บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
มีคำเริ่มต้นว่า อุสภสฺเสว เต ขนฺโธ ดังนี้. เรื่องอันเป็นปัจจุบันเหมือนกับ เรื่องแรก นั่นเอง ส่วนเรื่องในอดีตมีดังต่อไปนี้. ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในพระนครพาราณสี พระโพธิ จึงกล่าวคาถาที่หนึ่งว่า :- ข้าแต่พระยาเนื้อ ร่างกายของท่านเหมือนร่างกายโคอุสุภราช ความองอาจของท่านเหมือนดังราชสีห์ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแก่ท่าน ทำอย่างไรข้าพเจ้าจึงจักได้อาหารสักหน่อย. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นโม ตฺยตฺถุ อันเป็น นโม เต อตฺถุ แปลว่า ขอนอบน้อมแด่ท่าน. สุนัขจิ้งจอกได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวคาถาที่สองว่า :- กุลบุตรย่อมรู้จักสรรเสริญกุลบุตร ดูก่อนกาผู้มีสร้อยคองามดุจนกยูง เชิญท่านลงจากต้นละหุ่งมากินเนื้อให้สบายเถิด.. บรรดาบทเหล่านั้น ด้วยบทว่า อิโต ปริยาท นี้ สุนัขจิ้งจอกกล่าวว่า ท่านลงจากต้นละหุ่ง คือมาจากต้นละหุ่งนี้จนถึงเรา แล้วจงกินเนื้อ. รุกขเทวดาเห็นกิริยาของสัตว์ทั้งสองนั้นจึงกล่าวคาถาที่สามว่า :- บรรดามฤคชาติทั้งหลาย สุนัขจิ้งจอกเป็นเลวที่สุด บรรดาปักษีทั้งหลาย กาเป็นเลวที่สุด บรรดารุกขชาติทั้งหลาย ต้นละหุ่งเป็นเลวที่สุด ที่สุดทั้ง ๓ ประเภทมาสมาคมกันแล้ว. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อนฺโต แปลว่า เลว คือ ลามก. พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงทรงประชุมชาดกว่า สุนัขจิ้งจอกในกาลนั้น ได้เป็น พระเทวทัต กาในกาลนั้น ได้เป็น พระโกกาลิกะ ส่วนรุกขเทวดา คือ เราตถาคต ฉะนี้แล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา อันตชาดก จบ. |