บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ได้ยินว่า พระมหาเถระนั้นให้กุมารน้อยบรรพชาแล้ว ทำให้ลำบากอยู่ ณ พระเชตวันนั้น. สามเณรนั้นไม่สามารถจะทนความลำบากได้จึงสึก. พระเถระไปเกลี้ยกล่อมกุมารน้อยนั้นว่า ดูก่อนกุมารน้อย จีวรของเธอคงเป็นของเธอตามเดิม แม้บาตรก็คงเป็นของเธอ ทั้งบาตรและจีวรก็คงเป็นของเธอ จงมาบรรพชาเถิด. กุมารน้อยนั้น แม้กล่าวว่า ผมจักไม่บรรพชา ถูกพระเถระรบเร้าบ่อยๆ เข้าก็บรรพชา. ครั้งนั้น พระเถระได้ทำให้สามเณรนั้นลำบากอีก ตั้งแต่วันที่บวช. สามเณรทนความลำบากไม่ไหวจึงสึกอีก แม้พระเถระเกลี้ยกล่อมอยู่หลายครั้งหลายครา ก็ไม่ยอมบวช โดยกล่าวว่า หลวงพ่อไม่เห็นใจผม หลวงพ่อขาดผมจะไม่สามารถเป็นไปได้เทียวหรือ ไปเถิดหลวงพ่อ ผมไม่บวชละ. ภิกษุทั้งหลายประชุมกันในโรงธรรมว่า อาวุโสทั้งหลาย ทารกนั้นใจดีจริงหนอ ทราบ ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิ ครั้นชมมหรสพแล้วในวันที่ ๗ จึงไปหาพ่อค้าถามว่า ลิงอยู่ที่ไหน. ลิงพอได้ยินเสียงเจ้าของรีบออกจากร้านขายข้าวเปลือก. ลำดับนั้น หมองูจึงเอาไม้เรียวตีหลังลิง พาไปสวนผูกไว้ข้างหนึ่ง แล้วหลับไป. ลิงรู้ว่าเจ้าของหลับ จึงแก้เชือกที่ผูกออกหนีไปขึ้นต้นมะม่วง กินผลมะม่วงสุก แล้วทิ้งเมล็ดลงตรงหัวหมองู. หมองูตื่นแลดูเห็นลิงนั้นแล้ว จึงคิดว่า เราจักลวงเจ้าลิงนั้นด้วยถ้อยคำไพเราะ ให้มันลงจากต้นไม้แล้วจึงจับมัน เมื่อจะเกลี้ยกล่อมลิงนั้น ได้กล่าวคาถาแรกว่า :- ดูก่อนพ่อสาลกวานร เจ้าเป็นลูกคนเดียวของพ่อ อนึ่ง พ่อจักได้เป็นใหญ่ในตระกูล ลิงได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :- ท่านสำคัญว่า เราเป็นสัตว์ใจดีจึงได้ตีเราด้วยเรียวไม้ไผ่ เราพอใจอยู่ในป่ามะม่วงที่มีผลสุก ท่านจงกลับไปบ้านตามสบายเถิด. ในบทเหล่านั้น บทว่า นนุ มํ สุหทโยติ มญฺญสิ ความว่า ท่านสำคัญเราว่าเป็นสัตว์มีใจดีมิใช่หรือ. อธิบายว่า ท่านสำคัญว่าลิงนี้เป็นสัตว์ใจดี. บทว่า ยญฺจ มํ หนสิ เวฬุยฏฺฐิยา ความว่า ท่านแสดงไว้ดังนี้ว่า ท่านดูหมิ่นเราด้วยเหตุใด และท่านเฆี่ยนเราด้วยไม้เรียวด้วยเหตุใด เหตุนั้นเราจึงไม่กลับไป เมื่อเป็นเช่นนั้น เราจึงพอใจในป่ามะม่วงนี้ เชิญท่านกลับไปเรือนตามสบายเถิด แล้วกระโดดเข้าป่าไป. แม้หมองูก็ไม่พอใจได้กลับไปเรือนของตน. พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก. ลิงในครั้งนั้นได้เป็น สามเณร ในครั้งนี้ หมองูได้เป็นพระมหาเถระ ส่วนพ่อค้าขายข้าวเปลือก คือ เราตถาคต นี้แล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา สาลกชาดก จบ. |