ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม  
อรรถกถาเล่มที่ ๑๕ ภาษาบาลีอักษรไทย องฺ.อ. (มโนรถ.๒)

                         ๔. สรภสุตฺตวณฺณนา
     [๖๕] จตุตฺเถ ราชคเหติ เอวํนามเก นคเร. คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตติ
คิชฺฌสทิสานิสฺส กูฏานิ, คิชฺฌา วา ตสฺส กูเฏสุ วสนฺตีติ คิชฺฌกูโฏ, ตสฺมึ
คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เอเตนสฺส ราชคหํ โคจรคามํ กตฺวา วิหรนฺตสฺส วสนฏฺฐานํ ทสฺสิตํ.
คิชฺฌกูฏสฺมึ หิ ตถาคตํ อุทฺทิสฺส วิหาโร การิโต, คิชฺฌกูฏวิหาโรเตฺววสฺส
นามํ. ตตฺรายํ ๔- ตสฺมึ สมเย วิหรตีติ. สรโภ นาม ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต
โหตีติ สรโภติ เอวํนามโก ปริพฺพาชโก อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา น
จิรสฺเสว ปกฺกนฺโต โหติ, อธุนา วิพฺภนฺโตติ อตฺโถ. สมฺมาสมฺพุทฺเธ หิ โลเก
อุปฺปนฺเน ติตฺถิยา นฏฺฐลาภสกฺการา อเหสุํ, ติณฺณํ รตนานํ มหาลาภสกฺกาโร
อุปฺปชฺชิ. ยถาห:-
          "เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต
     มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ.
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. อยํ ปาโฐ น ทิสฺสติ    ฉ.ม. ทิพฺพจงฺกโม นาม โหติ
@ ฉ.ม. อุตฺตานตฺถเมวาติ      ฉ.ม.,อิ. ตตฺถายํ
     อญฺญติตฺถิยา ปน ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ
     อครุกตา อมานิตา อปูชิตา อปจิตา ๑- น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาต-
     เสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานนฺ"ติ. ๒-
     เต เอวํ ปริหีนลาภสกฺการา ปญฺจสตมตฺตา เอกสฺมึ ปริพฺพาชการาเม
สนฺนิปติตฺวา สมฺมนฺตยึสุ "โภ มยํ สมณสฺส โคตมสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺฐาย
ปริหีนลาภสกฺการา ๓- ชาตา, สมณสฺส โคตมสฺส สาวกานญฺจสฺส เอกํ อวณฺณํ
อุปธาเรถ, อวณฺณํ ปตฺถริตฺวา เอตสฺส สาสนํ ครหิตฺวา อมฺหากํ ลาภสกฺการํ
อุปฺปาเทสฺสามา"ติ. เต วชฺชํ โอโลเกนฺตาปิ "ตีสุ ทฺวาเรสุ อาชีเว จาติ จตูสุปิ
ฐาเนสุ สมณสฺส โคตมสฺส วชฺชํ ปสฺสิตุํ น สกฺกา, อิมานิ จตฺตาริ ฐานานิ
มุญฺจิตฺวา อญฺญตฺถ โอโลเกถา"ติ อาหํสุ. อถ เนสํ อนฺตเร เอโก เอวมาห "อหํ
อญฺญํ น ปสฺสามิ, อิเม อนฺวฑฺฒมาสํ สนฺนิปติตฺวา ทฺวารวาตปานานิ ปิธาย
สามเณรานํปิ ปเวสนํ น เทนฺติ. ชีวิตสทิสาปิ อุปฏฺฐากา ทฏฺฐุํ น ลภนฺติ,
อาวฏฺฏนิมายํ โอสาเรตฺวา ชนํ อาวฏฺเฏตฺวา ขาทนฺติ. สเจ ตํ มยํ อาหริตุํ
สกฺขิสฺสาม, เอวํ โน ลาภสกฺกาโร อุฬาโร ภวิสฺสตี"ติ. อปโรปิ เอวเมว วทนฺโต
อุฏฺฐาสิ. สพฺเพ เอกวาทา อเหสุํ. ตโต อาหํสุ "โย ตํ อาหริตุํ สกฺขิสฺสติ,
ตํ มยํ อมฺหากํ สมเย เชฏฺฐกํ กริสฺสามา"ติ.
     ตโต โกฏิโต ปฏฺฐาย "ตฺวํ สกฺขิสฺสสิ, ตฺวํ สกฺขิสฺสสี"ติ ปุจฺฉิตฺวา "อหํ
น สกฺขิสฺสามิ, อหํ น สกฺขิสฺสามี"ติ พหูหิ วุตฺเต สรภํ ปุจฺฉึสุ "ตฺวํ
สกฺขิสฺสสิ อาจริยา"ติ. โส อาห "อครุ เอตํ อาหริตุํ, สเจ ตุเมฺห อตฺตโน กถาย
ฐตฺวา มํ เชฏฺฐกํ กริสฺสถา"ติ. อครุ เอตํ อาจริย อาหร, ตฺวํ กโตเยวาสิ อเมฺหหิ
เชฏฺฐโกติ. โส อาห "ตํ อาหรนฺเตน เถเนตฺวา วา วิลุมฺปิตฺวา วา อาหริตุํ
น สกฺกา, สมณสฺส ปน โคตมสฺส สาวกสทิเสน หุตฺวา ตสฺส สาวเก วนฺทิตฺวา
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม.,อิ. อยํ ปาโฐ น ทิสฺสติ   สํ.นิ. ๑๖/๗๐/๑๑๖ สุสิมปริพฺพาชกสุตฺต,
@ขุ.อุ. ๒๕/๑๔/๑๐๗ สกฺการสุตฺต    ฉ.ม.,อิ. หตลาภสกฺการา
วตฺตปฏิปตฺตึ กตฺวา เตสํ ปตฺเต ภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา อาหริตุํ  สกฺกา.  รุจฺจติ เต
เอตสฺส กิริยา"ติ. ๑- ยงฺกิญฺจิ กตฺวา อาหริตฺวาว ๒- โน เทหีติ. เตนหิ มํ ทิสฺวา
อปสฺสนฺตา วิย ภเวยฺยาถาติ ปริพฺพาชกานํ สญฺญํ ทตฺวา ทุติยทิวเส ปาโตว
อุฏฺฐาย คิชฺฌกูฏมหาวิหารํ คนฺตฺวา ทิฏฺฐทิฏฺฐานํ ภิกฺขูนํ ปญฺจปติฏฺฐิเตน ปาเท
วนฺทิ. ภิกฺขู อาหํสุ "อญฺเญ ปริพฺพาชกา ถทฺธา ๓- ผรุสา, อยํ ปน สทฺโธ
ภวิสฺสติ ปสนฺโน"ติ. ภนฺเต ตุเมฺห ญตฺวา ยุตฺตฏฺฐานสฺมึเยว ปพฺพชิตา, มยํ ปน
อนุปธาเรตฺวา อติตฺเถเนว ปกฺขนฺตา อนิยฺยานิกมคฺเค วิจรามาติ. โส เอวํ วตฺวา
ทิฏฺฐทิฏฺเฐ ภิกฺขู ปุนปฺปุนํ วนฺทติ, นฺหาโนทกาทีนิ ปฏิยาเทติ, ทนฺตกฏฺฐํ
กปฺปิยํ กโรติ, ปาเท โธวติ มกฺเขติ, อติเรกภตฺตํ ลภิตฺวา ภุญฺชติ.
     ตํ อิมินา นีหาเรน วสนฺตํ เอโก มหาเถโร ทิสฺวา "ปริพฺพาชก ตฺวํ สทฺโธ
ปสนฺโน, กึ น ปพฺพชิสฺสสี"ติ. ๔-  โก มํ ภนฺเต ปพฺพาเชสฺสติ. มยญฺหิ จิรกาลํ
ภทนฺตานํ ปจฺจตฺถิกา หุตฺวา วิจริมฺหาติ. เถโร "สเจ ตฺวํ ปพฺพชิตุกาโม,
อหํ ตํ ปพฺพาเชสฺสามี"ติ วตฺวา ปพฺพาเชสิ. โส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺฐาย
นิรนฺตรํ วตฺตปฏิวตฺตํ อกาสิ. อถ นํ เถโร วตฺเต ปสีทิตฺวา นจิรสฺเสว
อุปสมฺปาเทสิ. โส อุโปสถทิวเส ภิกฺขูหิ สทฺธึ  อุโปสถคฺคํ ปวิสิตฺวา ภิกฺขู
มหนฺเตน อุสฺสาเหน ปาติโมกฺขํ ปคฺคณฺหนฺเต ทิสฺวา "อิเม ๕- อิมินา นีหาเรน
โอสาเรตฺวา โอสาเรตฺวา ลาภํ ๖- ขาทนฺติ, กติปาเหน หริสฺสามี"ติ จินฺเตสิ. โส
ปริเวณํ คนฺตฺวา อุปชฺฌายํ วนฺทิตฺวา "ภนฺเต กินฺนาโม อยํ ธมฺโม"ติ ปุจฺฉิ.
ปาติโมกฺโข  นาม อาวุโสติ. อุตฺตมธมฺโม เอส ภนฺเต ภวิสฺสตีติ. อาม อาวุโส,
สกลสาสนสนฺธารณี อยํ สิกฺขาติ. ภนฺเต สเจ เอส สิกฺขาธมฺโม อุตฺตโม, อิมเมว
ปฐมํ คณฺหามีติ. คณฺหาวุโสติ เถโร สมฺปฏิจฺฉิ. โส คณฺหนฺโต ปริพฺพาชเก
ปสฺสิตฺวา "กีทิสํ อาจริยา"ติ ปุจฺฉิโต "อาวุโส มา จินฺตยิตฺถ, กติปาเหน
@เชิงอรรถ:  สี.,อิ. โว ตสฺส เอตฺตกสฺส กิริยายาติ, ฉ.ม. โว เอตสฺส เอตฺตกสฺส กิริยาติ
@ ฉ.ม. อาหริตฺวา จ       ฉ.ม.,อิ. จณฺฑา        ฉ.ม. ปพฺพชสีติ
@ ฉ.ม. อยํ ปาโฐ น ทิสฺสติ      ฉ.ม. โลกํ. เอวมุปริปิ
อาหริสฺสามี"ติ วตฺวา นจิรสฺเสว อุคฺคณฺหิตฺวา อุปชฺฌายํ อาห "เอตฺตกเมว ภนฺเต
อุทาหุ อญฺญํปิ อตฺถี"ติ. เอตฺตกเมว อาวุโสติ.
     โส ปุนทิวเส ยถานิวตฺถปารุโตว คหิตนีหาเรเนว ปตฺตํ คเหตฺวา คิชฺฌกูฏา
นิกฺขมฺม ปริพฺพาชการามํ อคมาสิ. ปริพฺพาชกา ทิสฺวา "กีทิสํ อาจริย, นาสกฺขิตฺถ
มญฺเญ อาวฏฺฏนิมายํ อาหริตุนฺ"ติ ตํ ปริวารยึสุ. มา จินฺตยิตฺถ อาวุโส, อาหฏา
เม อาวฏฺฏนิมายา, อิโต ปฏฺฐาย อมฺหากํ ลาภสกฺกาโร มหา ภวิสฺสติ. ตุเมฺห
อญฺญมญฺญํ สมคฺคา โหถ, มา วิวาทํ อกตฺถาติ. สเจ เต อาจริย สุคฺคหิโต, ๑-
อเมฺหปิ ตํ วาเจหีติ. โส อาทิโต ปฏฺฐาย ปาติโมกฺขํ โอสาเรสิ. อถ เต
สพฺเพปิ "เอตฺถ โภ นคเร วิจรนฺตา สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ กเถสฺสามา"ติ
อนุคฺฆาฏิเตสุเยว นครทฺวาเรสุ ทฺวารสมีปํ คนฺตฺวา วิวเฏน ทฺวาเรน สพฺพปฐมํ
ปวิสึสุ. เอวํ สลิงฺเคเนว อปกฺกนฺตํ ตํ ปริพฺพาชกํ สนฺธาย "สรโภ นาม
ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต โหตี"ติ วุตฺตํ
      ตํ ทิวสํ ปน ภควา ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต อิมํ อทฺทส "อชฺช
สรโภ ปริพฺพาชโก นคเร วิจริตฺวา ปกาสนียกมฺมํ กริสฺสติ, ติณฺณํ รตนานํ
อวณฺณํ กเถนฺโต วิสํ สิญฺจิตฺวา ปริพฺพาชการามํ คมิสฺสติ, อหํปิ ตตฺเถว
คมิสฺสามิ, จตสฺโสปิ ปริสา ตตฺเถว โอสริสฺสนฺติ. ตสฺมึ สมาคเม
จตุราสีติปาณสหสฺสานิ อมตปานํ ปิวิสฺสนฺตี"ติ. ตโต "ตสฺส โอกาโส โหตุ, ยถารุจิยา
อวณฺณํ ปตฺถรตู"ติ จินฺเตตฺวา อานนฺทตฺเถรํ อามนฺเตสิ "อานนฺท อฏฺฐารสสุ
มหาวิหาเรสุ ภิกฺขุสํฆสฺส มยา สทฺธึเยว ปิณฺฑาย จริตุํ  อาโรเจหี"ติ. เถโร
ตถา อกาสิ. ภิกฺขู ปตฺตจีวรมาทาย สตฺถารเมว ปริวารยึสุ. สตฺถา ภิกฺขุสํฆํ
อาทาย ทฺวารคามสฺมึเยว ๒- ปิณฺฑาย จริ. สรโภปิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ นครํ
ปวิฏฺโฐ ตตฺถ ตตฺถ ปริสคณมชฺเฌ ราชทฺวาเร อมจฺจทฺวาเร ๓- วีถิจตุกฺกาทีสุ จ
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. สุคฺคหิตา    ฉ.ม. ทฺวารคามสมีเปเยว    ฉ.ม. อยํ ปาโฐ น ทิสฺสติ
คนฺตฺวา ๑- "อญฺญาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ธมฺโม"ติอาทีนิ อภาสิ. ตํ
สนฺธาย โส ราชคเห ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสตีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อญฺญาโตติ
ญาโต อวพุทฺโธ, ปากฏํ กตฺวา อุคฺคหิโตติ ทีเปติ. อญฺญายาติ ชานิตฺวา.
อปกฺกนฺโตติ สลิงฺเคเนว อปกฺกนฺโต. สเจ หิ สมณสฺส โคตมสฺส สาสเน โกจิ
สาโร อภวิสฺส, นาหํ อปกฺกมิสฺสํ. ตสฺส ปน สาสนํ อสารํ นิสฺสารํ, อาวฏฺฏนิมายํ
โอสาเรตฺวา สมณา ลาภํ ขาทนฺตีติ เอตมตฺถํ ทีเปนฺโต เอวมาห.
     อถโข สมฺพหุลา ภิกฺขูติ อถ เอวํ ตสฺมึ ปริพฺพาชเก ภาสมาเน อรญฺญวาสิโน
ปญฺจสตา ภิกฺขู "อสุกฏฺฐานํ นาม สตฺถา ปิณฺฑาย จริตุํ คโต"ติ อชานนฺตา
ภิกฺขาจารเวลายํ ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. เต สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อสฺโสสุนฺติ
สุณึสุ. เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสูติ "อิทํ การณํ ทสพลสฺส อาโรเจสฺสามา"ติ
อุปสงฺกมึสุ.
     สปฺปินิกา ตีรนฺติ สปฺปินิกาติ ๒- เอวํนามิกาย นทิยา ตีรํ. อธิวาเสสิ
ภควา ตุณฺหีภาเวนาติ กายงฺควาจงฺคานิ อโจเปตฺวา อพฺภนฺตเร ขนฺตึ จาเรตฺวา ๓-
จิตฺเตเนว อธิวาเสสีติ อตฺโถ. เอวํ อธิวาเสตฺวา ปุน ๔- จินฺเตสิ "กินฺนุ โข อชฺช
มยา สรภสฺส วาทํ มทฺทิตุํ คจฺฉนฺเตน เอกเกน คนฺตพฺพํ, อุทาหุ ภิกฺขุสํฆปริ-
วุเตนา"ติ อถสฺส เอตทโหสิ:- สจาหํ ภิกฺขุสํฆปริวุโต  คมิสฺสามิ, มหาชโน
เอวํ จินฺเตสฺสติ "สมโณ โคตโม วาทุปฺปตฺติฏฺฐานํ คจฺฉนฺโต ปกฺขํ อุกฺขิปิตฺวา
คนฺตฺวา ปริสพเลน อุปฺปนฺนํ วาทํ มทฺทติ, ปรวาทีนํ สีสํ อุกฺขิปิตุํ น เทตี"ติ.
น โข ปน มยฺหํ อุปฺปนฺเน วาเท ปรํ คเหตฺวา มทฺทนกิจฺจํ อตฺถิ, อหเมว คนฺตฺวา
มทฺทิสฺสามิ. อนจฺฉริยํ เจตํ ยฺวาหํ ๕- อิทานิ พุทฺธภูโต อตฺตโน อุปฺปนฺนํ
วาทํ มทฺเทยฺยํ, ๖- จริยํ จรณกาเล อเหตุกปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺเตนาปิ หิ มยา
วหิตพฺพธุรํ อญฺโญ วหิตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส สาธนตฺถํ:-
@เชิงอรรถ:  สี. ฐตฺวา     ฉ.ม. สิปฺปินิกาตีรนฺติ สิปฺปินิกาติ    ฉ.ม. ธาเรตฺวา
@ สี.,อิ. ปน    สี.,อิ. สฺวาหํ    ม. มทฺเทยฺย
          "ยโต ยโต ครุธุรํ        ยโต คมฺภีรวตฺตนี
           ตทาสฺสุ กณฺหํ โยเชนฺติ ๑- สฺวาสฺสุ ตํ วหเต ธุรนฺ"ติ ๒-
อิทํ กณฺหชาตกํ อาหริตพฺพํ. อตีเต กิร เอโก สตฺถวาโห เอกิสฺสา มหลฺลิกาย
เคเห นิวาสํ คณฺหิ. อถสฺส เอกิสฺสา เธนุยา รตฺติภาคสมนนฺตเร คพฺภวุฏฺฐานํ
อโหสิ. สา เอกํ วจฺฉกํ วิชายิ. มหลฺลิกาย วจฺฉกํ ทิฏฺฐกาลโต ปฏฺฐาย
ปุตฺตสิเนโห อุทปาทิ. ปุนทิวเส สตฺถวาหปุตฺโต  "ตว เคหเวตนํ คณฺหาหี"ติ อาห.
มหลฺลิกา "มยฺหํ อญฺเญน กมฺมํ ๓- นตฺถิ, อิมํ เม วจฺฉกํ เทหี"ติ อาห.
คณฺหาหิ อมฺมาติ. สา ตํ คณฺหิตฺวา ขีรํ ปาเยตฺวา ยาคุภตฺตติณาทีนิ ททมานา
โปเสสิ. โส วุฑฺฒิมนฺวาย ปริปุณฺณรูโป พลวิริยสมฺปนฺโน อโหสิ สมฺปนฺนาจาโร,
กาฬโก นาม นาเมน. อเถกสฺส สตฺถวาหสฺส ปญฺจหิ สกฏสเตหิ อาคจฺฉนฺตสฺส
อุทกภินฺนฏฺฐาเน สกฏจกฺกํ ลคฺคิ. โส ทสปิ วีสติปิ ตึสติปิ สมฺปโยเชตฺวา นีหราเปตุํ
อสกฺโกนฺโต กาฬกํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห "ตาต ตว เวตนํ ทสฺสามิ, สกฏมฺเม
อุกฺขิปิตฺวา เทหี"ติ. เอวํ วจนํ ๔- วตฺวา ตํ อาทาย "อญฺโญ อิมินา สทฺธึ ธุรํ
วหิตุํ สมตฺโถ นตฺถี"ติ ธุรสกเฏ ๕- โยตฺตํ พนฺธิตฺวา ตํ เอกํเยว ๖- โยเชสิ. โส
ตํ สกฏํ อุกฺขิปิตฺวา ถเล ปติฏฺฐาเปตฺวา เอเตเนว นีหาเรน ๗- ปญฺจ สกฏสตานิ
นีหริ. โส สพฺพปจฺฉิมํ สกฏํ นีหริตฺวา โมจิยมาโน "สุนฺ"ติ กตฺวา สีสํ อุกฺขิปิ.
     สตฺถวาโห "อยํ เอตฺตกานิ สกฏานิ อุกฺขิปนฺโต เอวํ น อกาสิ, เวตนตฺถํ มญฺเญ
กโรตี"ติ สกฏคณนาย กหาปเณ คเหตฺวา ปญฺจสตภณฺฑิกํ ตสฺส คีวายํ พนฺธาเปสิ. ๘-
โส อญฺเญสํ อตฺตโน สนฺติกํ อลฺลียิตุํ  อเทนฺโต อุชุกํ เคหเมว อคมาสิ.
มหลฺลิกา ทิสฺวา โมเจตฺวา กหาปณภาวํ ญตฺวา "กสฺมา ปุตฺต เอวมกาสิ, โส
ตฺวํ `มยา กมฺมํ กตฺวา อาภเตน อยํ ชีวิสฺสตี'ติ สญฺญมกาสี"ติ วตฺวา โคณํ
@เชิงอรรถ:  ฉ,ม,อิ. ยุญฺเชนฺติ    ขุ.ชา. ๒๗/๒๙/๑๐ กณฺหชาตก   ฉ.ม. กิจฺจํ
@ ฉ.ม.,อิ. เอวญฺจ ปน   ม. ธุรสกฏจฺฉิทฺเท    ฉ.ม.,อิ. เอกกํเยว
@ สี.,อิ. นิยาเมน     ม. ฐเปสิ
อุโณฺหทเกน นฺหาเปตฺวา เตเลน อพฺภญฺชิตฺวา "อิโต ปฏฺฐาย ปุน มา เอวมกาสี"ติ
โอวทิ. เอวํ สนฺธาย ๑- "จริยํ จรณกาเล อเหตุกปฏิสนฺธิยํ นิพฺพตฺเตนาปิ หิ มยา
วหิตพฺพธุรํ อญฺโญ วหิตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสี"ติ จินฺเตตฺวา เอกโกว อคมาสิ.
ตํ ทสฺเสตุํ อถโข ภควา สายณฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโตติอาทิ วุตฺตํ.
     ตตฺถ ปฏิสลฺลานาติ ปุถุตฺตารมฺมเณหิ จิตฺตํ ปฏิสํหริตฺวา สลฺลานโต,
ผลสมาปตฺติโตติ อตฺโถ. เตนุปสงฺกมีติ ปริพฺพาชเกสุ สกลนคเร ปกาสนียกมฺมํ
กตฺวา นครา นิกฺขมฺม ปริพฺพาชการาเม สนฺนิปติตฺวา "สเจ อาวุโส สรภ สมโณ
โคตโม อาคมิสฺสติ, กึ กริสฺสสี"ติ. สมเณ โคตเม เอกํ กโรนฺเต อหํ เทฺว
กริสฺสามิ, เทฺว กโรนฺเต จตฺตาริ, จตฺตาริ กโรนฺเต ปญฺจ, ปญฺจ กโรนฺเต ทส,
ทส กโรนฺเต วีสติ, วีสติ กโรนฺเต ตึสํ, ตึสํ  กโรนฺเต จตฺตาฬีสํ, จตฺตาฬีสํ
กโรนฺเต ปญฺญาสํ, ปญฺญาสํ กโรนฺเต สตํ, สตํ กโรนฺเต สหสฺสํ กริสฺสามีติ
เอวํ อญฺญมญฺญํ สีหนาทกถํ สมุฏฺฐาเปตฺวา นิสินฺเนสุ อุปสงฺกมิ.
     อุปสงฺกมนฺโต ปน ยสฺมา ปริพฺพาชการามสฺส นครมชฺเฌเนว มคฺโค, ตสฺมา
สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา สุคตมหาจีวรํ ปารุปิตฺวา วิสฏฺฐพโล ราชา วิย เอกโกว
นครมชฺเฌน อคมาสิ. มิจฺฉาทิฏฺฐิกา ทิสฺวา "ปริพฺพาชกา สมณสฺส โคตมสฺส
ปกาสนียกมฺมํ กโรนฺตา อวณฺณํ ปตฺถรึสุ, โส เอเต อนุวตฺติตฺวา สญฺญาเปตุํ
คจฺฉติ มญฺเญ"ติ อนุพนฺธึสุ. สมฺมาทิฏฺฐิกาปิ "สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปตฺตจีวรํ อาทาย
เอกโกว นิกฺขนฺโต, อชฺช สรเภน สทฺธึ มหาธมฺมสงฺคาโม ภวิสฺสติ. มยํปิ ตสฺมึ
สมาคเม กายสกฺขิโน ภวิสฺสามา"ติ อนุพนฺธึสุ. สตฺถา ปสฺสนฺตสฺเสว มหาชนสฺส
ปริพฺพาชกสฺสารามํ อุปสงฺกมิ.
     ปริพฺพาชกา รุกฺขานํ ขนฺธวิฏปสาขนฺตเรหิ สมุคฺคจฺฉนฺตา ฉพฺพณฺณา
ฆนพุทฺธรสฺมิโย ทิสฺวา "อญฺโญ ๒- เอวรูโป โอกาโส นาม นตฺถิ. กึ นุ โข
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. สตฺถา                      ฉ.ม.,อิ. อญฺญทา
เอตนฺ"ติ โอโลเกตฺวา ๑- "สมโณ โคตโม อาคจฺฉตี"ติ อาหํสุ. ตํ สุตฺวาว สรโภ
ชานุกนฺตเร สีสํ ฐเปตฺวา อโธมุโข นิสีทิ. เอวํ ตสฺมึ สมเย ภควา ตํ อารามํ
อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ. ตถาคโต หิ ชมฺพูทีปตเล อคฺคกุเล
ชาตตฺตา อาสนารโห. ๒- ตสฺส สพฺพตฺถ อาสนํ ปญฺญตฺตเมว โหติ. เอวํ ปญฺญตฺเต
อาสเน ๓- นิสีทิ.
     เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจุนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺเธ กิร
สรเภน สทฺธึ เอตฺตกํ กเถนฺเตเยว ภิกฺขุสํโฆ สตฺถุ ปทานุปทิโก หุตฺวา
ปริพฺพาชการามํ สมฺปาปุณิ, จตสฺโสปิ ปริสา ปริพฺพาชการาเมเยว โอสรึสุ. ตโต
เต ปริพฺพาชกา "อจฺฉริยํ สมณสฺส โคตมสฺส กมฺมํ, สกลนครํ วิจริตฺวา อวณฺณํ
ปตฺถริตฺวา ปกาสนียกมฺมํ กตฺวา อาคตานํ เวรีนํ ปฏิสตฺตูนํ ปจฺจามิตฺตานํ สนฺติกํ
อาคนฺตฺวา โถกํปิ วิคฺคาหิกกถํ น กเถติ, อาคตกาลโต ปฏฺฐาย สตปากเตเลน
มกฺเขนฺโต วิย อมตปานํ ปาเยนฺโต วิย มธุรกถํ กเถตี"ติ สพฺเพปิ สมฺมาสมฺพุทฺธํ
อนุวตฺตนฺตา เอตทโวจุํ.
     ยาเจยฺยาสีติ อายาเจยฺยาสิ ปฏฺเฐยฺยาสิ ปิเหยฺยาสิ. ตุณฺหีภูโตติ ตุณฺหีภาวํ
อุปคโต. มงฺกุภูโตติ  นิตฺเตชตํ อาปนฺโน. ปตฺตกฺขนฺโธติ โอณตคีโว. อโธมุโขติ
เหฏฺฐามุโข. สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโตติ "อหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺเพ ธมฺมา
มยา อภิสมฺพุทฺธา"ติ เอวํ ปฏิชานโต ตว. อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธาติ อิเม
นาม ธมฺมา ตยา อนภิสมฺพุทฺธา. ตตฺถาติ เตสุ อนภิสมฺพุทฺธาติ เอวํ ทสฺสิตธมฺเมสุ.
อญฺเญน วา อญฺญํ ปฏิจริสฺสตีติ อญฺเญน วา วจเนน อญฺญํ วจนํ ปฏิจฺฉาเทสฺสติ,
อญฺญํ ปุจฺฉิโต อญฺญํ กเถสฺสตีติ อตฺโถ. ๔- พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสตีติ พหิทฺธา
อญฺญํ อาคนฺตุกกถํ อาหรนฺโต ปุริมกถํ อปนาเมสฺสติ. อปฺปจฺจยนฺติ อนภิรตึ
อตุฏฺฐาการํ. ปาตุกริสฺสตีติ ปากฏํ กริสฺสติ. เอตฺถ จ อปฺปจฺจเยน โทมนสฺสํ
วุตฺตํ, ปุริเมหิ ทฺวีหิ มนฺทพลวเภโท โกโธเยว.
@เชิงอรรถ: ฉ.ม.,อิ. อุลฺโลเกตฺวา   ฉ.ม. อคฺคสนารโหติสฺส   ฉ.ม.,อิ. มหารเห พุทฺธาสเน
@ ฉ.ม.อธิปฺปาโย
     เอวํ ภควา ปฐมเวสารชฺเชน สีหนาทํ นทิตฺวา ปุน ทุติยาทีหิ นทนฺโต
โย โข มํ ปริพฺพาชกาติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม
เทสิโตติ ยสฺส มคฺคสฺส วา ผลสฺส วา อตฺถาย ตยา จตุสจฺจธมฺโม เทสิโต.
โส น นิยฺยาตีติ โส ธมฺโม น นิยฺยาติ น นิคจฺฉติ, น ตํ อตฺถํ สาเธตีติ
วุตฺตํ โหติ. ตกฺกรสฺสาติ โย ตํ กโรติ, ตสฺส ปฏิปตฺติปูรกสฺส ปุคฺคลสฺสาติ อตฺโถ.
สมฺมา ทุกฺขกฺขยายาติ เหตุนา นเยน การเณน สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส ขยาย.
อถวา ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ ยสฺส เต อตฺถาย
ธมฺโม เทสิโต, เสยฺยถีทํ? ราคปฏิฆาตตฺถาย อสุภกมฺมฏฺฐานํ, โทสปฏิฆาตตฺถาย
เมตฺตาภาวนา, โมหปฏิฆาตตฺถาย ปญฺจ ธมฺมา ๑- วิตกฺกูปจฺเฉทาย อานาปานสฺสติ.
โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมาทุกฺขกฺขยายาติ โส ธมฺโม โย นํ ยถาเทสิตํ
กโรติ, ตสฺส ตกฺกรสฺส สมฺมา เหตุนา นเยน การเณน วฏฺฏทุกฺขกฺขยาย น
นิยฺยาติ น นิคจฺฉติ, ตํ อตฺถํ น สาเธตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เสยฺยถาปิ
สรโภ ปริพฺพาชโกติ  ยถา อยํ สรโภ ปริพฺพาชโก ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโณ
นิสินฺโน, เอวํ นิสีทิสฺสตีติ.
     เอวํ ตีหิ ปเทหิ สีหนาทํ นทิตฺวา เทสนํ นิวฏฺเฏนฺตสฺเสว ๒- ตถาคตสฺส
ตสฺมึ ฐาเน สนฺนิปติตา จตุราสีติปาณสหสฺสปริมาณา ปริสา อมตปานํ ปิวิ,
สตฺถา ปริสาย อมตปานสฺส ปีตภาวํ ญตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปกฺกามิ.
ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อถโข ภควาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สีหนาทนฺติ เสฏฺฐนาทํ อภีตนาทํ
อปฺปฏินาทํ. เวหาสํ ปกฺกามีติ อภิญฺญาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา
วุฏฺฐาย อธิฏฺฐาย สทฺธึ ภิกฺขุสํเฆน อากาสํ ปกฺขนฺทิ. เอวํ ปกฺขนฺโท จ ปน
ตํขณญฺเญว คิชฺฌกูฏมหาวิหาเร ปติฏฺฐาสิ.
     วาจาย สนฺนิโตทเกนาติ วจนปโตเทน. สญฺชมฺภรึ อกํสูติ สมฺภริตํ
นิรนฺตรผุฏฺฐํ อกํสุ, อุปริ ๓- วิชฺฌึสูติ วุตฺตํ โหติ. พฺรหารญฺเญติ มหารญฺเญ.
@เชิงอรรถ:  ก. มรณสจฺจธมฺมา   สี.,อิ. นิพฺพฏฺฏนฺตสฺเสว นิพฺพฏฺฏนฺตสฺเสว,
@ฉ.ม. นิวตฺเตนฺตสฺเสว   สี. อุปริ อุปริ
สีหนาทํ นทิสฺสามีติ สีหนาทสฺส นทโต อาการํ ทิสฺวา "อยํปิ ติรจฺฉานคโต,
อหํปิ, อิมสฺส จตฺตาโร ปาทา, มยฺหํปิ, อหํปิ เอวเมว สีหนาทํ นทิสฺสามี"ติ
จินฺเตสิ. โส สีหสฺส สมฺมุขา นทิตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺมึ โคจราย ปกฺกนฺเต เอกโก
นทิตุํ อารภิ. อถสฺส สิคาลกสทฺโทเยว นิจฺฉริ. เตน วุตฺตํ สิคาลกํเยว นทตีติ.
เภรณฺฑกนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. อปิจ ภินฺนสฺสรํ อมนาปสทฺทํ นทตีติปิ วุตฺตํ โหติ.
เอวเมว โข ตฺวนฺติ อิมินา โอปมฺเมน ปริพฺพาชกา ตถาคตํ สีหสทิสํ กตฺวา สรภํ
สิคาลกสทิสํ อกํสุ. อมฺพกมทฺทรีติ ๑- ขุทฺทกกุกฺกุฏิกา. ปุสฺสกรวิตํ ๒-
รวิสฺสามีติ มหากุกฺกุฏํ รวนฺตํ ทิสฺวา "อิมสฺสปิ เทฺว ปาทา เทฺว ปกฺขา, มยฺหํปิ
ตเถว, อหํปิ เอวรูปํ รวิตํ รวิสฺสามี"ติ สา ตสฺส สมฺมุขา รวิตุํ อสกฺโกนฺตี ตสฺมึ
ปกฺกนฺเต วิรวมานา ๓- กุกฺกุฏิการวํเยว รวิ. เตน วุตฺตํ อมฺพกมทฺทรีรวิตํเยว
รวตีติ. อุสโภติ โคโณ. สุญฺญายาติ ตุจฺฉาย เชฏฺฐกวสเภหิ วิรหิตาย. คมฺภีรํ
นทิตพฺพํ มญฺญตีติ เชฏฺฐกวสภนาทสทิสํ คมฺภีรํ นาทํ นทิตพฺพํ มญฺญติ.
เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๑๕ หน้า ๑๙๓-๒๐๒. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=15&A=4447&modeTY=2              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=15&A=4447&modeTY=2              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=504              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=20&A=4855              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=20&A=4972              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=20&A=4972              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐ http://84000.org/tipitaka/read/?index_20

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]