ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม  
อรรถกถาเล่มที่ ๑๑ ภาษาบาลีอักษรไทย สํ.อ. (สารตฺถ.๑)

                        ๑๐. สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา
       [๒๐] ทสเม ตโปทาราเมติ ตโปทสฺส ตตฺโตทกสฺส รหทสฺส วเสน
เอวํ ลทฺธนาเม อาราเม. เวภารปพฺพตสฺส กิร เหฏฺฐา ภุมฺมฏฺฐกนาคานํ
ปญฺจโยชนสติกํ นาคภวนํ  เทวโลกสทิสํ มณิมเยน ๘- ตเลน อารามุยฺยาเนหิ จ
สมนฺนาคตํ. ตตฺถ นาคานํ กีฬนฏฺฐาเน มหาอุทกรหโท, ตโต ตโปทา นาม
นที สนฺทติ กุถิตา อุณฺโหทกา. กสฺมา ปเนสา เอทิสา? ราชคหํ กิร
ปริวาเรตฺวา มหาเปตโลโก ติฏฺฐติ. ตตฺถ ทฺวินฺนํ มหาโลหกุมฺภีนิรยานํ อนฺตเรน
อยํ ตโปทา อาคจฺฉติ. ตสฺมา กุถิตา สนฺทติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ:-
           "ยตายํ ๙- ภิกฺขเว ตโปทา สนฺทติ, โส ทโห ๑๐-
            อจฺโฉทโก สาโตทโก สีโตทโก เสโตทโก
            สุปติตฺโถ ๑๑- รมณีโย ปหูตมจฺฉกจฺฉโป, จกฺกมตฺตานิ จ
            ปทุมานิ ปุปฺผนฺติ. อปิจายํ ภิกฺขเว ตโปทา ทฺวินฺนํ มหานิรยานํ
            อนนฺตริกาย อาคจฺฉติ, เตนายํ ตโปทา กุถิตา สนฺทตี"ติ ๑๒-
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ทารภรณสฺส    สี. ปุตฺตนิปฺผตฺติยา    ม. อาสยํ    ฉ.ม., อิ. อถสฺสา
@ ม. อนุโมเทตฺวา        ฉ.ม., อิ. วนฺทิตฺวา คนฺธมาลาทีหิ      ม. เทวภวนเมว
@ ม. นิมฺมเลน           ก. ยตฺถายํ, สี. ยโตยํ, ม. ยทายํ   ๑๐ อิ. รหโท
@๑๑ ก. สุปติฏฺโฐ        ๑๒ วินย. มหาวิ. ๑/๒๓๑/๑๖๔ จตุตฺถปาราชิก วินีตวตฺถุ
          อิมสฺส ปน อารามสฺส อภิมุขฏฺฐาเน ตโต มหาอุทกรหโท ชาโต, ตสฺส
วเสนายํ วิหาโร "ตโปทาราโม"ติ วุจฺจติ.
          สมิทฺธีติ  ตสฺส กิร เถรสฺส อตฺตภาโว สมิทฺโธ อภิรูโป ปาสาทิโก,
ตสฺมา "สมิทฺธี"เตฺวว สงฺขํ คโต. คตฺตานิ ปริสิญฺจิตุนฺติ ปธานิกตฺเถโร เอส,
พลวปจฺจูเส อุฏฺฐาย เสนาสนํ อุตุํ คาหาเปตฺวา ๑- พหิ สฏฺฐิหตฺถมตฺเต มหาจงฺกเม
อปราปรํ จงฺกมิตฺวา "เสทคหิเตหิ คตฺเตหิ ปริภุญฺชมานํ เสนาสนํ กิลิสฺสตี"ติ
มญฺญมาโน คตฺตานํ ปริสิญฺจนตฺถํ สรีรโธวนตฺถํ อุปสงฺกมิ. เอกจีวโร อฏฺฐาสีติ
นิวาสนํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา จีวรํ หตฺเถน คเหตฺวา อฏฺฐาสิ.
        คตฺตานิ สุกฺขาปยมาโนติ ๒- คตฺตานิ ปุพฺพสทิสานิ นิโรทกานิ ๓- กุรุมาโน.
อลฺลสรีเร ปารุตญฺหิ จีวรํ กิลิสฺสติ ทุคฺคนฺธํ โหติ, น เจตํ วตฺตํ. เถโร ปน
วตฺตสมฺปนฺโน, ตสฺมา วตฺเต  ฐิโตว นฺหายิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา อฏฺฐาสิ. ตตฺถ อิทํ
นฺหานวตฺตํ:- อุทกติฏฺฐํ คนฺตฺวา ยตฺถ วา ตตฺถ ๔- วา จีวรานิ นิกฺขิปิตฺวา
เวเคน ฐิตเกเนว น โอตริตพฺพํ, สพฺพทิสาว ๕- โอโลเกตฺวา วิวิตฺตภาวํ ญตฺวา
ขาณุคุมฺพลตาทีนิ ววตฺถเปตฺวา  ติกฺขตฺตุํ อุกฺกาสิตฺวา อวกุชฺชฏฺฐิเตน
อุตฺตราสงฺคจีวร อปเนตฺวา ปสาเรตพฺพํ, กายพนฺธนํ โมเจตฺวา จีวรปิฏฺเฐเยว
ฐเปตพฺพํ. สเจ อุทกสาฏิกา นตฺถิ, อุทกนฺเต อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา นิวาสนํ
โมเจตฺวา สเจ นิสินฺนฏฺฐานํ ๖- อตฺถิ, ปสาเรตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ, สํหริตฺวา
ฐเปตพฺพํ. อุทกํ โอตรนฺเตน สณิกํ นาภิปฺปมาณมตฺตํ โอตริตฺวา วีจึ อนุฏฺฐเปนฺเตน
สทฺทํ อกโรนฺเตน นิวตฺติตฺวา อาคตทิสาภิมุเขน นิมฺมุชฺชิตพฺพํ, เอวํ จีวรํ
รกฺขิตํ โหติ. อุมฺมุชฺชนฺเตนปิ สทฺทํ อกโรนฺเตน สณิกํ อุมฺมุชฺเชตฺวา
นฺหานปริโยสาเน อุทกนฺเต อุกฺกุฏิเกน นิสีทิตฺวา นิวาสนํ ปริกฺขิปิตฺวา อุฏฺฐาย
สุปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา จีวรํ อปารุเปตฺวาว ฐาตพฺพนฺติ.
        เถโรปิ ตถา นฺหายิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา วิคจฺฉมานอุทกํ กายํ โอโลกิยมาโน
อฏฺฐาสิ. ตสฺส ปกติยาปิ ปาสาทิกสฺส ปจฺจูสสมเย สมฺมา ปริณตาหารสฺส
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม., อิ. อุฏฺฐายาสนา สรีรํ อุตุํ คาหาเปตฺวา    ฉ.ม., ปุพฺพาปยมาโนติ
@ ฉ.ม., อิ. โวทกานิ   ฉ.ม., อิ. ยตฺถ กตฺถจิ   ฉ.ม., อิ. ปน
@ ฉ.ม. สนฺนิฏฺฐานํ
อุโณฺหทเกน นฺหาตสฺส อติวิย มุขวณฺโณ วิโรจิ, ๑- พนฺธนา ปมุตฺตตาลผลํ วิย
ปภาสมฺปนฺโน ปุณฺณจนฺโท วิย ตํขณํ วิกสิตปทุมํ วิย มุขํ สสฺสิริกํ อโหสิ,
สรีรวณฺโณปิ วิปฺปสีทติ. ตสฺมึ สมเย วนสณฺเฑ อธิวตฺถา ภุมฺมเทวตา ปาสาทิกํ
ภิกฺขุํ โอโลกยมานา มนํ ๒- นิคฺคเหตุํ อสกฺโกนฺตี กามูปนิตา โลภาภิภูตา ๓- หุตฺวา
"เถรํ ปโลภิสฺสามี"ติ ๔- อตฺตภาวํ อุฬาเรน อลงฺกาเรน อลงฺกริตฺวา สหสฺสวฏฺฏิปทีปํ
ปชฺชลมานา วิย จนฺทํ อุฏฺฐาปยมานา วิย สกลารามํ เอโกภาสํ กตฺวา เถรํ
อุปสงฺกมิตฺวา อวนฺทิตฺวาว เวหาเส ฐิตา คาถํ อภาสิ. เตน วุตฺตํ "อถโข
อญฺญตรา เทวตา ฯเปฯ อชฺฌภาสี"ติ.
         อภุตฺวาติ ปญฺจ กามคุเณ อปริภุญฺชิตฺวา. ภิกฺขสีติ ปิณฺฑาย จรสิ. มา
ตํ กาโล อุปจฺจคาติ เอตฺถ กาโล นาม ปญฺจกามคุณปฏิเสวนกฺขโม ทหรโยพฺพนกาโล.
ชราชิณฺเณน หิ โอภคฺเคน ๕- ทณฺฑปรายเนน ปเวธมาเนน กาสสาสาภิภูเตน
น สกฺกา กาเม ปริภุญฺชิตุํ, อิติ อิมํ กาลํ สนฺธาย เทวตา "มา ตํ กาโล
อุปจฺจคา"ติ อาห. ตตฺถ มา อุปจฺจคาติ มา อติกฺกมิ.
        กาลํ โวหํ น ชานามีติ เอตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ. กาลํ น ชานามีติ
มรณกาลํ สนฺธาย วทติ. สตฺตานญฺหิ:-
          ชีวิตํ พฺยาธิ กาโล จ       เทหนิกฺเขปนํ คติ
          ปญฺเจเต  ชีวโลกสฺมึ       อนิมิตฺตา น ชายเร. ๖-
     ตตฺถ ชีวิตํ ตาว "เอตฺตกเมว, น อิโต ปรนฺ"ติ ววตฺถานาภาวโตปิ ๗-
อนิมิตฺตํ. กลลกาเลปิ หิ สตฺตา มรนฺติ, อพฺพุทเปสิฆนมาสิกทฺวิมาส-
เตมาสจตุมาสปญฺจมาส ฯเปฯ ทสมาสกาเลปิ, กุจฺฉิโต นิกฺขนฺต สมเยปิ, ตโต
ปรํ วสฺสสตสฺส อนฺโตปิ พหิปิ มรนฺติเยว. พฺยาธิปิ "อิมินาว พฺยาธินา สตฺตา
มรนฺติ, น อญฺเญนา"ติ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺโต. จกฺขุโรเคนปิ หิ สตฺตา
มรนฺติ โสตโรคาทีนํ อญฺญตเรนาปิ. กาโลปิ "อิมสฺมึเยว กาเล มริตพฺพํ, น
อญฺญสฺมินฺ"ติ เอวํ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺโต. ปุพฺพเณฺหปิ หิ สตฺตา มรนฺติ
@เชิงอรรถ:  ม. วิโรจติ    ฉ.ม.สมณํ   ฉ.ม., อิ. กามปริฬาหาภิภูตา
@ ฉ.ม., อิ. ปโลเภสฺสามิ   ม. โอภคฺควิภคฺเคน    สี. ญายเร
@ ฉ.ม. ววตฺถานาภาวโต
มชฺฌนฺติกาทีนํ ๑- อญฺญตรสฺมึปิ. เทหนิกฺเขปนํปิ "อิเธว มิยฺยมานานํ ๒- เทเหน
ปติตพฺพํ, น อญฺญตฺถา"ติ เอวํ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺตํ. อนฺโตคาเม
ชาตานญฺหิ พหิ คาเมปิ อตฺตภาโว ปตติ, พหิคาเมปิ ชาตานํ อนฺโตคาเมปิ.
ตถา ถลชานํ ชเล, ชลชานํ ถเลติ อเนกปฺปการโต วิตฺถาเรตพฺพํ. คติปิ "อิโต
จุเตน อิธ นิพฺพตฺติตพฺพนฺ"ติ เอวํ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺตา. เทวโลกโต
หิ จุตา มนุสฺเสสุปิ นิพฺพตฺตนฺติ, มนุสฺสโลกโต จุตา เทวโลกาทีนํ ยตฺถ กตฺถจิ
นิพฺพตฺตนฺตีติ เอวํ ยนฺตยุตฺตโคโณ วิย คติปญฺจโก โลโก ๓- สมฺปริวตฺตติ. ตสฺเสว
สมฺปริวตฺตโต "อิมสฺมึ นาม กาเล มรณํ ภวิสฺสตี"ติ อิมํ มรณสฺส กาลํ โวหํ
น ชานามิ.
       ฉนฺโน กาโล น ทิสฺสตีติ อยํ กาโล มยฺหํ ปฏิจฺฉนฺโน อวิภูโต น
ปญฺญายติ. ตสฺมาติ ยสฺมา อยํ กาโล ปฏิจฺฉนฺโน น ปญฺญายติ, ตสฺมา ปญฺจ
กามคุเณ อภุตฺวาว ภิกฺขามิ. มา มํ กาโล อุปจฺจคาติ เอตฺถ สมณธมฺมกรณกาลํ
สนฺธาย "กาโล"ติ อาห. อยญฺหิ สมณธมฺโม นาม ปจฺฉิเม กาเล ติสฺโส
วยสีมา ๔- อติกฺกนฺเตน โอภคฺเคน ทณฺฑปรายเนน ปเวธมาเนน กาสสาสาภิภูเตน
น สกฺกา กาตุํ. ตทา หิ น สกฺกา โหติ อิจฺฉิติจฺฉิตํ พุทฺธวจนํ วา อุคฺคณฺหิตุํ,
ธุตงฺคํ วา ปริภุญฺชิตุํ, อรญฺญวาสํ วา วสิตุํ, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ สมาปตฺตึ วา
สมาปชฺชิตุํ, ปทภาณสรภญฺญธมฺมกถาอนุโมทนาทีนิ วา กาตุํ, ตรุณโยพฺพนกาเล
ปเนตํ สพฺพํ สกฺกา กาตุนฺติ อยํ สมณธมฺมกรณกาโล มา มํ อุปจฺจคา, ยาว
มํ นาติกฺกมติ, ตาว กาเม อภุตฺวาว สมณธมฺมํ กโรมีติ อาห.
      ปฐวิยํ ปติฏฺฐหิตฺวาติ สา กิร เทวตา "อยํ ภิกฺขุสมณธมฺมกรณสฺส กาลํ
นาม กเถติ, อกาลํ นาม กเถติ, สเหตุกํ กเถติ สานิสํสนฺ"ติ เอตฺตาวตา จ
เถเร ลชฺชํ ปจฺจุปฏฺฐเปตฺวา มหาพฺรหฺมํ วิย อคฺคิกฺขนฺธํ วิย จ นํ มญฺญมานา
คารวชาตา อากาสา โอรุยฺห ปฐวิยํ อฏฺฐาสิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. กิญฺจาปิ ปฐวิยํ
ฐิตา, เยน ปนตฺเถน อาคตา, ปุนปิ ตเมว คเหตฺวา ทหโร ตฺวนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ สุสูติ ตรุโณ. กาฬเกโสติ สุฏฺฐุ กาฬเกโส. ภเทฺรนาติ ภทฺทเกน.
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. มชฺฌนฺหิกาทีนํ                   ฉ.ม., อิ. มียมานานํ
@ ฉ.ม. คติปญฺจเก โลโก,อิ. คติปญฺจเก โลเก   ฉ.ม. วโยสีมา
เอกจฺโจ หิ ทหโรปิ สมาโน กาโณ วา โหติ กุณิอาทีนํ วา อญฺญตโร, โส
ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต นาม น โหติ. ๑- โย ปน อภิรูโป โหติ
ทสฺสนีโย ปาสาทิโก สพฺพสมฺปตฺติสมฺปนฺโน, ยํ ยเทว อลงฺการปริหารํ อิจฺฉติ,
เตน เตน อลงฺกโต เทวปุตฺโต วิย จรติ, อยํ ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต
นาม โหติ. เถโร จ อุตฺตมรูปสมฺปนฺโน, เตน นํ เอวมาห.
       อนิกฺกีฬิตาวี กาเมสูติ กาเมสุ อกีฬิตกีโฬ อภุตฺตาวี, อกตกามกาโรติ ๒-
อตฺโถ. มา สนฺทิฏฺฐิกํ หิตฺวาติ เยภุยฺเยน หิ ตา อทิฏฺฐสจฺจา อวีตราคา
อปรจิตฺตวิทูนิโย เทวตา ภิกฺขู ทสปิ วสฺสานิ วีสติปิ ฯเปฯ สฏฺฐีปิ วสฺสานิ
ปริสุทฺธํ อขณฺฑํ พฺรหฺมจริยํ จรมาเน ทิสฺวา "อิเม ภิกฺขู มานุสเก ปญฺจ
กามคุเณ ปหาย ทิพเพ กาเม ปตฺถยนฺตา สมณธมฺมํ กโรนฺตี"ติ สญฺญํ
อุปฺปาเทนฺติ, อยํปิ ตเถว อุปฺปาเทสิ. ตสฺมา มานุสเก กาเม สนฺทิฏฺฐิเก, ทิพฺเพ
จ กาลิเก กตฺวา เอวมาห.
       น ขฺวาหํ อาวุโสติ อาวุโส อหํ สนฺทิฏฺฐิเก กาเม หิตฺวา น กาลิเก
กาเม อนุธาวามิ น ปตฺเถมิ น ปิเหมิ. กาลิกญฺจ ขฺวาหํ อาวุโสติ
อหํ โข อาวุโส กาลิกํ กามํ หิตฺวา สนฺทิฏฺฐิกํ โลกุตฺตรธมฺมํ อนุธาวามิ. อิติ
เถโร จิตฺตานนฺตรํ อลทฺธพฺพตาย  ทิพฺเพปิ มานุสเกปิ ปญฺจ กามคุเณ กาลิกาติ
อกาสิ, จิตฺตานนฺตรํ ลทฺธพฺพตาย โลกุตฺตรธมฺมํ สนฺทิฏฐิกนฺติ. ปญฺจสุ กามคุเณสุ
สโมหิเตสุปิ สมฺปนฺนกามสฺสาปิ กามิโน จิตฺตานนฺตรํ อิจฺฉิติจฺฉิตารมฺมณานุภวนํ
น สมฺปชฺชติ. จกฺขุทฺวาเร อิฏฺฐารมฺมณํ อนุภวิตุกาเมน หิ จิตฺตการโปฏฺฐการ-
รูปการาทโย ปกฺโกสาเปตฺวา "อิทํ นาม สชฺเชถา"ติ วตฺตพฺพํ โหติ, เอตฺถนฺตเร
อเนกโกฏิสตสหสฺสานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ. อถ ปจฺฉา ตํ อารมฺมณํ
สมฺปาปุณาติ. เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโย. โสตาปตฺติมคฺคานนฺตรํ ปน โสตา
ปตฺติผลเมว อุปฺปชฺชติ, อนฺตรา ๓- อญฺญสฺส จิตฺตสฺส วาโร นตฺถิ. เสสผเลสุปิ
เอเสว นโยติ.
        โส ตเมวตฺถํ คเหตฺวา กาลิกา หิ อาวุโสติอาทิมาห. ตตฺถ กาลิกาติ
วุตฺตนเยน สโมหิตสมฺปตฺตินาปิ กาลนฺตเร ปตฺตพฺพา. พหุทุกฺขาติ ปญฺจ
@เชิงอรรถ:  อิ. สมนฺนาคโต นาม โหติ   ฉ.ม., อิ. อกตกามกีโฬติ   สี. มคฺคสฺส อนนฺตรา
กามคุเณ นิสฺสาย ปวตฺตทุกฺขสฺส ๑- พหุตาย พหุทุกฺขา. ตํวตฺถุกสฺเสว อุปายาสสฺส
พหุตาย พหูปายาสา. อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโยติ ปญฺจ กามคุเณ นิสฺสาย
ลทฺธพฺพสุขโต อาทีนโว ภิยฺโย, ทุกฺขเมว พหุตรนฺติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺฐิโก อยํ
ธมฺโมติ อยํ โลกุตฺตรธมฺโม เยน เยน อธิคโต โหติ, เตน เตน ปรสทฺธาย
คนฺตพฺพตํ หิตฺวา ปจฺจเวกฺขณญาเณน สยํ ทฏฺฐพฺโพติ สนฺทิฏฺฐิโก. อตฺตโน
ผลทานํ สนฺธาย นาสฺส กาโลติ อกาโล, อกาโลเยว อกาลิโก. โย เอตฺถ
อริยมคฺคธมฺโม, โส อตฺตโน ปวตฺติสมนนฺตรเมว ผลํ เทตีติ อตฺโถ. "เอหิ
ปสฺส อิมํ ธมฺมนฺ"ติ เอวํ ปวตฺตํ เอหิปสฺสวิธึ อรหตีติ เอหิปสฺสิโก. อาทิตฺตํ
เจลํ วา สีสํ วา อชฺฌุเปกฺขิตฺวาปิ ภาวนาวเสน อตฺตโน จิตฺเต อุปเนยฺยํ ๒-
อรหตีติ โอปนยิโก. สพฺเพหิปิ อุคฺฆฏิตญฺญูอาทีหิ วิญฺญูหิ "ภาวิโต เม
มคฺโค, อธิคตํ ผลํ, สจฺฉิกโต นิโรโธ"ติ อตฺตนิ อตฺตนิ เวทิตพฺโพติ ปจฺจตฺตํ
เวทิตพฺโพ วิญฺญูหีติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค ๓-
ธมฺมานุสฺสติวณฺณนา ยํ วุตฺโต.
       อิทานิ สา เทวตา อนฺโธ วิย รูปวิเสสํ, เถเรน กถิตสฺส อตฺถํ
อชานนฺตี กถญฺจ ภิกฺขูติอาทิมาห. ตตฺถ กถญฺจาติ ปทสฺส "กถญฺจ ภิกฺขุ
กาลิกา กามา วุตฺตา ภควตา, กถํ พหุทุกฺขา, กถํ พหูปายาสา"ติ เอวํ
สพฺพปเทหิ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.
       นโวติ อปริปุณฺณปญฺจวสฺโส ภิกฺขุ หิ นโว นาม โหติ, ปญฺจวสฺสโต
ปฏฺฐาย มชฺฌิโม, ทสวสฺสโต ปฏฺฐาย เถโร. อปโร นโย:- อปริปุณฺณทสวสฺโส
นโว, ทสวสฺสโต ปฏฺฐาย มชฺฌิโม, วีสติวสฺสโต ปฏฺฐาย เถโร. เตสุ ๔-
อหํ นโวติ วทติ.
       นโวปิ เอกจฺโจ สตฺตฏฺฐวสฺสกาเล ปพฺพชิตฺวา ทส วสฺสานิ ๕-
สามเณรภาเวเนว อติกฺกนฺโต จิรปพฺพชิโต โหติ, อหํ ปน อจิรปพฺพชิโตติ วทติ.
อิมํ ธมฺมวินยนฺติ อิมํ ธมฺมญฺจ วินยญฺจ. อุภยมฺเปตํ สาสนสฺเสว นามํ. ธมฺเมน
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ปตฺตพฺพทุกฺขสฺส        ฉ.ม. อุปนยํ สี. อุปนยนํ
@ วิสุทฺธิ. ๑/๒๗๒ ฉอนุสฺสตินิทฺเทส: ธมฺมานุสฺสติกถา      ฉ.ม. เตสํ
@ ฉ.ม., อิ. ทฺวาทสเตรสวสฺสานิ
เหตฺถ เทฺว ปิฏกานิ วุตฺตานิ, วินเยน วินยปิฏกํ, อิติ ตีหิ ปิฏเกหิ ปกาสิตํ
ปฏิปตฺตึ อธุนา อาคโตมฺหีติ วทติ.
       มเหสกฺขาหีติ มหาปริวาราหิ. เอเกกสฺส หิ เทวรญฺโญ โกฏิสตํปิ
โกฏิสหสฺสํปิ ปริวาโร โหติ, เต อตฺตานํ มหนฺเต ฐาเน ฐเปตฺวา ตถาคตํ
ปสฺสนฺติ. ตตฺถ อมฺหาทิสานํ อปฺเปสกฺขานํ มาตุคามชาติกานํ กุโต โอกาโสติ
ทสฺเสติ.
       มยํปิ อาคจฺเฉยฺยามาติ อิทํ สา เทวตา "สเจปิ จกฺกวาฬํ ปูเรตฺวา
ปริสา นิสินฺนา โหติ, มหตาย ๑-  พุทฺธวีถิยา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตุํ ลภตี"ติ
ญตฺวา อาห. ปุจฺฉ ภิกฺขุ ปุจฺฉ ภิกฺขูติ ถิรกรณวเสน อาเมณฺฑิตํ ๒- กตํ.
       อกฺเขยฺยสญฺญิโนติ เอตฺถ "เทโว มนุสฺโส คหฏฺโฐ ปพฺพชิโต สตฺโต
ปุคฺคโล ติสฺโส ปุสฺโส"ติอาทินา นเยน อกฺเขยฺยโต สพฺเพสํ อกฺขานํ สพฺพาสํ
กถานํ วตฺถุภูตโต ปญฺจกฺขนฺธา "อกฺเขยฺยา"ติ วุจฺจนฺติ. "สตฺโต นโร โปโส
ปุคฺคโล อิตฺถี ปุริโส"ติ เอวํ สญฺญา เอเตสํ อตฺถี"ติ สญฺญิโน, อกฺเขยฺยํ เอว
สญฺญิโน ๓-  อกฺเขยฺยสญฺญิโน, ปญฺจสุ ขนฺเธสุ สตฺตปุคฺคลาทิสญฺญิโนติ อตฺโถ.
อกฺเขยฺยสฺมึ ปติฏฺฐิตาติ ปญฺจสุ ขนฺเธสุ อฏฺฐหากาเรหิ ปติฏฺฐิตา. รตฺโต หิ
ราควเสน ปติฏฺฐิโต โหติ, ทุฏฺโฐ โทสวเสน, มุโฬฺห โมหวเสน, ปรามฏฺโฐ
ทิฏฺฐิวเสน, ถามคโต อนุสยวเสน, วินิพนฺโธ ๔- มานวเสน, อนิฏฺฐาคโต ๕-
วิจิกิจฺฉาวเสน, วิกฺเขปคโต อุทฺธจฺจวเสน ปติฏฺฐิโต โหตีติ. ๖- อกฺเขยฺยํ
อปริญฺญายาติ ปญฺจ ขนฺเธ ตีหิ ปริญฺญาหิ อปริชานิตฺวา. โยคมายนฺติ มจฺจุโนติ
มจฺจุโน โยคํ ปโยคํ ปกฺเขปํ อุปกฺเขปํ อุปกฺกมํ อพฺภนฺตรํ อาคจฺฉนฺติ, มรณวสํ ๗-
อาคจฺฉนฺตีติ ๘- อตฺโถ. เอวมิมาย คาถาย กาลิกา ๙- กามา กถิตา.
       ปริญฺญายาติ ญาตปริญฺญา ตีรณปริญฺญา ปหานปริญฺญาติ อิมาหิ ตีหิ
ปริญฺญาหิ ปริชานิตฺวา. ตตฺถ กตมา ญาตปริญฺญา? ปญฺจกฺขนฺเธ ปริชานาติ
"อยํ รูปกฺขนฺโธ ฯเปฯ อยํ วิญฺญาณกฺขนฺโธ, อิมานิ เนสํ
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. อิ. มหติยา    ฉ.ม. อาเมฑิตํ       ฉ.ม., อิ. อกฺเขยฺเยเสว สญฺญิโนติ
@ ฉ.ม. วินิพทฺโธ      ฉ.ม. อนิฏฺฐงฺคโต    อิติ-สทฺโท น ทิสฺสติ
@ สี. มารวสํ         ฉ.ม. คจฺฉนฺตีติ      ก. กายิกา
ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺฐานปทฏฺฐานานี"ติ, อยํ ญาตปริญฺญา. กตมา ตีรณปริญฺญา? เอวํ ญาตํ
กตฺวา ปญฺจกฺขนฺเธ ตีเรติ อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโตติ ทฺวาจตฺตาฬีสาย อากาเรหิ,
อยํ ตีรณปริญฺญา. กตมา ปหานปริญฺญา? เอวํ ตีรยิตฺวา อคฺคมคฺเคน ปญฺจสุ
ขนฺเธสุ ฉนฺทราคํ ปชหติ, อยํ ปหานปริญฺญา.
       อกฺขาตารํ น มญฺญตีติ เอวํ ตีหิ ปริญฺญาหิ ปญฺจกฺขนฺเธ ปริชานิตฺวา
ขีณาสโว ภิกฺขุ อกฺขาตารํ ปุคฺคลํ น มญฺญติ. อกฺขาตารนฺติ กมฺมวเสน การกํ
เวทิตพฺพํ, อกฺขาตพฺพํ กเถตพฺพํ ปุคฺคลํ น มญฺญติ, น ปสฺสตีติ อตฺโถ. กินฺติ
อกฺขาตพฺพํ? "ติสฺโส"ติ วา "ปุสฺโส"ติ วา เอวํ เยน เกนจิ นาเมน วา
โคตฺเตน วา ปกาเสตพฺพํ. ตญฺหิ ตสฺส น โหตีติ ตํ ตสฺส ขีณาสวสฺส น
โหติ. เยน นํ วชฺชาติ เยน นํ "ราเคน รตฺโต"ติ วา "โทเสน ทุฏฺโฐ"ติ วา
"โมเหน มุโฬฺห"ติ วาติ โกจิ วเทยฺย, ตํ การณํ ตสฺส ขีณาสวสฺส นตฺถิ.
       สเจ วิชานาสิ วเทหีติ สเจ เอวรูปํ ขีณาสวํ ชานาสิ, "ชานามี"ติ
วเทหิ. โน เจ ชานาสิ, อถ "น ชานามี"ติ วเทหิ. ยกฺขาติ เทวตํ
อาลปนฺโต อาห. อิติ อิมาย กถาย สนฺทิฏฺฐิโก นววิโธ โลกุตฺตรธมฺโม กถิโต.
สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต.
       โย มญฺญตีติ โย อตฺตานํ "อหํ สโม"ติ วา "วิเสสี"ติ วา
"นิหีโน"ติ วา มญฺญติ. เอเตน "เสยฺโยหมสฺมี"ติอาทโย ตโย มานา คหิตาว.
เตสุ คหิเตสุ นว มานา คหิตาว โหนฺติ. โส วิวเทถ เตนาติ โส ปุคฺคโล
เตเนว มาเนน เยน เกนจิ ปุคฺคเลน สทฺธึ "เกน มํ ตฺวํ ปาปุณาสิ,
กึ ชาติยา ปาปุณาสิ, อุทาหุ โคตฺเตน, กุลปเทเสน, วณฺณโปกฺขรตาย,
พาหุสจฺเจน, ธุตคุเณนา"ติ เอวํ วิวเทยฺย. อิติ อิมายปิ อุปฑฺฒคาถาย กาลิกา
กามา กถิตา.
       ตีสุ วิธาสูติ ตีสุ มาเนสุ. "เอกวิเธน รูปสงฺคโห"ติอาทีสุ ๑- หิ โกฏฺฐาโส
"วิธา"ติ ๒- วุตฺโต. "กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปญฺญวนฺตํ
วทนฺตี"ติอาทีสุ ๓- อากาโร. ๔- "ติสฺโส อิมา ภิกฺขเว วิธา, กตมา ติสฺโส?
เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา,
@เชิงอรรถ:  อภิ. สงฺคณิ. ๓๔/๕๘๔/๑๖๘ รูปกณฺฑ  ฉ.ม. วิโธ  สํ. สคา. ๑๕/๙๕/๖๑ นนฺทนสุตฺต
@ ม. สภาโว, อฏฺฐสาสินี หน้า ๔๔๘ รูปวิภตฺติเอกกนิทฺเทสวณฺณนา
สทิโสหมสฺมีติ วิธา, หีโนหมสฺมีติ วิธา"ติอาทีสุ ๑- มาโน "วิธา"ติ วุตฺโต,
อิธาปิ มาโนว. เตน วุตฺตํ "ตีสุ วิธาสูติ ตีสุ มาเนสู"ติ. อวิกมฺปมาโนติ โส
ปุคฺคโล เอเตสุ สงฺเขปโต ตีสุ, วิตฺถารโต นวสุ มาเนสุ น กมฺปติ น จลติ.
สโม วิเสสีติ น ตสฺส โหตีติ ตสฺส ปหีนมานสฺส ขีณาสวสฺส "อหํ สทิโส"ติ
วา "เสยฺโย"ติ วา "หีโน"ติ วา น โหตีติ ทสฺเสติ. ปจฺฉิมปทํ วุตฺตนยเมว.
อิติ อิมายปิ อุปฑฺฒคาถาย นววิโธ สนฺทิฏฺฐิโก โลกุตฺตรธมฺโม กถิโต.
       ปหาสิ สงฺขนฺติ "ปฏิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรตี"ติอาทีสุ ๒-  ปญฺญา
"สงฺขา"ติ อาคตา. "อตฺถิ เต โกจิ คณโก วา มุทฺทิโก วา สงฺขายิโก วา,
โย ปโหติ คงฺคาย วาลิกํ คเณตุนฺ"ติ ๓- เอตฺถ คณนา. "สญฺญานิทานา หิ
ปปญฺจสงฺขา"ติอาทีสุ ๔- โกฏฺฐาโส. "ยา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สงฺขา สมญฺญา"ติ ๕-
เอตฺถ ปณฺณตฺติ "สงฺขา"ติ อาคตา. อิธาปิ อยเมว อธิปฺเปตา. ปหาสิ สงฺขนฺติ
ปทสฺส หิ อยมตฺโถ ๖- :- รตฺโต ทุฏฺโฐ มุโฬฺหติ อิมํ ปณฺณตฺตึ ขีณาสโว
ปหาสิ ชหิ ปชหีติ.
       น วิมานมชฺฌคาติ นวเภทํ ติวิธมานํ น อุปคโต. นิวาสนฏฺเฐน วา
มาตุกุจฺฉิ "วิมานนฺ"ติ วุจฺจติ, ตํ อายตึ ปฏิสนฺธิวเสน น อุปคจฺฉีติปิ อตฺโถ.
อนาคตตฺเถ อตีตวจนํ. อจฺเฉชฺชีติ ฉินฺทิ. ฉินฺนคนฺถนฺติ จตฺตาโร คนฺเถ
ฉินฺทิตฺวา ฐิตํ. อนิฆนฺติ นิทฺทุกฺขํ. นิราสนฺติ นิตฺตณฺหํ. ปริเยสมานาติ
โอโลกยมานา. นาชฺฌคมุนฺติ น อธิคจฺฉนฺติ น วินฺทนฺติ น ปสฺสนฺติ.
วตฺตมานตฺเถ อตีตวจนํ. อิธ วา หุรํ วาติ อิธ โลเก วา ปรโลเก วา.
สพฺพนิเวสเนสูติ ตโย ภวา, จตสฺโส โยนิโย, ปญฺจ คติโย, สตฺต วิญฺญาณฏฺฐิติโย,
นว สตฺตาวาสา, อิติ อิเมสุ สพฺเพสุปิ สตฺตนิเวสเนสุ เอวรูปํ ขีณาสวํ
กายสฺส เภทา อุปปชฺชมานํ วา อุปปนฺนํ วา ๗- น ปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อิมาย
คาถาย สนฺทิฏฺฐิกํ โลกุตฺตรธมฺมเมว กเถสิ.
@เชิงอรรถ:  สํ. มหา. ๑๙/๑๖๒/๕๒  วิธาสุตฺต      สํ. สฬา. ๑๘/๑๘๕/๑๓๑  โลกกามคุณวคฺค,-
@  ๓๑๘/๒๒๑ อาสีวิสวคฺค (สฺยา)         สํ. สฬา. ๑๘/๗๕๖/๔๕๗ อพฺยากตสํยุตฺต
@ ขุ. สุตฺต ๒๕/๘๘๑/๕๐๖ กลหวิวาทสุตฺค   อภิ. สงฺคณิ. ๓๔/๑๓๑๓/๒๙๗ นิกฺเขปกณฺฑ
@ ฉ.ม. อยเมวตฺโถ                  ฉ.ม. อุปฺปชฺชมานํ วา อุปฺปนฺนํ วา
       อิมญฺจ คาถํ สุตฺวา สาปิ เทวตา อตฺถํ สลฺลกฺเขสิ, เตเนว การเณน อิมสฺส
ขฺวาหํ ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ปาปํ น กยิราติ คาถาย ทสกุสลกมฺมปถวเสนปิ
กเถตุํ วฏฺฏติ อฏฺฐงฺคิกมคฺควเสนปิ. ทสกุสลกมฺมปถวเสน ตาว วจสาติ จตุพฺพิธํ
วจีสุจริตํ คหิตํ. มนสาติ ติวิธํ มโนสุจริตํ คหิตํ. กาเยน วา กิญฺจน
สพฺพโลเกติ ติวิธํ กายสุจริตํ คหิตํ. อิเม ตาว ทสกุสลกมฺมปถธมฺมา โหนฺติ.
กาเม ปหายาติ อิมินา ปน กามสุขลฺลิกานุโยโค ปฏิกฺขิตฺโต. สติมา สมฺปชาโนติ
อิมินา ทสกุสลกมฺมปถการกํ ๑- สติสมฺปชญฺญํ คหิตํ. ทุกฺขํ น เสเวถ อนตฺถสญฺหิตนฺติ
อิมินา อตฺตกิลมถานุโยโค ปฏิสิทฺโธ. อิติ เทวตา "อุโภ อนฺเต
วชฺเชตฺวา การเกหิ ๒- สติสมฺปชญฺเญหิ สทฺธึ ทสกุสลกมฺมปถธมฺเม ตุเมฺหหิ กถิเต
อาชานามิ ภควา"ติ วทติ.
       อฏฺฐงฺคิกมคฺควเสน ปน อยํ นโย:- ตสฺมึ กิร ฐาเน มหตีธมฺมเทสนา
อโหสิ. เทสนาปริโยสาเน สา เทวตา ยถาฏฺฐาเน ฐิตาว เทสนานุสาเรน ญาณํ
เปเสตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐาย อตฺตนา อธิคตํ อฏฺฐงฺคิกมคฺคํ ทสฺเสนฺตี
เอวมาห. ตตฺถ วจสาติ สมฺมาวาจา คหิตา, มโน ปน องฺคํ น โหตีติ มนสาติ
มคฺคสมฺปยุตฺตกจิตฺตํ ๓- คหิตํ. กาเยน วา กิญฺจน สพฺพโลเกติ สมฺมากมฺมนโต
คหิโต, อาชีโว ปน วาจากมฺมนฺตปกฺขิกตฺตา คหิโตว โหติ. สติมาติ อิมินา
วายามสติสมาธโย คหิตา. สมฺปชาโนติ ปเทน สมฺมาทิฏฺฐิ สมฺมาสงฺกปฺโป. กาเม
ปหาย ทุกฺขํ น เสเวถาติ ปททฺวเยน อนฺตทฺวยวชฺชนํ. ๔-  อิติ อิเม เทฺว อนฺเต
อนุปคมฺม มชฺฌิมํ ปฏิปทํ ตุเมฺหหิ กถิตํ อาชานามิ ภควาติ วตฺวา ตถาคตํ
คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามีติ.
                       สมิทฺธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตา.
                         นนฺทนวคฺโค ทุติโย.
                           -----------
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม....การณํ   ฉ.ม. วิวชฺเชตฺวา การเณหิ
@ สี. มคฺคสมฺปยุตฺตํ..., ฉ.ม. มคฺคสมฺปยุตฺตกํ จิตฺตํ   สี. อนฺตทฺวยวชฺชํ


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๑๑ หน้า ๓๘-๔๗. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=11&A=1000&modeTY=2              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=11&A=1000&modeTY=2              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=44              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=15&A=248              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=15&A=209              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=15&A=209              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_15

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]