทั้งหลายเหล่านั้นในที่นั้น เพราะการอนุโมทนาของตน เหตุใด เพราะเหตุนั้น ลัทธิของปรวาทีนั้น แม้ตั้งอยู่ด้วยเหตุนี้ ก็นับว่าไม่เป็นอันตั้งอยู่ได้ เพราะว่า เปรตทั้งหลายเหล่านั้นย่อมยังอัตภาพให้เป็นไปได้ด้วยวัตถุอันบุคคลให้แล้วแต่โลกนี้ก็หาไม่. ในการนำพระสูตรมาอ้างแม้ที่เหลือก็มีนัยนี้นั่นแหละ. อรรถกถาอิโตทินนกถา จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ วรรคที่ ๗ อิโตทินนกถา จบ. |