บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ว่าด้วยความยินดีในสิ่งที่ไม่ชอบใจ ในเรื่องนั้น พระสูตรว่า บุคคล...เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง สุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ตาม เขาเพลิดเพลิน บ่นถึง หมกมุ่นเวทนานั้น ดังนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วด้วยสามารถแห่งความเพลิดเพลินในสิ่งที่บุคคลประสบมาแล้ว. ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายอุตตราปถกะทั้งหลายว่า ความยินดีเพลิดเพลินแม้ในทุกขเวทนา ด้วยอำนาจแห่งความชอบใจในราคะ เพราะอาศัยคำในพระสูตรว่า บุคคลนั้นประสบความยินดียิ่ง มีอยู่ เหตุใด เพราะเหตุนั้น ความยินดีในสิ่งที่ไม่ชอบใจก็ต้องมีอยู่ ดังนี้ คำถามของสกวาทีว่า ความยินดีในสิ่งที่ไม่ชอบใจ โดยหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ในบรรดาคำเหล่านั้น คำว่า ความยินดีในสิ่งที่ไม่ชอบใจ ความว่า ปรวาทีตอบรับรองว่า ใช่ ด้วยสามารถแห่งลัทธิ เพราะกิเลสเครื่องทำใจให้เศร้าหมองในข้อว่า โอหนอ ความยินดีนั้นนั่นแหละพึงมีแก่เราในการเสวยทุกข์อันไม่ชอบใจ. คำที่เหลือในที่นี้มีอรรถตื้นทั้งนั้นแล. อนึ่ง ในพระสูตรว่า เขาเพลิดเพลินบ่นถึงหมกมุ่นเวทนานั้น อธิบายว่า ขึ้นชื่อว่า ความเกิดขึ้นแห่งราคะย่อมหมุนกลับมาปรารภทุกขเวทนานั่นแหละย่อมไม่มี แต่เมื่อถือเอาโดยส่วนรวมแล้ว บุคคลเมื่อพิจารณาเห็นอยู่ซึ่งธรรมอันมีการเสวยอารมณ์เป็นลักษณะ หรือซึ่งทุกขเวทนานั่นเทียวโดยความเป็นอัตตา เขาย่อมยินดีเวทนานั้นด้วยความยินดีต่อสิ่งที่ตนประสบแล้ว กล่าวคือในความรู้ต่อสิ่งที่ตนทราบแล้ว มิใช่ยินดีในความเปลี่ยนแปลงมาเป็นทุกขเวทนา บุคคลผู้ถูกทุกขเวทนาครอบงำแล้วแม้ปรารถนาซึ่งกามสุขอันเป็นฝ่ายตรงข้ามกับทุกขเวทนานั้น ก็ชื่อว่าย่อมยินดีต่อทุกขเวทนา ความยินดีในทุกขเวทนาแห่งปัญหานี้ ย่อมมีด้วยประการฉะนี้ ดังนี้ เพราะฉะนั้น พระสูตรนี้จึงมิใช่ข้อพิสูจน์ความยินดีในสิ่งที่ไม่ชอบใจ ด้วยประการฉะนี้แล. อรรถกถาอสาตราคกถา จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ วรรคที่ ๑๓ อสาตราคกถา จบ. |