ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม  
อรรถกถาเล่มที่ ๒๗ ภาษาบาลีอักษรไทย อิติ.อ. (ปรมตฺถที.)

                       ๘. กลฺยาณสีลสุตฺตวณฺณนา
      [๙๗] อฏฺฐเม กลฺยาณสีโลติ สุนฺทรสีโล ปสตฺถสีโล ๑- ปริปุณฺณสีโล.
ตตฺถ สีลปาริปูรี ทฺวีหิ การเณหิ โหติ สมฺมเทว สีลวิปตฺติยา อาทีนวทสฺสเนน,
สีลสมฺปตฺติยา จ อานิสํสทสฺสเนน. อิธ ปน สพฺพปริพนฺธวิปฺปมุตฺตสฺส
สพฺพาการปริปุณฺณสฺส มคฺคสีลสฺส จ ผลสีลสฺส จ วเสน กลฺยาณตา
เวทิตพฺพา. กลฺยาณธมฺโมติ สพฺเพ โพธิปกฺขิยธมฺมา อธิปฺเปตา, ตสฺมา
กลฺยาณา สติปฏฺฐานาทิโพธิปกฺขิยธมฺมา เอตสฺสาติ กลฺยาณธมฺโม.
กลฺยาณปญฺโญติ จ มคฺคผลปญฺญาวเสเนว กลฺยาณปญฺโญ. โลกุตฺตรา เอว หิ
สีลาทิธมฺมา เอกนฺตกลฺยาณา นาม อกุปฺปสภาวตฺตา. เกจิ ปน
"จตุปาริสุทฺธิสีลวเสน กลฺยาณสีโล, วิปสฺสนามคฺคธมฺมวเสน กลฺยาณธมฺโม,
มคฺคผลปญฺญาวเสน กลฺยาณปญฺโญ"ติ วทนฺติ. อเสกฺขา เอว เต สีลธมฺมปญฺญาติ เอเก.
อปเร ปน ภณนฺติ:- โสตาปนฺนสกทาคามีนํ มคฺคผลสีลํ กลฺยาณสีลํ นาม,
ตสฺมา "กลฺยาณสีโล"ติ อิมินา โสตาปนฺโน สกทาคามี จ คหิตา โหนฺติ.
เต หิ สีเลสุ ปริปูรการิโน นาม. อนาคามิมคฺคผลธมฺมา อคฺคมคฺคธมฺมา
จ กลฺยาณธมฺมา นาม. ตตฺถ หิ โพธิปกฺขิยธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
@เชิงอรรถ:  สี.,ก. สมฺปนฺนสีโล
ตสฺมา "กลฺยาณธมฺโม"ติ อิมินา ตติยมคฺคฏฺฐโต ปฏฺฐาย ตโย อริยา คหิตา
โหนฺติ. ปญฺญากิจฺจสฺส มตฺถกปฺปตฺติยา อคฺคผเล ปญฺญา กลฺยาณปญฺญา
นาม, ตสฺมา ปญฺญาเวปุลฺลปฺปตฺโต อรหา "กลฺยาณปญฺโญ"ติ วุตฺโต. เอวเมว
ปุคฺคลา คหิตา โหนฺตีติ. กึ อิมินา ปปญฺเจน, อคฺคมคฺคผลธมฺมา อิธ
กลฺยาณสีลาทโย วุตฺตาติ อยมมฺหากํ ขนฺติ. ธมฺมวิภาเคน หิ อยํ ปุคฺคลวิภาโค,
น ธมฺมวิภาโคติ.
      เกวลีติ เอตฺถ เกวลํ วุจฺจติ เกนจิ อโวมิสฺสกตาย สพฺพสงฺขตวิวิตฺตํ
นิพฺพานํ, ตสฺส อธิคตตฺตา อรหา เกวลี. อถ วา ปหานภาวนาปาริปูริยา
ปริโยสานอนวชฺชธมฺมปาริปูริยา จ กลฺยาณกฏฺเฐน อพฺยาเสกสุขตาย จ เกวลํ
อรหตฺตํ, ตทธิคเมน เกวลี ขีณาสโว. มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ วสิตฺวา ปริโยสาเปตฺวา
ฐิโตติ วสิตวา. อุตฺตเมหิ อคฺคภูเตหิ วา อเสกฺขธมฺเมหิ สมนฺนาคตตฺตา
"อุตฺตมปุริโส"ติ วุจฺจติ.
      สีลวาติ เอตฺถ เกนฏฺเฐน สีลํ? สีลนฏฺเฐน สีลํ. กิมิทํ สีลนํ นาม?
สมาธานํ, สุสีลฺยวเสน กายกมฺมาทีนํ อวิปฺปกิณฺณตาติ อตฺโถ. อถ วา
อุปธารณํ, ฌานาทิกุสลธมฺมานํ ปติฏฺฐานวเสน อาธารภาโวติ อตฺโถ. ตสฺมา
สีลติ, สีเลตีติ วา สีลํ. อยํ ตาว สทฺทลกฺขณนเยน สีลฏฺโฐ. อปเร ปน
"สิรฏฺโฐ สีลฏฺโฐ, สีตลฏฺโฐ สีลฏฺโฐ, สิวฏฺโฐ สีลฏฺโฐ"ติ นิรุตฺตินเยน
อตฺถํ วณฺเณนฺติ. ตยิทํ ปาริปูริโต อติสยโต วา สีลํ อสฺส อตฺถีติ
สีลวา, จตุปาริสุทฺธิสีลวเสน สีลสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. ตตฺถ ยํ เชฏฺฐกสีลํ, ตํ
วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสตุํ "ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต"ติอาทิ วุตฺตนฺติ เอกจฺจานํ อาจริยานํ
อธิปฺปาโย.
      อปเร ปน ภณนฺติ:- อุภยถาปิ ปาติโมกฺขสํวโร ภควตา วุตฺโต.
ปาติโมกฺขสํวโร เอว หิ สีลํ, อิตเรสุ อินฺทฺริยสํวโร ฉทฺวารรกฺขณมตฺตกเมว,
อาชีวปาริสุทฺธิ ธมฺเมน ปจฺจยุปฺปาทนมตฺตเมว, ปจฺจยสนฺนิสฺสิตํ ปฏิลทฺธปฺปจฺจเย
"อิทมตฺถนฺ"ติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุญฺชนมตฺตเมว. นิปฺปริยาเยน ปาติโมกฺขสํวโรว
สีลํ. ยสฺส โส ภินฺโน, โส ฉินฺนสีโส ๑- ปุริโส วิย หตฺถปาเท "เสสานิ
รกฺขิสฺสตี"ติ น วตฺตพฺโพ. ยสฺส ปน โส อโรโค, อจฺฉินฺนสีโส วิย ปุริโส
ตานิ ปุน ปากติกานิ กตฺวา รกฺขิตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา สีลวาติ อิมินา
ปาติโมกฺขสีลเมว อุทฺทิสิตฺวา ตํ วิตฺถาเรตุํ "ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต"ติอาทิ
วุตฺตนฺติ.
      ตตฺถ ปาติโมกฺขนฺติ สิกฺขาปทํ. ตํ หิ โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ
โมจยติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหีติ ปาติโมกฺขํ. สํวรณํ สํวโร, กายวาจาหิ อวีติกฺกโม.
ปาติโมกฺขเมว สํวโร ปาติโมกฺขสํวโร, เตน สํวุโต ปิหิตกายวาโจติ
ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต, อิทมสฺส ตสฺมึ สีเล ปติฏฺฐิตภาวปริทีปนํ. วิหรตีติ
ตทนุรูปวิหารสมงฺคิภาวปริทีปนํ. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ เหฏฺฐา ปาติโมกฺขสํวรสฺส,
อุปริ วิเสสานุโยคสฺส จ อุปการกธมฺมปริทีปนํ. อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ
ปาติโมกฺขสีลโต อจวนธมฺมตาปริทีปนํ. สมาทายาติ สิกฺขาปทานํ อนวเสสโต
อาทานปริทีปนํ. สิกฺขตีติ สิกฺขาย สมงฺคิภาวปริทีปนํ. สิกฺขาปเทสูติ
สิกฺขิตพฺพธมฺมปริทีปนํ.
      อปโร นโย:- กิเลสานํ พลวภาวโต ปาปกิริยาย สุกรภาวโต ปุญฺญกิริยาย
จ ทุกฺกรภาวโต พหุกฺขตฺตุํ อปาเยสุ ปตนสีโลติ ปาตี, ปุถุชฺชโน. อนิจฺจตาย
วา ภวาทีสุ กมฺมเวคกฺขิตฺโต ฆฏิยนฺตํ วิย อนวฏฺฐาเนน ปริพฺภมนโต
คมนสีโลติ ปาตี, มรณวเสน วา ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย อตฺตภาวสฺส
ปาตนสีโลติ ปาตี, สตฺตสนฺตาโน, จิตฺตเมว วา. ตํ ปาตินํ สํสารทุกฺขโต
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. สีสจฺฉินฺโน
โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺโข. ๑- จิตฺตสฺส หิ วิโมกฺเขน สตฺโต วิมุตฺโต. "จิตฺตโวทานา
วิสุชฺฌนฺตี"ติ ๒- "อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตนฺ"ติ ๓- จ วุตฺตํ. อถ วา
อวิชฺชานิทานเหตุนา ๔- สํสาเร ปตติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ ปาติ. "อวิชฺชานีวรณานํ
สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรตนฺ"ติ ๕- หิ วุตฺตํ. ตสฺส ปาติโน
สตฺตสฺส ตณฺหาทิสงฺกิเลสตฺตยโต โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺโข.
"กณฺเฐกาโล"ติอาทีนํ ๖- วิยสฺส สมาสสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
      อถ วา ปาเตติ วินิปาเตติ ทุกฺเขติ ปาติ, จิตฺตํ. วุตฺตญฺหิ "จิตฺเตน
นียติ โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสตี"ติ. ๗- ตสฺส ปาติโน โมกฺโข เอเตนาติ
ปาติโมกฺโข, ปตติ วา เอเตน อปายทุกฺเข สํสารทุกฺเข วาติ ปาติ,
ตณฺหาทิสงฺกิเลโส. วุตฺตญฺหิ "ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ, ๘- ตณฺหาทุติโย ปุริโส"ติ ๙- จ
อาทิ. ตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข. อถ วา ปตติ เอตฺถาติ ปาติ, ฉ
อชฺฌตฺติกานิ พาหิรานิ จ อายตนานิ. วุตฺตญฺหิ "ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน, ฉสุ
กุพฺพติ สนฺถวนฺ"ติ. ๑๐- ตโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนสงฺขาตโต ปาติโต โมกฺโขติ
ปาติโมกฺโข. อถ วา ปาโต วินิปาโต อสฺส อตฺถีติ ปาตี, สํสาโร. ตโต
โมกฺโขติ ปาติโมกฺโข. อถ วา สพฺพโลกาธิปติภาวโต ธมฺมิสฺสโร ภควา ปตีติ
วุจฺจติ, มุจฺจติ เอเตนาติ โมกฺโข, ปติโน โมกฺโข เตน ปญฺญตฺตตฺตาติ
ปติโมกฺโข. ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. สพฺพคุณานํ วา มูลภาวโต อุตฺตมฏฺเฐน
ปติ จ โส ยถาวุตฺตฏฺเฐน โมกฺโข จาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว
ปาติโมกฺโข. ตถา หิ วุตฺตํ "ปาติโมกฺขนฺติ มุขเมตํ ปมุขเมตนฺ"ติ ๑๑- วิตฺถาโร.
@เชิงอรรถ:  สี. ปาติโมกฺขํ         สํ.ข. ๑๗/๑๕๙/๑๔๔
@ ม.ม. ๑๓/๒๐๖/๑๘๒    ฉ.ม. อวิชฺชาทินา
@ สํ.นิ. ๑๖/๑๒๔/๑๗๒, สํมหา. ๑๙/๕๒๐/๑๙๘
@ ก. ตณฺหากาโลติอาทีนํ   สํ.ส. ๑๕/๖๒/๔๔
@ สํ.ส. ๑๕/๕๖/๔๒      ขุ.อิติ. ๒๕/๑๕/๒๔๑, ๒๕/๑๐๕/๓๒๔,
@ขุ.จูฬ. ๓๐/๖๖๗/๓๒๐ (สฺยา)
@๑๐ สํ.ส. ๑๕/๗๐/๔๖    ๑๑ วิ.มหา. ๔/๑๓๕/๑๔๘
      อถ วา ปอิติ ปกาเร, อตีติ อจฺจนฺตตฺเถ นิปาโต. ตสฺมา ปกาเรหิ
อจฺจนฺตํ โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺโข. อิทํ หิ สีลํ สยํ ตทงฺควเสน, สมาธิสหิตํ
ปญฺญาสหิตญฺจ วิกฺขมฺภนวเสน สมุจฺเฉทวเสน จ อจฺจนฺตํ โมกฺเขติ โมเจตีติ
ปาติโมกฺขํ. ปติ ปติ โมกฺโขติ วา ปติโมกฺโข, ตมฺหา ตมฺหา วีติกฺกมิตพฺพโทสโต
ปติ ปจฺเจกํ โมกฺโขติ อตฺโถ. ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺโข. โมกฺโขติ วา
นิพฺพานํ, ตสฺส โมกฺขสฺส ปฏิพิมฺพภูตนฺติ ปติโมกฺขํ. ปาติโมกฺขสีลสํวโร หิ
สูริยสฺส อรุณุคฺคมนํ วิย นิพฺพานสฺส อุทยภูโต ตปฺปฏิภาโค วิย โหติ ยถารหํ
กิเลสนิพฺพาปนโตติ ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขํ เอว ปาติโมกฺขํ. อถ วา โมกขํ
ปติวตฺตติ โมกฺขาภิมุขนฺติ ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขเมว ปาติโมกฺขนฺติ เอวํ ตาเวตฺถ
ปาติโมกฺขสทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
      สํวรติ ปิทหติ เอเตนาติ สํวโร, ปาติโมกฺขเมว สํวโรติ ปาติโมกฺขสํวโร.
อตฺถโต ปน ตโต ตโต วีติกฺกมิตพฺพโต วิรติโย เจตนา วา, เตน ปาติโมกฺขสํวเรน
อุเปโต สมนฺนาคโต ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ วุตฺโต. วุตฺตเญฺหตํ
วิภงฺเค:-
             "อิมินา ปาติโมกฺขสํวเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต
         อุปคโต สมุปคโต สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต, เตน วุจฺจติ
         ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต"ติ. ๑-
      วิหรตีติ อิริยาปถวิหาเรน วิหรติ อิริยติ วตฺตติ. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ
เวฬุทานาทิมิจฺฉาชีวสฺส กายปาคพฺภิยาทีนญฺจ อกรเณน สพฺพโส อนาจารํ
วชฺเชตฺวา "กายิโก อวีติกฺกโม วาจสิโก อวีติกฺกโม"ติ เอวํ วุตฺตภิกฺขุสารุปฺป-
อาจารสมฺปตฺติยา เวสิยาทิอโคจรํ วชฺเชตฺวา ปิณฺฑปาตาทิอตฺถํ อุปสงฺกมิตุํ
@เชิงอรรถ:  อภิ.วิ. ๓๕/๕๑๑/๒๙๖
ยุตฺตฏฺฐานสงฺขาตโคจเรน จ สมฺปนฺนตฺตา อาจารโคจรสมฺปนฺโน. อปิจ โย
ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว สปฺปติสฺโส สพฺรหฺมจารีสุ สคารโว สปฺปติสฺโส
หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺโน สุนิวตฺโถ สุปารุโต ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตน ปฏิกฺกนฺเตน
อาโลกิเตน วิโลกิเตน สมิญฺชิเตน ปสาริเตน โอกฺขิตฺตจกฺขุ อิริยาปถสมฺปนฺโน
อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตญฺญู ชาคริยานุยุตฺโต สติสมฺปชญฺเญน
สมนฺนาคโต อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโฐ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโฐ อาภิสมาจาริเกสุ
สกฺกจฺจการี ครุจิตฺตีการพหุโล วิหรติ, อยํ วุจฺจติ อาจารสมฺปนฺโน.
      โคจโร ปน อุปนิสฺสยโคจโร อารกฺขโคจโร อุปนิพนฺธโคจโรติ ติวิโธ.
ตตฺถ ทสกถาวตฺถุคุณสมนฺนาคโต วุตฺตลกฺขโณ กลฺยาณมิตฺโต ยํ นิสฺสาย อสุตํ
สุณาติ, สุตํ ปริโยทเปติ, กงฺขํ วิโนเทติ, ๑- ทิฏฺฐึ อุชุกํ กโรติ, จิตฺตํ
ปสาเทติ, ยสฺส จ อนุสิกฺขนฺโต สทฺธาย วฑฺฒติ, สีเลน, สุเตน, จาเคน,
ปญฺญาย วฑฺฒติ, อยํ อุปนิสฺสยโคจโร. โย ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิฏฺโฐ วีถึ
ปฏิปนฺโน โอกฺขิตฺตจกฺขุ ยุคมตฺตทสฺสาวี สํวุโต คจฺฉติ, น หตฺถึ โอโลเกนฺโต,
น อสฺสํ, น รถํ, น ปตฺตึ, น อิตฺถึ, น ปุริสํ โอโลเกนฺโต, น อุทฺธํ
โอโลเกนฺโต, น อโธ โอโลเกนฺโต, น ทิสาวิทิสา เปกฺขมาโน คจฺฉติ, อยํ
อารกฺขโคจโร. อุปนิพนฺธโคจโร ปน จตฺตาโร สติปฏฺฐานา, ยตฺถ ภิกฺขุ
อตฺตโน จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ. วุตฺตเญฺหตํ ภควตา:-
             "โกจิ ภิกฺขเว ภิกฺขุโน โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโย,
         ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺฐานา"ติ. ๒-
      อิติ ยถาวุตฺตาย อาจารสมฺปตฺติยา อิมาย จ โคจรสมฺปตฺติยา สมนฺนาคตตฺตา
อาจารโคจรสมฺปนฺโน.
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. วิตรติ      สํ.มหา. ๑๙/๓๗๒/๑๒๙
      อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ อปฺปมตฺตเกสุ อณุปฺปมาเณสุ อสญฺจิจฺจ
อาปนฺนเสขิยอกุสลจิตฺตุปฺปาทาทิเภเทสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสนสีโล. โย หิ ภิกฺขุ
ปรมาณุมตฺตํ วชฺชํ อฏฺฐสฏฺฐิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธสิเนรุปพฺพตราชสทิสํ กตฺวา
ปสฺสติ, โยปิ ภิกฺขุ สพฺพลหุกํ ทุพฺภาสิตมตฺตํ ปาราชิกสทิสํ กตฺวา ปสฺสติ,
อยํ อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี นาม. สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ
ยงฺกิญฺจิ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขิตพฺพํ, ตํ สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ อนวเสสํ
สมาทิยิตฺวา สิกฺขติ วตฺตติ, ปูเรตีติ อตฺโถ. อิติ กลฺยาณสีโลติ อิมินา ปกาเรน
กลฺยาณสีโล สมาโน. ๑- ปุคฺคลาธิฏฺฐานวเสน หิ นิทฺทิฏฺฐํ สีลํ "เอวํ โข
ภิกฺขเว ภิกฺขุ กลฺยาณสีโล โหตี"ติ วุตฺตปุคฺคลาธิฏฺฐานวเสเนว นิคเมตฺวา
"กลฺยาณธมฺโม"ติ เอตฺถ วุตฺตธมฺเม นิทฺทิสิตุกาเมน "เตสํ ธมฺมานํ อิทํ
สีลํ อธิฏฺฐานนฺ"ติ ทสฺเสตุํ ปุน "อิติ กลฺยาณสีโล"ติ วุตฺตํ. สตฺตนฺนํ
โพธิปกฺขิยานนฺติอาทิ สพฺพํ เหฏฺฐา วุตฺตตฺถเมว. ปุน กลฺยาณสีโลติอาทิ
นิคมนํ.
      คาถาสุ ทุกฺกฏนฺติ ทุฏฺฐุ กตํ, ทุจฺจริตนฺติ อตฺโถ. หิริมนนฺติ หิริมนฺตํ
หิริสหิตจิตฺตํ หิริสมฺปนฺนํ, สพฺพโส ปาปปวตฺติยา ชิคุจฺฉนสภาวนฺติ อตฺโถ.
หิริมนนฺติ วา หิริสหิตจิตฺตํ หิริคฺคหเณเนว เจตฺถ โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตนฺติ
เวทิตพฺพํ. หิโรตฺตปฺปคฺคหเณน จ สพฺพโส ทุจฺจริตาภาวสฺส เหตุํ ทสฺเสนฺโต
กลฺยาณสีลตํ เหตุโต วิภาเวติ. สมฺโพธีติ อริยญาณํ, ตํ คจฺฉนฺติ ภชนฺตีติ
สมฺโพธิคามิโน, โพธิปกฺขิกาติ อตฺโถ. อนุสฺสทนฺติ ราคุสฺสทาทิรหิตํ.
"ตถาวิธนฺ"ติปิ ปฐนฺติ. "โพธิปกฺขิกานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต"ติ ยถา ยถา
ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตถาวิธํ ตาทิสนฺติ อตฺโถ. ทุกฺขสฺสาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส,
วฏฺฏทุกฺขเหตุโน วา. อิเธว ขยมตฺตโนติ
@เชิงอรรถ:  ม. กลฺยาณสีลสมฺปนฺโน
อาสวกฺขยาธิคเมน อตฺตโน วฏฺฏทุกฺขเหตุโน สมุทยปกฺขิยสฺส กิเลสคฺคณสฺส
อิเธว อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ขยํ อนุปฺปาทํ ปชานาติ, วฏฺฏทุกฺขสฺเสว วา
อิเธว จริมกจิตฺตนิโรเธน ขยํ ขีณภาวํ ปชานาติ. เตหิ ธมฺเมหิ สมฺปนฺนนฺติ
เตหิ ยถาวุตฺตสีลาทิธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ. อสิตนฺติ ตณฺหาทิฏฺฐินิสฺสยานํ ปหีนตฺตา
อสิตํ, กตฺถจิ อนิสฺสิตํ. สพฺพโลกสฺสาติ สพฺพสฺมึ สตฺตโลเก. เสสํ วุตฺตนยเมว.
                       อฏฺฐมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตา.
                         --------------


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๒๗ หน้า ๓๔๔-๓๕๑. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=27&A=7620&modeTY=2              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=27&A=7620&modeTY=2              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=277              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=25&A=6423              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=25&A=6286              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=25&A=6286              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_25

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]