บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ได้ยินว่า อำมาตย์คนหนึ่งของพระเจ้าโกสล ก่อการร้ายขึ้นภายในพระราชวัง พระราชาทรงสอบสวน ทรงทราบเรื่องนั้นโดยถ่องแท้แล้ว จึงเสด็จไปยังพระเชตวัน ด้วยทรง ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสถามพระราชานั้นว่า มหาบพิตร ก็อำมาตย์ผู้นั้นมีอุปการะ เมื่อพระราชาทูลอาราธนา จึงทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า. ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิ เมื่อจะตรัสถามปัญหา จึงตรัสคาถาแรกว่า :- สระโบกขรณีมีน้ำใสสะอาดเกิดอยู่ที่เชิงเขาลาดน่ารื่นรมย์ สุนัขจิ้งจอกรู้ว่าสระนั้นอันราชสีห์รักษาอยู่ แล้วลงไปอาบน้ำได้. ในบทเหล่านั้น บทว่า ปพฺพตูปตฺถเร รมฺเม คือ ในที่เนินตั้งลาดลงไปในเชิงเขาหิมพานต์. บทว่า ชาตา โปกฺขรณี สิวา คือสระโบกขรณีมีน้ำเย็นอร่อยเกิดแล้ว. อีกอย่างหนึ่ง แม้แม่น้ำที่ดาดาษไปด้วยดอกบัว ก็ชื่อว่าโบกขรณีเหมือนกัน. อป ศัพท์ในบทว่า อปาปาสิ เป็นอุปสรรค ความว่า ได้ดื่มแล้ว. บทว่า ชานํ สีเหน รกฺขิตํ ความว่า สระโบกขรณีนั้น สำหรับเป็นที่บริโภคของราชสีห์อันราชสีห์รักษา. สุนัขจิ้งจอกนั้น ทั้งที่รู้อยู่ว่า สระโบกขรณีนี้ราชสีห์รักษาก็ดื่ม ท่านเข้าใจว่าอย่างไร สุนัขจิ้งจอกนั้นไม่กลัวราชสีห์หรือ จึงดื่มน้ำในสระโบกขรณีเห็นปานนี้ นี้เป็นข้ออธิบายในคาถานี้ พระโพธิสัตว์ทราบว่า อำมาตย์คนหนึ่ง ชะรอยจักก่อเหตุร้ายขึ้นในภายในพระ ข้าแต่มหาราช ถ้าสัตว์ทั้งหลายที่มีเท้าพากันดื่มน้ำในแม่น้ำใหญ่ แม่น้ำจะกลายเป็นไม่ใช่แม่น้ำ เพราะเหตุนั้นก็หามิได้ ถ้าบุคคลทั้งสองนั้นเป็นที่รักของพระองค์ พระองค์ก็ทรงงดโทษเสีย. ในบทเหล่านั้น บทว่า สาปทานิ ได้แก่ มิใช่สุนัขจิ้งจอกอย่างเดียวเท่านั้น สัตว์มีเท้าทั้งหมด มีสุนัข ม้า แมวและเนื้อก็ดื่มกิน. สัตว์ทั้งหลายย่อมดื่มน้ำในแม่น้ำอันชื่อว่า โบกขรณี เพราะดาดาษไปด้วยดอกบัว. บทว่า น เตน อนที โหติ ความว่า ก็สัตว์ทุกชนิดที่กระหาย ทั้งมีสองเท้าและสี่เท้า ทั้งงูและปลาย่อมดื่มน้ำในแม่น้ำ. แม่น้ำนั้นจะชื่อว่าไม่ใช่แม่น้ำ เพราะเหตุนั้นก็หามิได้ ทั้งชื่อว่าเป็นแม่น้ำเดนก็หามิได้. ถามว่าเพราะเหตุไร แก้ว่า เพราะเป็นของสาธารณ์แก่สัตว์ทั่วไป อนึ่ง แม่น้ำที่ใครๆ ดื่มย่อมไม่เสียหาย ฉันใด แม้หญิงก็ฉันนั้น ล่วงละเมิดสามีด้วยอำนาจกิเลส ไปอยู่ร่วมกับชายอื่น จะชื่อว่ามิใช่หญิง ก็หามิได้. ถามว่า เพราะเหตุไร. แก้ว่า เพราะเป็นของสาธารณ์แก่คนทั่วไป ทั้งไม่ชื่อว่าเป็นหญิงเดน. ถามว่า เพราะเหตุไร. แก้ว่า เพราะความเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยเปรียบเหมือนน้ำ. บทว่า ขมสฺสุ ยทิ เต ปิยา ความว่า หากว่า หญิงนั้นเป็นที่รักของพระองค์ และอำมาตย์นั้นเป็นผู้มีอุปการะมากแก่พระองค์ ขอพระองค์จงงดโทษแก่เขาทั้งสองเถิด คือทรงตั้งพระองค์ไว้เป็นกลาง. พระมหาสัตว์ได้ถวายโอวาทแก่พระราชาอย่างนี้ พระราชาทรงตั้งอยู่ในโอวาทของพระมหาสัตว์ แล้วมีพระดำรัสว่า ยกโทษแก่คนทั้งสองว่า ตั้งแต่นี้ไป เจ้าทั้งสองอย่าทำกรรมชั่วเช่นนี้อีก. พระราชาทรงทำบุญมีทานเป็นต้น เมื่อสิ้นพระชนม์ ทรงบำเพ็ญทางไปสวรรค์ให้บริบูรณ์. แม้พระราชาโกสลได้ทรงสดับพระธรรมเทศนานี้แล้ว ก็ทรงยกโทษให้คนทั้งสองเหล่านั้น วางพระองค์เป็นกลาง. พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก. พระราชาในครั้งนั้น ได้เป็น อานนท์ ในครั้งนี้ ส่วนอำมาตย์บัณฑิตได้เป็น เราตถาคต นี้แล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ปัพพตูปัตถรชาดก จบ. |