ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 37 / 1อ่านอรรถกถา 37 / 389อรรถกถา เล่มที่ 37 ข้อ 408อ่านอรรถกถา 37 / 426อ่านอรรถกถา 37 / 1898
อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์
เอกัจจมัตถีติกถา

               อรรถกถาเอกัจจมัตถีติกถา               
               ว่าด้วยบางอย่างมีอยู่               
               บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องบางอย่างมีอยู่.
               ในปัญหาเหล่านั้น ชนเหล่าใดย่อมสำคัญว่าอดีตธรรมบางอย่างมีอยู่ ดุจนิกายกัสสปิกะทั้งหลาย เพื่อทำลายลัทธิแห่งชนเหล่านั้น สกวาทีจึงถามว่า "อดีตมีอยู่หรือ" คำวิสัชชนาว่า "อดีตบางอย่างมีอยู่" เป็นต้น เป็นของปรวาที. พึงทราบความหมายแห่งคำวิสัชชนาของปรวาทีนั้นว่า วิปากธรรมอันยังไม่ให้ผลมีอยู่ วิปากธรรมที่ให้ผลแล้วไม่มีอยู่. คำซักถามว่า "อดีตบางอย่างดับไปแล้ว" เป็นของสกวาที.
               อธิบายเนื้อความแห่งปัญหานั้นว่า ถ้าว่า อดีตธรรมบางอย่างมี บางอย่างไม่มีตามลัทธิของท่านไซร้ ครั้นเมื่อความเป็นเช่นนั้นมีอยู่ อดีตธรรมบางอย่างที่ดับไป และอดีตธรรมบางอย่างที่ยังไม่ดับไป ก็จะปรากฏว่าตั้งอยู่เหมือนกัน.
               แม้ในคำทั้งหลาย คำว่า "บางอย่างปราศจากไปแล้ว" ก็นัยนี้เหมือนกัน.
               คำนี้ว่า "ธรรมอันยังไม่ให้ผลที่เป็นอดีตบางอย่าง" ท่านสกวาทีกล่าวเพื่อจะท้วงว่า ท่านย่อมต้องการความมีอยู่แห่งวิปากที่ยังไม่ให้ผลทั้งหลาย แต่ธรรมแม้เหล่านั้นก็เป็นอดีตธรรมทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นตามลัทธิของท่าน อดีตธรรมบางอย่างมีอยู่ ฉันใด ธรรมทั้งหลายแม้เป็นวิบากที่ยังไม่ให้ผลบางอย่างมีอยู่ บางอย่างไม่มีอยู่ ฉันนั้น หรือ.
               คำว่า "ธรรมอันให้ผลแล้ว" นี้ ท่านกล่าวเพื่อจะท้วงด้วยสามารถแห่งวิบากธรรมที่ปรวาทีนั้น ปรารถนาความไม่มีอยู่แห่งธรรมเหล่านั้น
               คำว่า "ไม่มีวิบาก" นี้ ท่านกล่าวเพื่อจะท้วงด้วยสามารถแห่งความเป็นอัพยากตะทั้งหลาย. คำรับรองด้วยคำปฏิเสธด้วย ในอนุโลมและปฏิโลมทั้งปวง บัณฑิตพึงทราบด้วยสามารถแห่งราสีทั้ง ๓ เหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้.
               ธรรมคือวิบากอันให้ผลแล้วส่วนหนึ่ง ยังไม่ให้ผลส่วนหนึ่งที่เป็นอดีต ธรรมเหล่านั้น ท่านเรียกว่า วิบากที่ให้ผลยังไม่หมด.
               จริงอยู่ ปฏิสนธิ เกิดแล้วด้วยกรรมใด ภวังคจิตก็ดี จุติจิตก็ดี ก็เป็นวิบากของกรรมนั้นนั่นแหละ เพราะฉะนั้นวิบากนั้นตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงจุติ จึงชื่อว่าเป็นวิบากที่ยังให้ผลไม่หมด. ข้อนี้ ท่านกล่าวหมายเอาธรรมเช่นนั้น.
               คำถามว่า "ธรรมเหล่านั้นชื่อว่า มีอยู่ เพราะทำอธิบายว่า ยังจักให้ผลหรือ?" เป็นของสกวาที. ธรรมทั้งหลายที่เป็นไปโดยมาก ท่านย่อมกล่าวว่า มีอยู่ แม้แก่บุคคลผู้ทรงธรรม แม้แก่ผู้หลับ ฉันใด คำรับรองของปรวาที หมายเอาความมีอยู่แห่งธรรมเหล่านั้น ด้วยสามารถแห่งโวหารของชาวโลก ฉันนั้น.
               ในปัญหาที่ ๒ "ชื่อว่าปัจจุบัน เพราะทำอธิบายว่า ยังจักให้ผลหรือ?" คำรับรองเป็นของปรวาที เพราะตั้งอยู่ในลัทธิว่า ชื่อว่ากรรมปัจจัยอันหนึ่ง อันบัณฑิตนับพร้อมแล้วว่าความไม่พินาศไปมีอยู่แก่กรรมทั้งหลาย. แม้ในคำเป็นต้นว่า "อนาคตมีอยู่หรือ" สกวาทีกล่าวหมายเอาธรรมทั้งหลายอันจักบังเกิดขึ้นว่า บางอย่างมีอยู่. คำที่เหลือในที่ทั้งปวง มีเนื้อความตื้นทั้งนั้น เพราะมีนัยอันกล่าวแล้วในหนหลังแล.

               อรรถกถาเอกัจจมัตถีติกถา จบ.               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ เอกัจจมัตถีติกถา จบ.
อ่านอรรถกถา 37 / 1อ่านอรรถกถา 37 / 389อรรถกถา เล่มที่ 37 ข้อ 408อ่านอรรถกถา 37 / 426อ่านอรรถกถา 37 / 1898
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=37&A=4912&Z=5050
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=3992
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=3992
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๔  เมษายน  พ.ศ.  ๒๕๕๗
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :