บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
อุปปันนสูตร [๑๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้ ที่ยังไม่เกิดขึ้น เว้น จากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่เกิดขึ้น ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ สัมมาทิฐิ ฯลฯ สัมมาวิมุติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้แล ที่ยังไม่เกิดย่อมเกิด ขึ้น เว้นจากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่เกิดขึ้น ฯจบสูตรที่ ๒ มหัปผลสูตร [๑๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้ เป็นธรรมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก เว้นจากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ สัมมาทิฐิ ฯลฯ สัมมาวิมุติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้แล เป็นธรรมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก เว้นสุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ฯจบสูตรที่ ๓ ปริโยสานสูตร [๑๒๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้ เป็นธรรมมีการกำจัด ราคะเป็นที่สุด มีการกำจัดโทสะเป็นที่สุด มีการกำจัดโมหะเป็นที่สุด เว้นจาก--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๒๔๑.
สุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ สัมมาทิฐิ ฯลฯ สัมมาวิมุติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้แล เป็นธรรมมีการกำจัด ราคะเป็นที่สุด มีการกำจัดโทสะเป็นที่สุด มีการกำจัดโมหะเป็นที่สุด นอกจาก สุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ฯจบสูตรที่ ๔ เอกันตสูตร [๑๒๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อ ความเบื่อหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน เว้นจากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ สัมมาทิฐิ ฯลฯ สัมมาวิมุติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อ ความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน เว้นจากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ฯจบสูตรที่ ๕ ภาวิตสูตรที่ ๑ [๑๒๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น เว้นจากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ สัมมาทิฐิ ฯลฯ สัมมาวิมุติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ที่ยังไม่เกิดย่อม เกิดขึ้น เว้นจากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ฯจบสูตรที่ ๖ ภาวิตสูตรที่ ๒ [๑๒๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นธรรมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก เว้นจากสุคตวินัยแล้ว--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๒๔๒.
ย่อมไม่มี ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ สัมมาทิฐิ ฯลฯ สัมมาวิมุติ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นธรรมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก เว้นจากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ฯจบสูตรที่ ๗ ภาวิตสูตรที่ ๓ [๑๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นธรรมมีการกำจัดราคะเป็นที่สุด มีการกำจัดโทสะเป็นที่สุด มีการกำจัดโมหะเป็นที่สุด เว้นจากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ธรรม ๑๐ ประการ เป็นไฉน คือ สัมมาทิฐิ ฯลฯ สัมมาวิมุติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นธรรมมีการกำจัด ราคะเป็นที่สุด มีการกำจัดโทสะเป็นที่สุด มีการกำจัดโมหะเป็นที่สุด เว้นจาก สุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ฯจบสูตรที่ ๘ ภาวิตสูตรที่ ๔ [๑๓๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อความคลาย กำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน เว้นจากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน คือสัมมาทิฐิ ฯลฯ สัมมาวิมุติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อความ คลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน เว้นจากสุคตวินัยแล้วย่อมไม่มี ฯจบสูตรที่ ๙ --------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๒๔๓.
มิจฉัตตสูตร [๑๓๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มิจฉัตตะ (ความเป็นผิด) ๑๐ ประการนี้ ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ มิจฉาทิฐิ ๑ มิจฉาสังกัปปะ ๑ มิจฉาวาจา ๑ มิจฉากัมมันตะ ๑ มิจฉาอาชีวะ ๑ มิจฉาวายามะ ๑ มิจฉาสติ ๑ มิจฉาสมาธิ ๑ มิจฉาญาณะ ๑ มิจฉาวิมุติ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย มิจฉัตตะ ๑๐ ประการนี้แล ฯจบสูตรที่ ๑๐ สัมมัตตสูตร [๑๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมมัตตะ (ความเป็นชอบ) ๑๐ ประการนี้ ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ สัมมาทิฐิ ๑ สัมมาสังกัปปะ ๑ สัมมาวาจา ๑ สัมมา กัมมันตะ ๑ สัมมาอาชีวะ ๑ สัมมาวายามะ ๑ สัมมาสติ ๑ สัมมาสมาธิ ๑ สัมมาญาณะ ๑ สัมมาวิมุติ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมมัตตะ ๑๐ ประการนี้แล ฯจบสูตรที่ ๑๑ จบปาริสุทธิวรรคที่ ๓ ----------------------------------------------------- เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ บรรทัดที่ ๕๕๘๐-๕๖๕๕ หน้าที่ ๒๔๐-๒๔๓. https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=24&A=5580&Z=5655&pagebreak=1 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=24&siri=122 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=24&i=124 ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [124-133] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=24&item=124&items=10 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=16&A=8461 The Pali Tipitaka in Roman :- [124-133] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=24&item=124&items=10 The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=16&A=8461 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๔ https://84000.org/tipitaka/read/?index_24 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://84000.org/tipitaka/english/metta.lk/24i123-e.php#sutta2 https://suttacentral.net/an10.124/en/sujato
บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]