บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
๗. ปฐมปฏิสัมภิทาสูตร ว่าด้วยธรรมที่เป็นเหตุให้บรรลุปฏิสัมภิทา สูตรที่ ๑ [๓๘] ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๗ ประการ ไม่นานนัก ก็จะ ทำให้แจ้งปฏิสัมภิทา๑- ๔ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง เข้าถึงอยู่ ธรรม ๗ ประการ อะไรบ้าง คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ๑. รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า จิตของเรานี้หดหู่ ๒. รู้ชัดจิตท้อแท้ภายใน๒- ตามความเป็นจริงว่า จิตของเราท้อแท้ภายใน ๓. รู้ชัดจิตฟุ้งซ่านไปภายนอก๓- ตามความเป็นจริงว่า จิตของเราฟุ้งซ่าน ไปภายนอก ๔. รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า เวทนาปรากฏเกิดขึ้น ปรากฏตั้งอยู่ ปรากฏดับไป @เชิงอรรถ : @๑ ดู อภิ.วิ. (แปล) ๓๕/๗๑๘-๗๓๑/๔๕๙-๔๖๕, ๗๔๖-๗๔๗/๔๗๕, ๘๐๐/๕๑๓ @๒ จิตท้อแท้ภายใน ในที่นี้หมายถึงจิตที่ตกอยู่ในถีนมิทธะ (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๘/๑๗๙) @๓ จิตฟุ้งซ่านไปภายนอก ในที่นี้หมายถึงจิตที่ฟุ้งซ่านไปในกามคุณ ๕ ประการ (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๘/๑๗๙) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๓ หน้า : ๕๘}
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต ๔. เทวตาวรรค ๘. ทุติยปฏิสัมภิทาสูตร
๕. รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า สัญญาปรากฏเกิดขึ้น ปรากฏตั้งอยู่ ปรากฏดับไป ๖. รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า วิตกปรากฏเกิดขึ้น ปรากฏตั้งอยู่ ปรากฏดับไป ๗. กำหนดดี มนสิการดี ทรงจำดี แทงตลอดดีด้วยปัญญาซึ่งนิมิตใน ธรรมที่เป็นสัปปายะและอสัปปายะ๑- ที่เลวและประณีต ที่มีส่วนดำและขาว ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๗ ประการนี้แล ไม่นานนัก ก็จะทำให้ แจ้งปฏิสัมภิทา ๔ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง เข้าถึงอยู่ปฐมปฏิสัมภิทาสูตรที่ ๗ จบ ๘. ทุติยปฏิสัมภิทาสูตร ว่าด้วยธรรมที่เป็นเหตุให้บรรลุปฏิสัมภิทา สูตรที่ ๒ [๓๙] ภิกษุทั้งหลาย สารีบุตรประกอบด้วยธรรม ๗ ประการ จึงทำให้แจ้ง ปฏิสมภิทา ๔ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง เข้าถึงอยู่ ธรรม ๗ ประการ อะไรบ้าง คือ ในธรรมวินัยนี้ สารีบุตร ๑. รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า จิตของเรานี้หดหู่ ๒. รู้ชัดจิตท้อแท้ภายในตามความเป็นจริงว่า จิตของเราท้อแท้ภายใน ๓. รู้ชัดจิตฟุ้งซ่านไปภายนอกตามความเป็นจริงว่า จิตของเราฟุ้งซ่าน ไปภายนอก @เชิงอรรถ : @๑ นิมิตในธรรมที่เป็นสัปปายะและอสัปปายะ หมายถึงเหตุในธรรมที่เป็นอุปการะและที่ไม่เป็นอุปการะ @(องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๘/๑๗๙) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๓ หน้า : ๕๙}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒๓ หน้าที่ ๕๘-๕๙. http://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=23&siri=35 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=23&A=804&Z=818 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=35 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=23&item=35&items=1 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=16&A=3995 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=23&item=35&items=1 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=16&A=3995 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu23 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://84000.org/tipitaka/english/metta.lk/23i029-e.php#sutta7 https://suttacentral.net/an7.38/en/sujato
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]