ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๒ มหาวิภังค์ ภาค ๒
วรรคที่ ๓ ขัมภกตวรรค
สิกขาบทที่ ๑
[๘๒๐] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์เดินค้ำกายไปในละแวกบ้าน ...
พระบัญญัติ
๑๖๖. ๒๑. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่ทำความค้ำ ไปในละแวกบ้าน.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุไม่พึงเดินค้ำกายไปในละแวกบ้าน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ เดินค้ำกายข้าง เดียวก็ตาม ทั้งสองข้างก็ตาม ไปในละแวกบ้าน ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๑ จบ.
-----------------------------------------------------
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๒
[๘๒๑] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์นั่งค้ำกายในละแวกบ้าน ...
พระบัญญัติ
๑๖๗. ๒๒. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่ทำความค้ำ นั่งในละแวก บ้าน.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุไม่พึงนั่งค้ำกายไปในละแวกบ้าน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ นั่งค้ำกายข้าง เดียวก็ตาม ทั้งสองข้างก็ตาม ไปในละแวกบ้าน ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในที่พัก ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๒ จบ.
-----------------------------------------------------
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๓
[๘๒๒] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์เดินคลุมศีรษะไปในละแวกบ้าน ...
พระบัญญัติ
๑๖๘. ๒๓. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่คลุมศีรษะไปในละแวกบ้าน.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุไม่พึงคลุมศีรษะเดินไปในละแวกบ้าน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ เดินคลุม ศีรษะไปในละแวกบ้าน ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๓ จบ.
-----------------------------------------------------
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๔
[๘๒๓] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์นั่งคลุมศีรษะนั่งในละแวกบ้าน ...
พระบัญญัติ
๑๖๙. ๒๔. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่คลุมศีรษะนั่งในละแวกบ้าน.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุไม่พึงคลุมศีรษะนั่งในละแวกบ้าน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ คลุมศีรษะนั่ง ในละแวกบ้าน ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในที่พัก ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๔ จบ.
-----------------------------------------------------
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๕
[๘๒๔] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์กระหย่งเท้าเดินไปในละแวกบ้าน ...
พระบัญญัติ
๑๗๐. ๒๕. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่ไปในละแวกบ้าน ด้วยทั้ง ความกระหย่ง.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุไม่พึงมีการกระหย่งเท้าเดินไปในละแวกบ้าน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ เดินกระหย่งเท้าไปในละแวกบ้าน ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในที่พัก ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๕ จบ.
-----------------------------------------------------
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๖
[๘๒๕] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รัดเข่านั่งในละแวกบ้าน ...
พระบัญญัติ
๑๗๑. ๒๖. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่นั่งในละแวกบ้านด้วยทั้ง ความรัด.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุไม่พึงมีการรัดเข่านั่งในละแวกบ้าน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อนั่งรัดเข่าด้วย มือก็ดี รัดเข่าด้วยผ้าก็ดี ในละแวกบ้าน ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในที่พัก ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๖ จบ.
สารูป ๒๖ สิกขาบท จบ.
-----------------------------------------------------
โภชนปฏิสังยุต ๓๐ สิกขาบท
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๗
[๘๒๖] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รับบิณฑบาต โดยไม่เอาใจใส่ ทำ อาการดุจทิ้งเสีย ...
พระบัญญัติ
๑๗๒. ๒๗. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักรับบิณฑบาตโดยเอื้อเฟื้อ.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุพึงรับบิณฑบาตโดยเคารพ ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ รับบิณฑบาตโดยไม่ เคารพ ทำอาการดุจทิ้งเสีย ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๗ จบ.
-----------------------------------------------------
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๘
[๘๒๗] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รับบิณฑบาต พลางแลไปในที่นั้นๆ เมื่อเขากำลังเกลี่ยบิณฑบาตลงก็ดี เมื่อเกลี่ยเสร็จแล้วก็ดี หารู้สึกตัวไม่ ...
พระบัญญัติ
๑๗๓. ๒๘. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักจ้องในบาตรรับบิณฑบาต.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุพึงแลดูบาตรรับบิณฑบาต ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ รับบิณฑบาตพลาง เหลียวแลไปในที่นั้นๆ ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๘ จบ.
-----------------------------------------------------
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๙
[๘๒๘] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รับบิณฑบาต รับแต่สูปะเป็นส่วน มาก ...
พระบัญญัติ
๑๗๔. ๒๙. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักรับบิณฑบาตมีสูปะเสมอกัน.
สิกขาบทวิภังค์
ที่ชื่อว่า สูปะ มีสองชนิด คือ สูปะทำด้วยถั่วเขียว ๑ สูปะทำด้วยถั่วเหลือง ๑ ที่ จับได้ด้วยมือ. อันภิกษุพึงรับบิณฑบาตมีสูปะพอสมกัน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ รับแต่สูปะอย่าง เดียวเป็นส่วนมาก ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ รับกับข้าวต่างอย่าง ๑ รับของญาติ ๑ รับของผู้ปวารณา ๑ รับเพื่อประโยชน์แก่ภิกษุอื่น ๑ จ่ายมาด้วยทรัพย์ของตน ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๙ จบ.
-----------------------------------------------------
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๑๐
[๘๒๙] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รับบิณฑบาตถึงล้นบาตร ...
พระบัญญัติ
๑๗๕. ๓๐. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักรับบิณฑบาตจดเสมอขอบบาตร.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุพึงรับบิณฑบาตเสมอขอบปากบาตร ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ รับบิณฑบาต จนล้น ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้อง อาบัติแล.
ขัมภกตวรรค สิกขาบทที่ ๑๐ จบ.
วรรคที่ ๓ จบ.
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒ บรรทัดที่ ๑๕๔๕๓-๑๕๕๘๕ หน้าที่ ๖๗๒-๖๗๗. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=2&A=15453&Z=15585&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=2&siri=137              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=2&i=820              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [820-829] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=2&item=820&items=10              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=2&A=10458              The Pali Tipitaka in Roman :- [820-829] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=2&item=820&items=10              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=2&A=10458              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒ https://84000.org/tipitaka/read/?index_2              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-sk21 https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-sk22 https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-sk23 https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-sk24 https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-sk25 https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-sk26 https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-sk27 https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-sk28 https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-sk29 https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-sk30

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :