ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 37 / 1อ่านอรรถกถา 37 / 1689อรรถกถา เล่มที่ 37 ข้อ 1695อ่านอรรถกถา 37 / 1699อ่านอรรถกถา 37 / 1898
อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์
วรรคที่ ๑๗ นัตถิ อรหโต อกาลมัจจูติกถา

               อรรถกถานัตถิ อรหโต อกาลมัจจูติกถา               
               ว่าด้วยพระอรหันต์ไม่มีอกาลมรณะ               
               บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องพระอรหันต์ไม่มีอกาลมรณะ คือการตายในเวลาอันไม่สมควรของพระอรหันต์ไม่มี.
               ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายราชคิริกะและสมิติยะทั้งหลายว่า ชื่อว่าพระอรหันต์ต้องเสวยกัมมวิบากทั้งปวงแล้วจึงจะปรินิพพาน ดังนี้ เพราะถือเอาเนื้อความแห่งพระสูตรว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่กล่าวความที่กรรมอันเป็นไปด้วยสัญเจตนาที่บุคคลทำแล้วสะสมแล้วจะสิ้นสุดไป เพราะมิได้เสวยผล แต่กรรมนั้นแลจะให้ผลในทิฏฐธรรมเทียว หรือในภพที่ถัดไป หรือในภพอื่นสืบๆ ไป ดังนี้ โดยไม่พิจารณา.
               คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที.
               ลำดับนั้น สกวาทีเพื่อจะท้วงว่า ผิว่า อกาลมรณะของพระอรหันต์ไม่มีไซร้ ชื่อว่าผู้ฆ่าพระอรหันต์ก็ไม่พึงมี ดังนี้ จึงกล่าวว่า อรหันตฆาต คือผู้ฆ่าพระอรหันต์ ไม่มีหรือ ปรวาทีตอบปฏิเสธเพราะความที่อนันตริยกรรมและบุคคลผู้เป็นเช่นนั้นนั่นแหละมีอยู่พร้อม.
               ในปัญหาว่า ยาพิษ...ไม่พึงเข้าไปในกาย ปรวาทีตอบปฏิเสธเพราะลัทธิว่า กรรมที่ท่านทำไว้ในกาลก่อนยังไม่สิ้นไปตราบใด ยาพิษก็ไม่ทำอันตรายตราบนั้น ดังนี้.
               คำที่เหลือในที่นี้ พึงทราบตามพระบาลีนั่นแหละ.
               พระสูตรว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่กล่าว เป็นต้น ที่ปรวาทีกล่าวแล้วหมายเนื้อความนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เราไม่กล่าวความที่กรรมอันเป็นไปด้วยสัญเจตนาที่บุคคลทำแล้วสะสมแล้วจะสิ้นสุดไป เพราะมิได้รับมิได้ประสบมิได้เสวยผล คือหมายความว่า ไม่ทรงกล่าวซึ่งความที่กรรมเหล่านั้นเป็นของสิ้นสุดโดยวิถีทั้งหมด ก็แลเมื่อกรรมที่ให้ผลในทิฏฐธรรมมีอยู่กรรมนั้นนั่นแหละพึงให้ผลในทิฏฐธรรม มิใช่ให้ผลในภพอื่นๆ เมื่อกรรมที่ให้ผลในภพหน้าคือภพที่ ๒ มีอยู่ กรรมนั้นย่อมให้ผลในภพนั้นไม่ให้ผลในภพอื่น เมื่อกรรมที่จะให้ผลในภพอื่นๆ มีอยู่ในกาลใด กรรมนั้นได้โอกาสให้ผลในกาลนั้นย่อมให้ผล ด้วยประการฉะนี้.
               อีกนัยหนึ่ง ในปริยายอื่นอีกที่มีสภาพอย่างนี้ มีอธิบายว่า
               ครั้นเมื่อความเป็นไปแห่งสังขาร คือการท่องเที่ยวไป แม้ในที่ทั้งปวง มีอยู่ ประเทศของโลกนั้นย่อมไม่เว้นจากวาระของการให้ผลของกรรมด้วยประการฉะนี้ บุคคลอยู่ในที่ใดๆ จึงไม่พ้นจากบาปกรรม ครั้นเมื่อความเป็นเช่นนี้มีอยู่ กรรมอย่างใดอย่างหนึ่งที่ยังเหลืออยู่แม้อย่างหนึ่ง ยังไม่มีโอกาสให้ผลในกาลก่อน พระอรหันต์ก็พึงเสวยผลแห่งกรรมนั้น เพราะฉะนั้น ว่าโดยกาลเหมาะสมแล้ว การตั้งลัทธิว่า พระอรหันต์ไม่มีอกาลมรณะ ดังนี้ที่ปรวาทีทำแล้ว จึงชื่อว่าทำไว้ไม่ดี ด้วยประการฉะนี้แล.

               อรรถกถานัตถิ อรหโต อกาลมัจจูติกถา จบ.               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ วรรคที่ ๑๗ นัตถิ อรหโต อกาลมัจจูติกถา จบ.
อ่านอรรถกถา 37 / 1อ่านอรรถกถา 37 / 1689อรรถกถา เล่มที่ 37 ข้อ 1695อ่านอรรถกถา 37 / 1699อ่านอรรถกถา 37 / 1898
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=37&A=17655&Z=17696
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=6525
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=6525
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๘  เมษายน  พ.ศ.  ๒๕๕๗
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :