ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม  
อรรถกถาเล่มที่ ๓๑ ภาษาบาลีอักษรไทย เปต.อ. (ปรมตฺถที.)

                  ๙๐. ๕. ติโรกุฑฺฑเปตวตฺถุวณฺณนา  ๑-
     ติโรกุฑฺเฑสุ ติฏฺฐนฺตีติ อิทํ สตฺถา ราชคเห วิหรนฺโต สมฺพหุเล เปเต
อารพฺภ กเถสิ.
     ตตฺรายํ วิตฺถารกถา:- อิโต ทฺวานวุติกปฺเป กาสิ นาม นครํ อโหสิ,
ตตฺถ ชยเสโน นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ, ตสฺส สิริมา นาม เทวี, ตสฺสา
กุจฺฉิยํ ผุสฺโส นาม โพธิสตฺโต นิพฺพตฺติตฺวา อนุปุพฺเพน สมฺมาสมฺโพธึ
อภิสมฺพุชฺฌิ. ชยเสโน ราชา "มม ปุตฺโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา ๒- พุทฺโธ ชาโต,
มยฺหเมว พุทฺโธ, มยฺหํ ๓- ธมฺโม, มยฺหํ สํโฆ"ติ มมตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สพฺพกาลํ
สยเมว อุปฏฺฐหติ, น อญฺเญสํ โอกาสํ เทติ.
     ภควโต กนิฏฺฐภาตโร เวมาติกา ตโย ภาตโร จินฺเตสุํ "พุทฺธา นาม
สพฺพโลกหิตตฺถาย อุปฺปชฺชนฺติ, น เอกสฺเสว อตฺถาย, อมฺหากญฺจ ปิตา อญฺเญสํ
โอกาสํ น เทติ, กถํ นุ โข มยํ ลเภยฺยาม ภควนฺตํ อุปฏฺฐาตุํ ภิกฺขุสํฆญฺจาติ.
เตสํ เอตทโหสิ "หนฺท มยํ กิญฺจิ อุปายํ กโรมา"ติ. เต ปจฺจนฺตํ กุปิตํ วิย
การาเปสุํ. ตโต ราชา "ปจฺจนฺโต กุปิโต"ติ สุตฺวา ตโยปิ ปุตฺเต ปจฺจนฺตํ วูปสเมตุํ
เปเสสิ. เต คนฺตฺวา วูปสเมตฺวา อาคตา, ราชา ตุฏฺโฐ วรํ อทาสิ "ยํ อิจฺฉถ,
ตํ คณฺหถา"ติ. เต "มยํ ภควนฺตํ อุปฏฺฐาตุํ อิจฺฉามา"ติ อาหํสุ. ราชา "เอตํ
ฐเปตฺวา อญฺญํ คณฺหถา"ติ อาห. เต "มยํ อญฺเญน อนตฺถิกา"ติ อาหํสุ. เตน
หิ ปริจฺเฉทํ กตฺวา คณฺหถาติ. เต สตฺตวสฺสานิ ยาจึสุ, ราชา น อทาสิ.
เอวํ "ฉ, ปญฺจ, จตฺตาริ, ตีณิ, เทฺว, เอกํ, สตฺตมาเส, ฉ, ปญฺจ, จตฺตาโร"ติ
วตฺวา ยาว เตมาสํ ยาจึสุ, ตทา ราชา "คณฺหถา"ติ อทาสิ.
     เต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อาหํสุ "อิจฺฉาม มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ เตมาสํ
อุปฏฺฐาตุํ, อธิวาเสตุ โน ภนฺเต ภควา อิมํ เตมาสํ วสฺสาวาสนฺ"ติ. อธิวาเสสิ
@เชิงอรรถ:  ฉ.ม. ติโรกุฏฺฏ..., เอวมุปริปิ  ม. อคารสฺมา อภินิกฺขมิตฺวา
@ สี.,อิ. มยฺหเมว
ภควา ตุณฺหีภาเวน. เต ตโย อตฺตโน ชนปเท นิยุตฺตกปุริสสฺส เลขํ  ๑- เปเสสุํ
"อิมํ เตมาสํ อเมฺหหิ ภควา อุปฏฺฐาตพฺโพ, วิหารํ อาทึ กตฺวา สพฺพํ ภควโต
อุปฏฺฐานสมฺภารํ สมฺปาเทหี"ติ. โส สพฺพํ สมฺปาเทตฺวา ปฏิเปเสสิ. เต
กาสายวตฺถนิวตฺถา หุตฺวา ปุริสสหสฺเสหิ  ๒- เวยฺยาวจฺจกเรหิ ภควนฺตํ ภิกฺขุสํฆญฺจ
สกฺกจฺจํ อุปฏฺฐหมานา ชนปทํ เนตฺวา วิหารํ นิยฺยาเตตฺวา วสฺสํ วสาเปสุํ.
     เตสํ ภณฺฑาคาริโก เอโก คหปติปุตฺโต สปชาปติโก สทฺโธ อโหสิ ปสนฺโน, โส
พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสํฆสฺส ทานวตฺตํ สกฺกจฺจํ  ๓- อทาสิ. ชนปเท นิยุตฺตกปุริโส
ตํ คเหตฺวา ชานปเทหิ เอกาทสมตฺเตหิ ปุริสสหสฺเสหิ สทฺธึ สกฺกจฺจเมว ทานํ
ปวตฺตาเปสิ. ๔-  ตตฺถ เกจิ ชานปทา ปฏิหตจิตฺตา อเหสุํ, เต ทานสฺส อนฺตรายํ
กตฺวา เทยฺยธมฺมํ อตฺตนา ขาทึสุ, ภตฺตสาลญฺจ อคฺคินา ทหึสุ. ปวาริตา ราชปุตฺตา ๕-
ภควโต สกฺการํ กตฺวา ภควนฺตํ ปุรกฺขตฺวา ปิตุ สนฺติกเมว ปจฺจาคมึสุ. ตตฺถ
คนฺตฺวา ภควา ปรินิพฺพายิ. ราชปุตฺตา จ ชนปเท นิยุตฺตกปุริโส จ ภณฺฑาคาริโก
จ อนุปุพฺเพน กาลํ กตฺวา สทฺธึ ปริสาย สคฺเค อุปฺปชฺชึสุ. ปฏิหตจิตฺตา ชนา
นิรเย อุปฺปชฺชึสุ. เอวํ เตสํ อุภเยสํ ชนานํ สคฺคโต สคฺคํ นิรยโต นิรยํ
อุปปชฺชนฺตานํ ทฺวานวุติกปฺปา วีติวตฺตา.
     อถ อิมสฺมึ ภทฺทกปฺเป กสฺสปสฺส ภควโต กาเล เต ปฏิหตจิตฺตา ชนา
เปเตสุ อุปฺปนฺนา. ตทา มนุสฺสา อตฺตโน ญาตกานํ เปตานํ อตฺถาย
ทานํ ทตฺวา อุทฺทิสนฺติ "อิทํ โน ญาตีนํ โหตู"ติ, เต สมฺปตฺตึ ลภนฺติ, อถ
อิเมปิ เปตา ตํ ทิสฺวา กสฺสปํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉึสุ "กึ นุ
โข ภนฺเต มยมฺปิ เอวรูปํ สมฺปตฺตึ ลเภยฺยามา"ติ. ภควา อาห "อิทานิ น
ลภถ, อนาคเต ปน โคตโม นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตสฺส ภควโต กาเล
พิมฺพิสาโร นาม ราชา ภวิสฺสติ, โส ตุมฺหากํ อิโต ทฺวานวุติกปฺเป ญาติ  ๖- อโหสิ,
@เชิงอรรถ:  สี. ลิขิตปณฺณํ, อิ. ลิขาปณฺณํ   ม. อฑฺฒเตยฺเยหิ ปุริสสหสฺเสหิ,
@ขุทฺทก.อ. ๑๗๘     สี.,อิ. สกฺกจฺจํ ทานวตฺถุํ   สี.,อิ. ทานวตฺถุ เปเสสิ
@ สี.,อิ. สปริวารา เต หิ ราชปุตฺตา   สี.,อิ. ญาตโก
โส พุทฺธสฺส ทานํ ทตฺวา ตุมฺหากํ อุทฺทิสิสฺสติ, ตทา ลภิสฺสถา"ติ. เอวํ วุตฺเต
กิร เตสํ เปตานํ ตํ วจนํ "เสฺว ลภิสฺสถา"ติ วุตฺตํ วิย อโหสิ.
     ตโต เอกสฺมึ พุทฺธนฺตเร วีติวตฺเต  ๑- อมฺหากํ ภควา อุปฺปชฺชิ. เตปิ ตโย
ราชปุตฺตา ปุริสสหสฺเสน สทฺธึ เทวโลกโต จวิตฺวา มคธรฏฺเฐ พฺราหฺมณกุเล
อุปฺปชฺชิตฺวา อนุปุพฺเพน ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา คยาสีเส ตโย ชฏิลา อเหสุํ,
ชนปเท นิยุตฺตกปุริโส ราชา พิมฺพิสาโร อโหสิ, ภณฺฑาคาริโก คหปติปุตฺโต วิสาโข
นาม เสฏฺฐี อโหสิ, ตสฺส ปชาปติ ธมฺมทินฺนา นาม เสฏฺฐิธีตา อโหสิ, อวเสสา
ปน ปริสา รญฺโญ เอว ปริวารา หุตฺวา นิพฺพตฺตึสุ.
     อมฺหากมฺปิ ภควา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา สตฺตสตฺตาหํ อติกฺกมิตฺวา  ๒- อนุปุพฺเพน
พาราณสึ อาคมฺม ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา ปญฺจวคฺคิเย อาทึ กตฺวา ยาว
สหสฺสปริวาเร  ๓- ตโย ชฏิเล วิเนตฺวา ราชคหํ อคมาสิ, ตตฺถ จ ตทหุปสงฺกมนฺตํเยว
ราชานํ พิมฺพิสารํ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐาเปสิ สทฺธึ เอกาทสนหุเตหิ องฺคมคธวาสีหิ
พฺราหฺมณคหปติเกหิ. อถ รญฺญา สฺวาตนาย ภตฺเตน นิมนฺติโต อธิวาเสตฺวา
ทุติยทิวเส มาณวกวณฺเณน สกฺเกน เทวานมินฺเทน ปุรโต คจฺฉนฺเตน:-
                  "ทนฺโต ทนฺเตหิ สห ปุราณชฏิเลหิ
                   วิปฺปมุตฺโต วิปฺปมุตฺเตหิ
                   สิงฺคีนิกฺขสวณฺโณ
                   ราชคหํ ปาวิสิ ภควา"ติ  ๔-
เอวมาทีหิ คาถาหิ อภิตฺถวิยมาโน ราชคหํ ปวิสิตฺวา รญฺโญ นิเวสเน มหาทานํ
สมฺปฏิจฺฉิ. เต ปน เปตา "อิทานิ ราชา ทานํ อมฺหากํ อุทฺทิสิสฺสติ, อิทานิ
อุทฺทิสิสฺสตี"ติ อาสาย สมฺปริวาเรตฺวา  ๕- อฏฺฐํสุ
@เชิงอรรถ:  สี.,อิ. วีติวตฺเต โลเก   สี.,อิ. วีตินาเมตฺวา   ม. อฑฺฒเตยฺยสหสฺสปริวาเร
@ วิ.มหา. ๔/๕๘/๔๙      สี. ทานํ ทตฺวา อุทฺทิสิสฺสตีติ เคหํ สมฺปริวาเรตฺวา
     ราชา ทานํ ทตฺวา "กตฺถ นุ โข ภควา วิหเรยฺยา"ติ ภควโต วิหารฏฺฐานเมว
จินฺเตสิ, น ตํ ทานํ กสฺสจิ อุทฺทิสิ. ตถา ตํ ทานํ อลภนฺตา  ๑- เปตา
ฉินฺนาสา หุตฺวา รตฺติยํ รญฺโญ นิเวสเน อติวิย ภึสนกํ วิสฺสรมกํสุ.  ราชา
ภยสนฺตาสสํเวคํ อาปชฺชิตฺวา วิภาตาย รตฺติยา ภควโต อาโรเจสิ "เอวรูปํ สทฺทํ
อสฺโสสึ, กึ นุ โข เม ภนฺเต ภวิสฺสตี"ติ. ภควา "มา ภายิ มหาราช, น
เต กิญฺจิ ปาปกํ ภวิสฺสติ, อปิจ โข สนฺติ เต ปุราณญาตกา เปเตสุ อุปฺปนฺนา,
เต เอกํ พุทฺธนฺตรํ ตเมว ปจฺจาสึสนฺตา `พุทฺธสฺส ทานํ ทตฺวา อมฺหากํ
อุทฺทิสิสฺสตี'ติ วิจรนฺตา ตยา หิยฺโย ทานํ ทตฺวา น อุทฺทิสิตตฺตา ฉินฺนาสา
หุตฺวา ตถารูปํ วิสฺสรมกํสู"ติ  ๒- อาห. กึ อิทานิปิ ภนฺเต ทินฺเน เต
ลเภยฺยุนฺติ. อาม มหาราชาติ. เตน หิ ภนฺเต อธิวาเสตุ เม ภควา อชฺชตนาย ทานํ,
เตสํ อุทฺทิสิสฺสามีติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.
     ราชา นิเวสนํ คนฺตฺวา มหาทานํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ,
ภควา ราชนฺเตปุรํ คนฺตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสํเฆน. เต
เปตา "อปิ นาม อชฺช ลเภยฺยามา"ติ คนฺตฺวา ติโรกุฑฺฑาทีสุ อฏฺฐํสุ. ภควา
ตถา อกาสิ, ยถา เต สพฺเพว รญฺโญ อาปาถํ คตา อเหสุํ. ราชา ทกฺขิโณทกํ
เทนฺโต "อิทํ เม ญาตีนํ โหตู"ติ อุทฺทิสิ, ตาวเทว เปตานํ กมลกุวลยสญฺฉนฺนา
โปกฺขรณิโย นิพฺพตฺตึสุ. เต ตตฺถ นฺหาตฺวา จ ปิวิตฺวา จ
ปฏิปฺปสฺสทฺธทรถกิลมถปิปาสา สุวณฺณวณฺณา อเหสุํ. ราชา ยาคุขชฺชโภชฺชานิ ทตฺวา
อุทฺทิสิ, เตสํ ตํขณญฺเญว ทิพฺพยาคุขชฺชโภชฺชานิ นิพฺพตฺตึสุ, เต ตานิ
ปริภุญฺชิตฺวา ปีณินฺทฺริยา อเหสุํ. อถ วตฺถเสนาสนานิ ทตฺวา อุทฺทิสิ, เตสํ
ทิพฺพวตฺถปาสาทปจฺจตฺถรณเสยฺยาทิอลงฺการวิธโย นิพฺพตฺตึสุ. สา จ เตสํ สมฺปตฺติ
สพฺพาปิ ยถา รญฺโญ ปากฏา โหติ, ตถา ภควา อธิฏฺฐาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา
อติวิย อตฺตมโน อโหสิ.
@เชิงอรรถ:  ม. ยถา ตํ ตมตฺถํ อชานนฺตา    สี.,อิ. ตถารูปํ ภึสนกํ เภรวมกํสูติ
ตโต ภควา ภุตฺตาวี ปวาริโต รญฺโญ พิมฺพิสารสฺส อนุโมทนตฺถํ ติโรกุฑฺฑเปตวตฺถุํ
อภาสิ:-
         [๑๔] "ติโรกุฑฺเฑสุ ติฏฺฐนฺติ       สนฺธิสิงฺฆาฏเกสุ จ
              ทฺวารพาหาสุ ติฏฺฐนฺติ       อาคนฺตฺวาน สกํ ฆรํ.
         [๑๕] ปหูเต อนฺนปานมฺหิ         ขชฺชโภชฺเช อุปฏฺฐิเต
              น เตสํ โกจิ สรติ         สตฺตานํ กมฺมปจฺจยา.
         [๑๖] เอวํ ททนฺติ ญาตีนํ         เย โหนฺติ อนุกมฺปกา
              สุจึ ปณีตํ กาเลน          กปฺปิยํ ปานโภชนํ.
         [๑๗] อิทํ โว ญาตีนํ โหตุ        สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย
              เต จ ตตฺถ สมาคนฺตฺวา     ญาติเปตา สมาคตา
              ปหูเต อนฺนปานมฺหิ         สกฺกจฺจํ อนุโมทเร.
         [๑๘] จีรํ ชีวนฺตุ โน ญาตี        เยสํ เหตุ ลภามเส
              อมฺหากญฺจ กตา ปูชา       ทายกา จ อนิปฺผลา.
         [๑๙] น หิ ตตฺถ กสิ อตฺถิ        โครกฺเขตฺถ น วิชฺชติ
              วณิชฺชา ตาทิสี นตฺถิ        หิรญฺเญน กยากยํ
              อิโต ทินฺเนน ยาเปนฺติ      เปตา กาลคตา  ๑- ตหึ.
         [๒๐] อุนฺนเม อุทกํ วุฏฺฐํ  ๒-     ยถา นินฺนํ ปวตฺตติ
              เอวเมว อิโต ทินฺนํ        เปตานํ อุปกปฺปติ.
         [๒๑] ยถา วาริวหา ปูรา        ปริปูเรนฺติ สาครํ
              เอวเมว อิโต ทินฺนํ        เปตานํ อุปกปฺปติ.
@เชิงอรรถ:  สี. กาลกตา, ม. กาลงฺกตา     สี. วฏฺฐํ
         [๒๒] อทาสิ เม อกาสิ เม       ญาติมิตฺตา สขา จ เม
              เปตานํ ทกฺขิณํ ทชฺชา       ปุพฺเพ กตมนุสฺสรํ.
         [๒๓] น หิ รุณฺณํ วา โสโก วา    ยา จญฺญา ปริเทวนา
              น ตํ เปตานมตฺถาย        เอวํ ติฏฺฐนฺติ ญาตโย.
         [๒๔] อยญฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา    สํฆมฺหิ สุปติฏฺฐิตา
              ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส          ฐานโส อุปกปฺปติ.
               [๒๕] โส ญาติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต
                    เปตาน ปูชา จ กตา อุฬารา
                    พลญฺจ ภิกฺขูนมนุปฺปทินฺนํ
                    ตุเมฺหหิ ปุญฺญํ ปสุตํ อนปฺปกนฺ"ติ.
     #[๑๔] ตตฺถ ติโรกุฑฺเฑสูติ กุฑฺฑานํ ปรภาเคสุ. ติฏฺฐนฺตีติ
นิสชฺชาทิปฏิกฺเขปโต ฐานกปฺปนวจนเมตํ, เคหปาการกุฑฺฑานํ ทฺวารโต  ๑- พหิ เอว
ติฏฺฐนฺตีติ อตฺโถ. สนฺธิสิงฺฆาฏเกสุ จาติ สนฺธีสุ จ สิงฺฆาฏเกสุ จ. สนฺธีติ
จตุกฺโกณรจฺฉา, ฆรสนฺธิภิตฺติสนฺธิอาโลกสนฺธิโยปิ วุจฺจนฺติ. สิงฺฆาฏกาติ
ติโรณรจฺฉา. ทฺวารพาหาสุ ติฏฺฐนฺตีติ นครทฺวารฆรทฺวารานํ พาหา นิสฺสาย ติฏฺฐนฺติ.
อาคนฺตฺวาน สกํ ฆรนฺติ สกฆรํ นาม ปุพฺพญาติฆรมฺปิ อตฺตนา สามิภาเวน
อชฺฌาวุตฺถฆรมฺปิ, ตทุภยมฺปิ เต ยสฺมา สกฆรสญฺญาย อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา "อาคนฺตฺวาน
สกํ ฆรนฺ"ติ อาห.
     #[๑๕] เอวํ ภควา ปุพฺเพ อนชฺฌาวุตฺถปุพฺพมฺปิ ปุพฺพญาติฆรตฺตา
พิมฺพิสารนิเวสนํ สกฆรสญฺญาย อาคนฺตฺวา ติโรกุฑฺฑาทีสุ ฐิเต อิสฺสามจฺฉริยผลํ
อนุภวนฺเต อติวิย ทุทฺทสิกวิรูปภยานกทสฺสเน พหู เปเต รญฺโญ ทสฺเสนฺโต
"ติโรกุฑฺเฑสุ ติฏฺฐนฺตี"ติ คาถํ วตฺวา ปุน เตหิ กตสฺส กมฺมสฺส ทารุณภาวํ
ทสฺเสนฺโต "ปหูเต อนฺนปานมฺหี"ติ ทุติยคาถมาห.
@เชิงอรรถ:  ม. ปรโต
     ตตฺถ ปหูเตติ อนปฺปเก พหุมฺหิ, ยาวทตฺเถติ อตฺโถ. พการสฺส หิ ปกาโร
ลพฺภติ "ปหุ สนฺโต น ภรตี"ติอาทีสุ ๑- วิย. เกจิ ปน "พหุเก"ติ ปฐนฺติ, โส
ปน ปมาทปาโฐ. ๒- อนฺนปานมฺหีติ อนฺเน จ ปาเน จ. ขชฺชโภชฺเชติ ขชฺเช จ
โภชฺเช จ. เอเตน อสิตปีตขายิตสายิตวเสน จตุพฺพิธมฺปิ อาหารํ ทสฺเสติ. อุปฏฺฐิเตติ
อุปคมฺม ฐิเต สชฺชิเต, ปฏิยตฺเตติ อตฺโถ. น เตสํ โกจิ สรติ สตฺตานนฺติ เตสํ
เปตฺติวิสเย อุปฺปนฺนานํ สตฺตานํ โกจิ มาตา วา ปิตา วา ปุตฺโต วา นตฺตา
วา น สรติ. กึการณา? กมฺมปจฺจยาติ, อตฺตนา กตสฺส อทานทานปฏิเสธนาทิเภทสฺส
กทริยกมฺมสฺส การณภาวโต. ตํ หิ กมฺมํ เตสํ ญาตีนํ สริตุํ น เทติ.
     #[๑๖] เอวํ ภควา อนปฺปเกปิ อนฺนปานาทิมฺหิ วิชฺชมาเน ญาตีนํ
ปจฺจาสีสนฺตานํ เปตานํ กมฺมผเลน  ๓- ญาตกานํ อนุสฺสรณมตฺตสฺสาปิ อภาวํ ทสฺเสตฺวา
อิทานิ เปตฺติวิสยูปปนฺเน ญาตเก อุทฺทิสฺส รญฺญา ทินฺนทานํ ปสํสนฺโต "เอวํ
ททนฺติ ญาตีนนฺ"ติ ตติยคาถมาห.
      ตตฺถ เอวนฺติ อุปมาวจนํ, ตสฺส ทฺวิธา สมฺพนฺโธ:- เตสํ สตฺตานํ กมฺมปจฺจยา
อสรนฺเตสุปิ เกสุจิ ๔- เกจิ ททนฺติ ญาตีนํ, เย เอวํ ๕- อนุกมฺปกา โหนฺตีติ
จ, มหาราช ยถา ตยา ทินฺนํ, เอวํ สุจึ ปณีตํ กาเลน กปฺปิยํ ปานโภชนํ
ททนฺติ ญาตีนํ, เย โหนฺติ อนุกมฺปกาติ จ. ตตฺถ ททนฺตีติ เทนฺติ อุทฺทิสนฺติ
นิยฺยาเตนฺติ. ญาตีนนฺติ มาติโต จ ปิติโต จ สมฺพนฺธานํ. เยติ เย เกจิ ปุตฺตาทโย.
โหนฺตีติ ภวนฺติ. อนุกมฺปกาติ อตฺถกามา หิเตสิโน. สุจินฺติ สุทฺธํ มโนหรํ
ธมฺมิกญฺจ. ๖- ปณีตนฺติ อุฬารํ. กาเลนาติ ทกฺขิเณยฺยานํ ปริโภคโยคฺคกาเลน,
ญาติเปตานํ วา ติโรกุฑฺฑาทีสุ อาคนฺตฺวา ฐิตกาเลน. กปฺปิยนฺติ อนุจฺฉวิกํ ปติรูปํ
อริยานํ ปริโภคารหํ. ปานโภชนนฺติ ปานญฺจ โภชนญฺจ, ตทุปเทเสน เจตฺถ สพฺพํ
เทยฺยธมฺมํ วทติ.
@เชิงอรรถ:  ขุ.สุ. ๒๕/๙๘/๓๕๕   ม. เต ปมาทปาฐา     สี.,อิ. ปาปกมฺมวเสน
@ สี.,อิ. เตสุ       ม. ญาตีนํเยว, เอวํ   สี.,อิ. มนาปิกํ
     #[๑๗] อิทานิ เยน ปกาเรน เตสํ เปตานํ ทินฺนํ นาม โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต
"อิทํ โว ญาตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย"ติ จตุตฺถคาถาย ปุพฺพฑฺฒํ
อาห. ตํ ตติยคาถาย ปุพฺพฑฺเฒน สมฺพนฺธิตพฺพํ:-
         "เอวํ ททนฺติ ญาตีนํ      เย โหนฺติ อนุกมฺปกา
          อิทํ โว ญาตีนํ โหตุ     สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย"ติ.
     เตน "อิทํ โว ญาตีนํ โหตูติ เอวํ ปกาเรน ททนฺติ, โน อญฺญถา"ติ
อาการตฺเถน เอวํสทฺเทน ทาตพฺพาการนิทสฺสนํ กตํ โหติ.
     ตตฺถ อิทนฺติ เทยฺยธมฺมนิทสฺสนํ. โวติ นิปาตมตฺตํ "เยหิ โว อริยา"ติอาทีสุ ๑-
วิย. ญาตีนํ โหตูติ เปตฺติวิสเย อุปฺปนฺนานํ ญาตกานํ โหตุ. "โน ญาตีนนฺ"ติ
จ ปฐนฺติ, อมฺหากํ ญาตีนนฺติ อตฺโถ. สุขิตา โหนฺตุ ญาตโยติ เต เปตฺติวิสยูปปนฺนา
ญาตโย อิทํ ผลํ ปจฺจนุภวนฺตา สุขิตา สุขปฺปตฺตา โหนฺตุ.
     ยสฺมา "อิทํ โว ญาตีนํ โหตู"ติ วุตฺเตปิ อญฺเญน กตกมฺมํ น อญฺญสฺส
ผลทํ โหติ, เกวลํ ปน ตถา อุทฺทิสฺส ทียมานํ ตํ วตฺถุ ญาติเปตานํ กุสลกมฺมสฺส
ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา ยถา เตสํ ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ ตสฺมึเยว ขเณ ผลนิพฺพตฺตกํ
กุสลกมฺมํ โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต "เต จ ตตฺถา"ติอาทิมาห.
     ตตฺถ เตติ ญาติเปตา. ตตฺถาติ ยตฺถ ทานํ ทียติ, ตตฺถ. สมาคนฺตฺวาติ
"อิเม โน ญาตโย อมฺหากํ อตฺถาย ทานํ อุทฺทิสนฺตี"ติ อนุโมทนตฺถํ ตตฺถ สมาคตา
หุตฺวา. ปหูเต อนฺนปานมฺหีติ อตฺตโน อุทฺทิสฺส ทียมาเน ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ. สกฺกจฺจํ
อนุโมทเรติ กมฺมผลํ อภิสทฺทหนฺตา จิตฺตีการํ อวิชหนฺตา อวิกฺขิตฺตจิตฺตา หุตฺวา
"อิทํ โน ทานํ หิตาย สุขาย โหตู"ติ โมทนฺติ อนุโมทนฺติ ปีติโสมนสฺสชาตา
โหนฺติ.
@เชิงอรรถ:  ม.มู. ๑๒/๓๕/๒๓
     #[๑๘] จิรํ ชีวนฺตูติ จิรํ ชีวิโน ทีฆายุกา โหนฺตุ. โน ญาตีติ อมฺหากํ
ญาตกา. เยสํ เหตูติ เยสํ การณา เย นิสฺสาย. ลภามเสติ อีทิสํ สมฺปตฺตึ
ปฏิลภาม. อิทญฺหิ อุทฺทิสเนน ลทฺธสมฺปตฺตึ อนุภวนฺตานํ เปตานํ อตฺตโน ญาตีนํ
โถมนาการทสฺสนํ. เปตานญฺหิ อตฺตโน อนุโมทเนน, ทายกานํ อุทฺทิสเนน,
ทกฺขิเณยฺยสมฺปตฺติยา จาติ ตีหิ องฺเคหิ ทกฺขิณา ตํขณญฺเญว ผลนิพฺพตฺติกา โหติ.
ตตฺถ ทายกา วิเสสเหตุ. เตนาห "เยสํ เหตุ ลภามเส"ติ. อมฺหากญฺจ กตา
ปูชาติ "อิทํ โว ญาตีนํ โหตู"ติ เอวํ อุทฺทิสนฺเตหิ ทายเกหิ อมฺหากญฺจ ปูชา
กตา, เต ทายกา จ อนิปฺผลา ยสฺมึ สนฺตาเน ปริจฺจาคมยํ กมฺมํ นิพฺพตฺตํ
ตสฺส ตตฺเถว ผลทานโต.
     เอตฺถาห:- "กึ ปน เปตฺติวิสยูปปนฺนา เอว ญาตี เหตุสมฺปตฺติโย ลภนฺติ,
อุทาหุ อญฺเญปี"ติ? น เจตฺถ อเมฺหหิ วตฺตพฺพํ อตฺถิ ภควตา เอว พฺยากตตฺตา.
วุตฺตํ เหตํ:-
     "มยมสฺสุ โภ โคตม พฺราหฺมณา นาม ทานานิ เทม, ปุญฺญานิ
กโรม `อิทํ ทานํ เปตานํ ญาติสาโลหิตานํ อุปกปฺปตุ, อิทํ ทานํ เปตา
ญาติสาโลหิตา ปริภุญฺชนฺตู'ติ. กจฺจิ ตํ โภ โคตม ทานํ เปตานํ
ญาติสาโลหิตานํ อุปกปฺปติ, กจฺจิ เต เปตา ญาติสาโลหิตา ตํ ทานํ
ปริภุญฺชนฺตีติ. ฐาเน โข พฺราหฺมณ อุปกปฺปติ โน อฏฺฐาเนติ.
     กตมํ ปน โภ โคตม ฐานํ, กตมํ อฏฺฐานนฺติ. อิธ พฺราหฺมณ
เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ฯเปฯ มิจฺฉาทิฏฺฐิโก โหติ, โส กายสฺส
เภทา ปรํ มรณา นิรยํ อุปปชฺชติ, โย เนรยิกานํ สตฺตานํ อาหาโร,
เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺฐติ. อิทํ โข พฺราหฺมณ
อฏฺฐานํ, ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติ.
     อิธ ปน พฺราหฺมณ เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ฯเปฯ มิจฺฉาทิฏฺฐิโก
โหติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ติรจฺฉานโยนึ อุปปชฺชติ, โย
ติรจฺฉานโยนิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน
โส ตตฺถ ติฏฺฐติ. อิทมฺปิ โข พฺราหฺมณ อฏฺฐานํ, ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ
ทานํ น อุปกปฺปติ.
     อิธ ปน พฺราหฺมณ เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ ฯเปฯ
สมฺมาทิฏฺฐิโก โหติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสานํ สหพฺยตํ
อุปปชฺชติ ฯเปฯ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โย เทวานํ อาหาโร,
เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺฐติ. อิทมฺปิ โข พฺราหฺมณ
อฏฺฐานํ, ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติ.
     อิธ ปน พฺราหฺมณ เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ฯเปฯ มิจฺฉาทิฏฺฐิโก
โหติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เปตฺติวิสยํ อุปปชฺชติ, โย
เปตฺติวิสยิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ
ติฏฺฐติ. ยํ วา ปนสฺส อิโต อนุปเวจฺเฉนฺติ มิตฺตามจฺจา วา ญาติสาโลหิตา
วา, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺฐติ. อิทํ โข พฺราหฺมณ
ฐานํ, ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ ทานํ อุปกปฺปตีติ.
     สเจ ปน โภ โคตม โส เปโต ญาติสาโลหิโต ตํ ฐานํ อนุปปนฺโน
โหติ, โก ตํ ทานํ ปริภุญฺชตีติ. อญฺเญปิสฺส พฺราหฺมณ เปตา ญาติสาโลหิตา
ตํ ฐานํ อุปปนฺนา โหนฺติ, เต ตํ ทานํ ปริภุญฺชนฺตีติ.
     สเจ ปน โภ โคตโม โส เอว เปโต ญาติสาโลหิโต ตํ ฐานํ
อนุปปนฺโน โหติ, อญฺเญปิสฺส เปตา ญาติสาโลหิตา ตํ ฐานํ อนุปปนฺนา
โหนฺติ, โก ตํ ทานํ ปริภุญฺชตีติ. อฏฺฐานํ โข เอตํ พฺราหฺมณ อนวกาโส,
     ยํ ตํ ฐานํ วิวิตฺตํ  ๑- อสฺส อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา ยทิทํ เปเตหิ
     ญาติสาโลหิเตหิ, อปิจ  ๒- พฺราหฺมณ ทายโกปิ  ๓- อนิปฺผโล"ติ. ๔-
    #[๑๙] อิทานิ เปตฺติวิสยูปปนฺนานํ ตตฺถ อญฺญสฺส กสิโครกฺขาทิโน
สมฺปตฺติปฏิลาภการณสฺส อภาวํ อิโต ทินฺเนน ยาปนญฺจ ทสฺเสตุํ "น หี"ติอาทิ วุตฺตํ.
     ตตฺถ น หิ ตตฺถ กสิ อตฺถีติ ตสฺมึ เปตฺติวิสเย กสิ น หิ อตฺถิ,
ยํ นิสฺสาย เปตา สุเขน ชีเวยฺยุํ. โครกฺเขตฺถ น วิชฺชตีติ เอตฺถ เปตฺติวิสเย
น เกวลํ กสิเยว นตฺถิ, อถ โข โครกฺขาปิ น วิชฺชติ, ยํ นิสฺสาย เต สุเขน
ชีเวยฺยุํ, วณิชฺชา ตาทิสี นตฺถีติ วณิชฺชาปิ ตาทิสี นตฺถิ, ยา เตสํ สมฺปตฺติ-
ปฏิลาภเหตุ ภเวยฺย. หิรญฺเญน กยากยนฺติ หิรญฺเญน กยวิกฺกยมฺปิ ตตฺถ ตาทิสํ
นตฺถิ, ยํ เตสํ สมฺปตฺติปฏิลาภเหตุ ภเวยฺย. อิโต ทินฺเนน ยาเปนฺติ, เปตา กาลคตา
ตหินฺติ เกวลํ ปน อิโต ญาตีหิ วา มิตฺตามจฺเจหิ วา ทินฺเนน ยาเปนฺติ, อตฺตภาวํ
ปวตฺเตนฺติ. เปตาติ  ๕- เปตฺติวิสยูปปนฺนา สตฺตา. กาลคตาติ อตฺตโน มรณกาเลน
คตา. ๖-  "กาลกตา"ติ วา ปาโฐ, กตกาลา กตมรณา มรณํ สมฺปตฺตา. ตหินฺติ
ตสฺมึ เปตฺติวิสเย.
    #[๒๐-๒๑] อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ อุปมาหิ ปกาเสตุํ "อุนฺนเม อุทกํ วุฏฺฐนฺ"ติ
คาถาทฺวยมาห.  ตสฺสตฺโถ:- ยถา อุนฺนเม ถเล อุนฺนตปฺปเทเส เมเฆหิ อภิวุฏฺฐํ
อุทกํ ยถา นินฺนํ ปวตฺตติ, โย ภูมิภาโค นินฺโน โอณโต, ตํ อุปคจฺฉติ, เอวเมว
อิโต ทินฺนํ ทานํ เปตานํ อุปกปฺปติ, ผลุปฺปตฺติยา วินิยุชฺชติ. นินฺนมิว หิ
อุทกปฺปวตฺติยา ฐานํ เปตโลโก ทานูปกปฺปนาย. ยถาห "อิทํ โข พฺราหฺมณ ฐานํ,
ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ ทานํ อุปกปฺปตี"ติ. ๗-  ยถา จ กนฺทรปทรสาขปสาขกุโสพฺภมหาโสพฺเภหิ
โอคลิเตน  ๘- อุทเกน วาริวหา มหานชฺโช ปูรา หุตฺวา สาครํ ปริปูเรนฺติ,
เอวํ อิโต ทินฺนทานํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน เปตานํ อุปกปฺปตีติ.
@เชิงอรรถ:  สี.,อิ. ริตฺตํ  สี.,อิ. อปิจ โข  ฉ.ม. พฺราหฺมณทายโกปิ
@ องฺ.ทสก. ๒๔/๑๗๗/๒๒๓   ม. เปตา   ม. กาลงฺกตาติ อตฺตโน
@มรณกาเลน กตา  องฺ. ทสก. ๒๔/๑๗๗/๒๒๒   ม. โอวุฏฺฐิเตน
    #[๒๒] ยสฺมา เปตา "อิโต กิญฺจิ ลภามา"ติ อาสาภิภูตา ญาติฆรํ
อาคนฺตฺวาปิ "อิทํ นาม โน เทถา"ติ ยาจิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมา เตสํ อิมานิ
อนุสฺสรณวตฺถูนิ อนุสฺสรนฺโต กุลปุตฺโต ทกฺขิณํ ทชฺชาติ ทสฺเสนฺโต "อทาสิ เม"ติ
คาถมาห.
     ตสฺสตฺโถ:- อิทํ นาม เม ธนํ วา ธญฺญํ วา อทาสิ, อิทํ นาม เม
กิจฺจํ อตฺตนาเยว โยคํ อาปชฺชนฺโต อกาสิ, "อสุโก เม มาติโต วา ปิติโต
วา สมฺพนฺธตฺตา ญาติ, สิเนหวเสน ตาณสมตฺถตาย มิตฺโต, อสุโก เม
สหปํสุกีฬกสหาโย สขา"ติ จ เอตํ สพฺพมนุสฺสรนฺโต เปตานํ ทกฺขิณํ ทชฺชา ทานํ
นิยฺยาเตยฺย. "ทกฺขิณา ทชฺชา"ติ วา ปาโฐ, เปตานํ ทกฺขิณา ทาตพฺพา, เตน
"อทาสิ เม"ติอาทินา นเยน ปุพฺเพ กตมนุสฺสรํ อนุสฺสรตาติ วุตฺตํ โหติ. กรณตฺเถ
หิ อิทํ ปจฺจตฺตวจนํ.
    #[๒๓-๒๔] เย ปน สตฺตา ญาติมรเณน รุณฺณโสกาทิปรา เอว หุตฺวา
ติฏฺฐนฺติ, น เตสํ อตฺถาย กิญฺจิ เทนฺติ, เตสํ ตํ รุณฺณโสกาทิ เกวลํ
อตฺตปริตาปนมตฺตเมว โหติ, ตํ น เปตานํ กญฺจิ อตฺถํ สาเธตีติ ทสฺเสนฺโต "น หิ
รุณฺณํ วา"ติ คาถํ วตฺวา ปุน มคธราเชน ทินฺนทกฺขิณาย สาตฺถกภาวํ ทสฺเสตุํ "อยญฺจ
โข"ติ คาถมาห. เตสํ อตฺโถ เหฏฺฐา วุตฺโตเยว.
    #[๒๕] อิทานิ ยสฺมา อิมํ ทกฺขิณํ เทนฺเตน รญฺญา ญาตีนํ ญาตีหิ
กตฺตพฺพกิจฺจกรเณน ญาติธมฺโม นิทสฺสิโต, พหุชนสฺส ปากโฏ กโต, ๑-  นิทสฺสนํ ปากฏํ
กตํ "ตุเมฺหหิปิ เอวเมว ญาตีสุ ญาติธมฺโม ปริปูเรตพฺโพ"ติ. เต จ เปเต
ทิพฺพสมฺปตฺตึ อธิคเมนฺเตน เปตานํ ปูชา กตา อุฬารา, พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสํฆํ
อนฺนปานาทีหิ สนฺตปฺเปนฺเตน ภิกฺขูนํ พลํ อนุปฺปทินฺนํ, อนุกมฺปาทิคุณปริวารญฺจ
จาคเจตนํ นิพฺพตฺเตนฺเตน อนปฺปกํ ปุญฺญํ ปสุตํ, ตสฺมา ภควา อิเมหิ ยถาภุจฺจคุเณหิ
ราชานํ สมฺปหํเสนฺโต "โส ญาติธมฺโม"ติ โอสานคาถมาห.
@เชิงอรรถ:  สี. ปากเฏ กเต
     ตตฺถ ญาติธมฺโมติ ญาตีหิ ญาตีนํ กตฺตพฺพกรณํ. อุฬาราติ ผีตา สมิทฺธา.
พลนฺติ กายพลํ. ปสุตนฺติ อุปจิตํ. เอตฺถ จ "โส ญาติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต"ติ
เอเตน ภควา ราชานํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ. ญาติธมฺมทสฺสนํ เหตฺถ สนฺทสฺสนํ. ๑-
"เปตาน ปูชา จ กตา อุฬารา"ติ อิมินา สมาทเปสิ. "อุฬารา"ติ ปสํสนํ เหตฺถ  ๒-
ปุนปฺปุนํ ปูชากรเณ สมาทปนํ. "พลญฺจ ภิกฺขูนมนุปฺปทินฺนนฺ"ติ อิมินา
สมุตฺเตเชสิ. ภิกฺขูนํ พลานุปฺปทานํ เหตฺถ เอวํ วิธานํ พลานุปฺปทาเน
อุสฺสาหวฑฺฒเนน ๓- สมุตฺเตชนํ. "ตุเมฺหหิ ปุญฺญํ ปสุตํ อนปฺปกนฺ"ติ อิมินา
สมฺปหํเสสิ. ปุญฺญปสวนกิตฺตนํ เหตฺถ ตสฺส ยถาภุจฺจคุณสํวณฺณนภาเวน สมฺปหํสนนฺติ
๔- เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
     เทสนาปริโยสาเน จ เปตฺติวิสยูปปตฺติอาทีนวสํวณฺณเนน สํวิคฺคหทยานํ โยนิโส
ปทหตํ จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. ทุติยทิวเสปิ เทวมนุสฺสานํ
อิทเมว ติโรกุฑฺฑเทสนํ เทเสสิ. เอวํ ยาว สตฺต ทิวสา ตาทิโสว ธมฺมาภิสมโย
อโหสีติ.
                    ติโรกุฑฺฑเปตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺฐิตา.
                        -----------------


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๓๑ หน้า ๒๑-๓๓. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=31&A=437&modeTY=2              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=31&A=437&modeTY=2              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=90              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=3021              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=26&A=3206              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=26&A=3206              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_26

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]