บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ได้ยินว่า กุลบุตรผู้หนึ่งบวชถวายชีวิตในพระพุทธศาสนา วันหนึ่ง เที่ยวบิณฑ พระบรมศาสดาตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ จริงหรือที่ว่าเธอกระสัน. เมื่อเธอกราบทูลว่า จริง พระเจ้าข้า. ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ขึ้นชื่อว่า เบญจกามคุณเหล่านี้ น่ารื่นรมย์ในเวลาบริโภค แต่ว่า การ อันภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น กราบทูลอาราธนา ทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :- ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ อยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิ ครั้นพระโพธิสัตว์มาถึงที่นั้น ก็ร้องบอกพวกที่ถือยืนรอนั้นให้ทิ้งผลไม้เสีย บอกให้พวกที่พากันกินเข้าไปแล้วทำการสำรอก แล้วให้ยาพวกนั้นกิน พวกเหล่านั้นบางคนก็หาย แต่พวกที่กินเข้าไปก่อนพวกทีเดียว พากันสิ้นชีวิต. ฝ่ายพระโพธิสัตว์เดินทางถึงสถานที่ต้องการจะไปโดยสวัสดี ได้ลาภแล้ว กลับมาถึงสถานที่ของตนดังเดิม กระทำบุญมีให้ทานเป็นต้น แล้วไปตามยถากรรม. พระศาสดาตรัสเรื่องนั้นแล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :- ผู้ใดไม่รู้โทษในอนาคต มัวเสพกามอยู่ ผลที่สุด กามเหล่านั้น ก็จะกำจัดบุคคลนั้นเสีย เหมือน บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อายตึ โทสํ นาญฺญาย ความว่า ไม่รู้คือไม่ทราบถึงโทษในกาลภายหน้า. บทว่า โย กาเม ปฏิเสวติ ความว่า บุคคลใดซ่องเสพวัตถุกามและกิเลสกาม. บทว่า วิปากนฺเต หนนฺตี นํ ความว่า กามเหล่านั้นจะยังบุรุษนั้น ผู้เกิดแล้วในนรกเป็นต้นในที่สุด กล่าวคือวิบากของตน ให้พัวพันอยู่ด้วยทุกข์มีประการต่างๆ ชื่อว่าย่อมกำจัดเขาเสีย. กำจัดอย่างไร? อย่างเดียวกับผลกิมปักกะที่บุคคลบริโภคแล้วฉะนั้น. อธิบายว่า อุปมาเหมือนผลกิมปักกะน่าชอบใจ เพราะถึงพร้อมด้วยสี กลิ่นและรสในเวลาบริโภค ทำให้คนที่ไม่เห็นโทษในอนาคต กินแล้วถึงความสิ้นชีวิตไปตามๆ กัน ฉันใด กามทั้งหลาย แม้จะน่าชอบใจในเวลาบริโภค ก็จะกำจัดเขาเสียในเวลาให้ผล ฉันนั้น. พระบรมศาสดาทรงแสดงธรรมตามอนุสนธิ แล้วทรงประกาศสัจธรรม ภิกษุผู้กระสันบรรลุโสดาปัตติผล บริษัทที่เหลือ บางพวกเป็นพระโสดา พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า บริษัทในครั้งนั้น ได้มาเป็น พุทธบริษัท ส่วนนายกองเกวียนได้มาเป็น เราตถาคต ฉะนี้แล. .. อรรถกถา กิมปักกชาดก จบ. |