ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 37 / 1อ่านอรรถกถา 37 / 1219อรรถกถา เล่มที่ 37 ข้อ 1221อ่านอรรถกถา 37 / 1235อ่านอรรถกถา 37 / 1898
อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์
วรรคที่ ๘ รูปธาตุยา อายตนะกถา

               อรรถกถารูปธาตุยา อายตนกถา               
               ว่าด้วยอายตนะในรูปธาตุ               
               บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องอายตนะในรูปธาตุ.
               ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายอันธกะและสมิติยะทั้งหลายว่า อัตภาพของหมู่พรหมเหล่านั้นมีอายตนะครบทั้ง ๖ เพราะอาศัยพระสูตรว่า พวกพรหมที่มีรูป มีความสำเร็จได้ด้วยใจ มีอวัยวะน้อยใหญ่ทั้งปวง มีอินทรีย์อันไม่บกพร่อง คือมีอัตภาพสมบูรณ์ ดังนี้ จึงสำคัญว่า แม้ฆานนิมิตคือรูปร่างของจมูก ของพวกพรหมเหล่านั้นว่า เป็นอายตนะเทียว คือหมายความว่าเป็นฆานายตนะนั่นแหละ ดังนี้ คำถามของสกวาทีว่า อัตภาพของพวกพรหมมีอายตนะทั้ง ๖ โดยหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาทีด้วยสามารถแห่งลัทธิ.
               ทีนั้น สกวาทีเพื่อจะท้วงด้วยสามารถแห่งอายตนะที่ไม่มีอยู่ในพวกพรหมนั้น จึงเริ่มกล่าวกะปรวาทีนั้นว่า ในรูปธาตุนั้นมีฆานายตนะหรือ เป็นต้น. ลำดับนั้น ปรวาทีก็ตอบรับรองด้วยลัทธิว่า สัณฐานนิมิตของอายตนะทั้ง ๓ คือฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะที่เป็นภายในมีฆานายตนะเป็นต้น อันใดมีอยู่ในรูปธาตุนั้น สัณฐานนิมิตนั้นนั่นแหละเป็นอายตนะ ดังนี้.
               ถูกถามด้วยสามารถแห่งคันธายตนะเป็นต้นซึ่งเป็นของภายนอก ปรวาที เมื่อเสพคุ้นอยู่ซึ่งอารมณ์แห่งฆานายตนะเป็นต้นนั้นจึงไม่ปรารถนาฆานปสาทเป็นต้นในรูปธาตุนั้น เพราะฉะนั้น จึงตอบปฏิเสธ.
               ในปัญหาปฏิโลมและปัญหาว่าด้วยการเปรียบเทียบทั้งหลาย บัณฑิตพึงทราบเนื้อความโดยอุบายนี้แหละ.
               คำว่า ในรูปธาตุนั้น มีฆานายตนะ มีคันธายตนะและสูดกลิ่นนั้นด้วย ฆานะนั้นหรือ ดังนี้ สกวาทีกล่าวหมายถึงอาจารย์บางพวกในลัทธิอื่นเท่านั้น.
               ได้ยินว่า อาจารย์บางพวกเหล่านั้นมีความสำคัญว่า ในรูปธาตุนั้นมีอายตนะภายในครบทั้ง ๖ บริบูรณ์ แต่ชื่อว่าอายตนะก็พึงทำกิจของตน คือรับอารมณ์ได้ตามหน้าที่ เพราะฉะนั้น อายตนะเหล่านั้นจึงสูดกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องซึ่งกลิ่นเป็นต้นเหล่านั้น ด้วยฆานะเป็นต้นเหล่านั้น ดังนี้.
               ปรวาทีอาศัยลัทธินั้น จึงตอบรับรองว่า ใช่.
               ก็ถูกถามคำว่า ในรูปธาตุนั้น มีกลิ่นเกิดแต่รากไม้ ดังนี้ เป็นต้น ปรวาทีเมื่อไม่อาจยังความเป็นอายตนะภายนอกให้ปรากฏได้ จึงตอบปฏิเสธ.
               คำว่า ในรูปธาตุนั้นมีฆานนิมิตมิใช่หรือ เป็นต้น คำนั้นสำเร็จแต่เพียงเป็นรูปร่างสัณฐานเท่านั้น หาได้สำเร็จเป็นอายตนะไม่ เพราะฉะนั้น คำนั้น แม้ท่านปรวาทีนำมาตั้งเป็นลัทธิไว้แล้วก็เหมือนมิได้นำมา ดังนี้แล.

               อรรถกถารูปธาตุยา อายตนกถา จบ.               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ วรรคที่ ๘ รูปธาตุยา อายตนะกถา จบ.
อ่านอรรถกถา 37 / 1อ่านอรรถกถา 37 / 1219อรรถกถา เล่มที่ 37 ข้อ 1221อ่านอรรถกถา 37 / 1235อ่านอรรถกถา 37 / 1898
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=37&A=12200&Z=12341
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=5340
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=5340
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๗  เมษายน  พ.ศ.  ๒๕๕๗
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :