ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม  
อรรถกถาเล่มที่ ๔๗ ภาษาบาลีอักษรไทย ปฏิสํ.อ.๑ (สทฺธมฺม.๑)

                     ๕๔. ทิพฺพจกฺขุญาณนิทฺเทสวณฺณนา
     [๑๐๖] ทิพฺพจกฺขุญาณนิทฺเทเส อาโลกสญฺญํ มนสิ กโรตีติ ทิวา วา รตฺตึ
วา สูริยโชติจนฺทมณิอาโลกํ อาโลโกติ มนสิ กโรติ. เอวํ มนสิกโรนฺโตว อาโลโกติ
สญฺญํ มนสิ ปวตฺตนโต "อาโลกสญฺญํ มนสิ กโรตี"ติ วุจฺจติ. ทิวาสญฺญํ
อธิฏฺฐาตีติ เอวํ อาโลกสญฺญํ มนสิกตฺวา ทิวาติ สญฺญํ ฐเปติ. ยถา ทิวา
ตถา รตฺตินฺติ ยถา ทิวา อาโลโก ทิฏฺโฐ, ตเถว รตฺติมฺปิ มนสิ กโรติ. ยถา
รตฺตึ ตถา ทิวาติ ยถารตฺตึ อาโลโก ทิฏฺโฐ, ตเถว ทิวาปิ มนสิ กโรติ.
อิติ วิวฏฺเฏน เจตสาติ เอวํ อปิหิเตน จิตฺเตน. อปริโยนทฺเธนาติ สมนฺตโต
อนทฺเธน. สปฺปภาสญฺจิตฺตํ ภาเวตีติ สโอภาสํ จิตฺตํ วฑฺเฒติ. เอเตน ทิพฺพจกฺขุสฺส
ปริกมฺมาโลการมฺมณํ จิตฺตํ กถิตํ. อาโลกกสิณารมฺมณํ จตุตฺถชฺฌานเมว วา สนฺธาย
วุตฺตํ. ตสฺเสวํ ภาวยโต โอภาสชาตํ จิตฺตํ โหติ วิคตนฺธการาวรณํ. เตน หิ
ทิพฺพจกฺขุํ อุปฺปาเทตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน อิมิสฺสาเยว ปาฬิยา อนุสาเรน
กสิณารมฺมณํ อภิญฺญาปาทกชฺฌานํ สพฺพากาเรน อภินีหารกฺขมํ กตฺวา
"เตโชกสิณํ โอทาตกสิณํ อาโลกกสิณนฺ"ติ อิเมสุ ตีสุ กสิเณสุ อญฺญตรํ
อาสนฺนํ กาตพฺพํ, อุปจารชฺฌานโคจรํ กตฺวา วฑฺเฒตฺวา ฐเปตพฺพํ, น ตตฺถ
อปฺปนา อุปฺปาเทตพฺพาติ อธิปฺปาโย. สเจ หิ อุปฺปาเทติ, ปาทกชฺฌานนิสฺสยํ
โหติ, น ปริกมฺมนิสฺสยํ. อิเมสุ ปน ตีสุ อาโลกกสิณํเยว เสฏฺฐตรํ, ตทนุโลเมน
ปน อิตรํ กสิณทฺวยมฺปิ วุตฺตํ. ตสฺมา อาโลกกสิณํ อิตเรสํ วา อญฺญตรํ อารมฺมณํ
กตฺวา จตฺตาริ ฌานานิ อุปฺปาเทตฺวา ปุน อุปจารภูมิยํเยว ฐตฺวา กสิณํ
วฑฺเฒตพฺพํ. วฑฺฒิตวฑฺฒิตฏฺฐานสฺส อนฺโตเยว รูปคตํ ปสฺสิตพฺพํ. รูปคตํ ปสฺสโต
ปนสฺส เตน พฺยาปาเรน ปริกมฺมจิตฺเตน อาโลกผรณํ อกุพฺพโต ปริกมฺมสฺส วาโร
อติกฺกมติ, ตโต อาโลโก อนฺตรธายติ, ตสฺมึ อนฺตรหิเต รูปคตมฺปิ น ทิสฺสติ.
อถาเนน ปุนปฺปุนํ ปาทกชฺฌานเมว ปวิสิตฺวา ตโต วุฏฺฐาย อาโลโก ผริตพฺโพ.
เอวํ อนุกฺกเมน อาโลโก ผริตพฺโพ. เอวํ อนุกฺกเมน อาโลโก ถามคโต โหตีติ.
"เอตฺถ อาโลโก โหตี"ติ ยตฺตกํ ฐานํ ปริจฺฉินฺทติ, ตตฺถ อาโลโก ติฏฺฐติเยว.
ทิวสมฺปิ นิสีทิตฺวา ปสฺสโต รูปทสฺสนํ โหติ. ตตฺถ ยทา ตสฺส ภิกฺขุโน มํสจกฺขุสฺส
อนาปาถคตํ อนฺโตกุจฺฉิคตํ หทยวตฺถุนิสฺสิตํ เหฏฺฐาปฐวีตลนิสฺสิตํ ติโรกุฑฺฑ-
ปพฺพตปาการํ คตปรจกฺกวาฬคตนฺติ อิทํ รูปํ ญาณจกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ,
มํสจกฺขุนา ทิสฺสมานํ วิย โหติ, ตทา ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปนฺนํ โหติ. ตเทว เจตฺถ
รูปทสฺสนสมตฺถํ, น ปุพฺพภาคจิตฺตานิ.
     ตตฺรายํ ทิพฺพจกฺขุโน อุปฺปตฺติกฺกโม:- วุตฺตปฺปการเมตํ รูปมารมฺมณํ
กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชเน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ ตเทว รูปมารมฺมณํ กตฺวา จตฺตาริ
ปญฺจ วา ชวนานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิทํ ปน ญาณํ
"สตฺตานํ จุตูปปาเต ญาณนฺ"ติปิ "ทิพฺพจกฺขุญาณนฺ"ติปิ วุจฺจติ. ตํ ปเนตํ
ปุถุชฺชนสฺส ปริปนฺโถ โหติ. โส หิ "ยตฺถ อาโลโก โหตู"ติ อธิฏฺฐาติ, ตํ
ตํ ปฐวีสมุทฺทปพฺพเต วินิวิชฺฌิตฺวาปิ เอกาโลกํ โหติ. อถสฺส ตตฺถ ภยานกานิ
ยกฺขรกฺขสาทิรูปานิ ปสฺสโต ภยํ อุปฺปชฺชติ. เตน จิตฺตวิกฺเขปํ ปตฺวา
ฌานวิพฺภนฺตโก โหติ. ตสฺมา รูปทสฺสเน อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพํ.
     สตฺตานํ จุตูปปาตญาณายาติ สตฺตานํ จุติยา จ อุปปาเต จ ญาณาย.
เยน ญาเณน สตฺตานํ จุติ จ อุปปาโต จ ญายติ, ตทตฺถํ ทิพฺพจกฺขุญาณตฺถนฺติ
วุตฺตํ โหติ. ทิพฺเพน จกฺขุนาติ วุตฺตตฺถเมว. วิสุทฺเธนาติ จุตูปปาตทสฺสเนน
ทิฏฺฐิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธํ. โย หิ จุติมตฺตเมว ปสฺสติ, น อุปปาตํ, โส
อุจฺเฉททิฏฺฐึ คณฺหาติ. โย อุปปาตเมว ปสฺสติ, น จุตึ, โส นวสตฺตปาตุภาวทิฏฺฐึ
คณฺหาติ. โย ปน ตทุภยํ ปสฺสติ. โส ยสฺมา ทุวิธมฺปิ ตํ ทิฏฺฐิคตมติวตฺตติ.
ตสฺมาสฺส ตํ ทสฺสนํ ทิฏฺฐิวิสุทฺธิเหตุ โหติ. อุภยญฺเจตํ พุทฺธปุตฺตา ปสฺสนฺติ.
เตน วุตฺตํ
"จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺฐิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธนฺ"ติ. มนุสฺสูปจารํ อติกฺก-
มิตฺวา รูปทสฺสเนน อติกฺกนฺตมานุสกํ, มานุสกํ วา มํสจกฺขุํ อติกฺกนฺตตฺตา
อติกฺกนฺตมานุสกํ. เตน ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน.
     สตฺเต ปสฺสตีติ มนุสฺสมํสจกฺขุนา วิย สตฺเต โอโลเกติ. จวมาเน
อุปปชฺชมาเนติ เอตฺถ จุติกฺขเณ อุปปตฺติกฺขเณ วา ทิพฺพจกฺขุนา ทฏฺฐุํ น
สกฺกา, เย ปน อาสนฺนจุติกา อิทานิ จวิสฺสนฺติ, เต จวมานา. เย จ
คหิตปฏิสนฺธิกา สมฺปตินิพฺพตฺตา วา, ๑- เต อุปปชฺชมานาติ อธิปฺเปตา. เต
เอวรูเป จวมาเน อุปปชฺชมาเน จ ปสฺสตีติ ทสฺเสติ. หีเนติ โมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา
หีนานํ ชาติกุลโภคาทีนํ วเสน หีฬิเต โอหีฬิเต โอญฺญาเต อวญฺญาเต.
ปณีเตติ อโมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา ตพฺพิปรีเต. สุวณฺเณติ อโทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา
อิฏฺฐกนฺตมนาปวณฺณยุตฺเต. ทุพฺพณฺเณติ โทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อนิฏฺฐากนฺตามนาป-
วณฺณยุตฺเต, อนภิรูเป วิรูเปติปิ อตฺโถ. สุคเตติ สุคติคเต, อโลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา
วา อฑฺเฒ มหทฺธเน. ทุคฺคเตติ ทุคฺคติคเต. โลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา
ทลิทฺเท อปฺปนฺนปาเน. ยถากมฺมูปคเตติ ยํ ยํ กมฺมํ อุปจิตํ, เตน เตน อุปคเต.
ตตฺถ ปุริเมหิ "จวมาเน"ติอาทีหิ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจํ วุตฺตํ, อิมินา ปน ปเทน
ยถากมฺมูปคญาณกิจฺจํ.
     ตสฺส จ ญาณสฺส อยมุปฺปตฺติกฺกโม:- อิธ ภิกฺขุ เหฏฺฐานิรยาภิมุขํ
อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เนรยิเก สตฺเต ปสฺสติ มหาทุกฺขมนุภวมาเน, ตํ ทสฺสนํ
ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมว. โส เอวํ มนสิ กโรติ กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา อิเม สตฺตา
เอตํ ทุกฺขมนุภวนฺตี"ติ. อถสฺส "อิทํ นาม กตฺวา"ติ ตํ กมฺมารมฺมณํ ญาณมุปฺปชฺชติ.
ตถา อุปริเทวโลกาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา นนฺทนวนมิสฺสกวนผารุสกวนาทีสุ
@เชิงอรรถ:  สี. สมฺปตินิพฺพตฺตา, สมฺปตินิพฺพตฺตาว, วิสุทฺธิ. ๒/๒๖๘ (สฺยา)
สตฺเต ปสฺสติ มหาสมฺปตฺตึ อนุภวมาเน, ตมฺปิ ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมว. โส
เอวํ มนสิ กโรติ "กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา อิเม สตฺตา เอตํ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตี"ติ.
อถสฺส "อิทํ นาม กตฺวา"ติ กมฺมารมฺมณํ ญาณมุปฺปชฺชติ. อิทํ ยถากมฺมูปคญาณํ
นาม. อิมสฺส วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถิ. ยถา จิมสฺส, เอวํ อนาคตํสญาณสฺสาปิ.
ทิพฺพจกฺขุปาทกาเนว หิ อิมานิ ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺติ.
     อิเม วต โภนฺโตติอาทีสุ อิเมติ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺฐานํ นิทสฺสนวจนํ.
วตาติ อนุโลมนตฺเถ นิปาโต. โภนฺโตติ ภวนฺโต. ทุฏฺฐุ จริตํ, ทุฏฺฐํ วา จริตํ
กิเลสปูติกตฺตาติ ทุจฺจริตํ, กาเยน ทุจฺจริตํ, กายโต วา อุปฺปนฺนํ ทุจฺจริตนฺติ
กายทุจฺจริตํ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. สมนฺนาคตาติ สมงฺคีภูตา. อริยานํ
อุปวาทกาติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ อริยานํ อนฺตมโส คิหิโสตาปนฺนานมฺปิ
อนตฺถกามา หุตฺวา อนฺติมวตฺถุนา วา คุณปริธํสเนน วา อุปวาทกา, อกฺโกสกา
ครหกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ "นตฺถิ อิเมสํ สมณธมฺโม, อสฺสมณา เอเต"ติ วทนฺโต
อนฺติมวตฺถุนา อุปวทติ, "นตฺถิ อิเมสํ ฌานํ วา วิโมกฺโข วา มคฺโค วา ผลํ
วา"ติอาทีนิ วทนฺโต คุณปริธํสเนน อุปวทตีติ เวทิตพฺโพ. โส จ ชานํ วา
อุปวเทยฺย อชานํ วา, อุภยถาปิ อริยูปวาโทว โหติ. ภาริยํ กมฺมํ อานนฺตริยสทิสํ
สคฺคาวรณํ มคฺคาวรณญฺจ, สเตกิจฺฉํ ปน โหติ. ตสฺมา โย อริยํ อุปวทติ,
เตน คนฺตฺวา สเจ อตฺตนา วุฑฺฒตโร โหติ, อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา "อหํ อายสฺมนฺตํ
อิทญฺจิทญฺจ อวจํ, ตํ เม ขมาหี"ติ ขมาเปตพฺโพ. สเจ นวกตโร โหติ, วนฺทิตฺวา
อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลึ ปคฺคเหตฺวา "อหํ ภนฺเต ตุเมฺห อิญฺจิทญฺจ อวจํ,
ตํ เม ขมถา"ติ ขมาเปตพฺโพ. สเจ ทิสา ปกฺกนฺโต โหติ, สยํ วา คนฺตฺวา
สทฺธิวิหาริเก วา เปเสตฺวา ขมาเปตพฺโพ. สเจ นาปิ คนฺตุํ น เปเสตุํ สกฺกา
โหติ, เย ตสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู วสนฺติ, เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา สเจ นวกตรา
โหนฺติ, อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา, สเจ วุฑฺเฒ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา "อหํ ภนฺเต
อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทญฺจิทญฺจ อวจํ, ตํ ขมตุ เม โส อายสฺมา"ติ วตฺวา
ขมาเปตพฺโพ. สมฺมุขา อกฺขมนฺเตปิ เอตเทว กาตพฺพํ. สเจ เอกจาริกภิกฺขุ โหติ,
เนว ตสฺส วสนฏฺฐานํ, น คตฏฺฐานํ ปญฺญายติ, เอกสฺส ปณฺฑิตสฺส ภิกฺขุโน
สนฺติกํ คนฺตฺวา "อหํ ภนฺเต อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทญฺจิทญฺจ อวจํ, ตํ
เม อนุสฺสรโต วิปฺปฏิสาโร โหติ, กึ กโรมี"ติ วตฺตพฺพํ. โส วกฺขติ "ตุเมฺห
มา จินฺตยิตฺถ เถโร ตุมฺหากํ ขมติ, จิตฺตํ วูปสเมถา"ติ. เตนาปิ อริยสฺส
คตทิสาภิมุเขน อญฺชลึ ปคฺคเหตฺวา "ขมา"ติ วตฺตพฺพํ. ยทิ โส ปรินิพฺพุโต โหติ,
ปรินิพฺพุตปญฺจฏฺฐานํ คนฺตฺวา ยาว สีวถิกํ คนฺตฺวาปิ ขมาเปตพฺพํ. เอวํ กเต
เนว สคฺคาวรณํ, น มคฺคาวรณํ โหติ, ปากติกเมว โหตีติ.
     มิจฺฉาทิฏฺฐิกาติ วิปรีตทสฺสนา. มิจฺฉาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานาติ มิจฺฉาทิฏฺฐิวเสน
สมาทินฺนนานาวิธกมฺมา, เย จ มิจฺฉาทิฏฺฐิมูลเกสุ กายกมฺมาทีสุ อญฺเญปิ
สมาทเปนฺติ. เอตฺถ จ วจีทุจฺจริตคฺคหเณเนว อริยูปวาเท, มโนทุจฺจริตคฺคหเณน
จ มิจฺฉาทิฏฺฐิยา สงฺคหิตายปิ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปน วจนํ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถนฺติ
เวทิตพฺพํ. มหาสาวชฺโช หิ อริยูปวาโท อานนฺตริกสทิสตฺตา. วุตฺตมฺปิ เจตํ
"เสยฺยถาปิ สาริปุตฺต ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปญฺญาสมฺปนฺโน ทิฏฺเฐว
ธมฺเม อญฺญํ อาราเธยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ สาริปุตฺต วทามิ ตํ วาจํ อปฺปหาย
ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺฐึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต, เอวํ
นิรเย"ติ. ๑- มิจฺฉาทิฏฺฐิโต จ มหาสาวชฺชตรํ นาม อญฺญํ นตฺถิ. ยถาห "นาหํ
ภิกฺขเว อญฺญํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ มหาสาวชฺชํ, ยถยิทํ ภิกฺขเว
มิจฺฉาทิฏฺฐิ, มิจฺฉาทิฏฺฐิปรมานิ ภิกฺขเว มหาสาวชฺชานี"ติ. ๒-
     กายสฺส เภทาติ อุปาทินฺนขนฺธปริจฺจาคา. ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ
อภินิพฺพตฺติกฺขนฺธคฺคหเณ. ๓- อถ วา กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉทา. ปรํ
@เชิงอรรถ:  ม. มู. ๑๒/๑๔๙/๑๑๐   องฺ. เอกก. ๒๐/๓๑๐/๓๕   สี. อภินิพฺพตฺติขนฺธกฺขเณ
มรณาติ จุติจิตฺตโต อุทฺธํ. อปายนฺติ เอวมาทิ สพฺพํ นิรยเววจนเมว. นิรโย
หิ สคฺคโมกฺขเหตุภูตา ปุญฺญสมฺมตา อยา อเปตตฺตา, สุขานํ วา อายสฺส อภาวา
อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสฺสรณนฺติ ทุคฺคติ, โทสพหุลตาย วา ทุฏฺเฐน
กมฺมุนา นิพฺพตฺตา คติ ทุคฺคติ. วิวสา นิปตนฺติ ตตฺถ ทุกฺกฏการิโนติ วินิปาโต,
วินสฺสนฺตา วา เอตฺถ ปตนฺติ สมฺภิชฺชมานงฺคปจฺจงฺคาติปิ วินิปาโต. นตฺถิ เอตฺถ
อสฺสาทสญฺญิโต อโยติ นิรโย.
     อถ วา อปายคฺคหเณน ติรจฺฉานโยนึ ทีเปติ. ติรจฺฉานโยนิ หิ อปาโย
สุคติโต อเปตตฺตา, น ทุคฺคติ มเหสกฺขานํ นาคราชาทีนํ สมฺภวโต. ทุคฺคติคฺคหเณน
ปิตฺติวิสยํ. โส หิ อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สุคติโต อเปตตฺตา ทุกฺขสฺส จ
คติภูตตฺตา, น ตุ วินิปาโต อสุรสทิสํ อวินิปาตตฺตา. วินิปาตคฺคหเณน อสุรกายํ.
โส หิ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สพฺพสมุสฺสเยหิ จ
วินิปติตตฺตา วินิปาโตติ วุจฺจติ. นิรยคฺคหเณน อวีจิอาทิมเนกปฺปการํ นิรยเมวาติ.
อุปฺปนฺนาติ อุปคตา, ตตฺถ อภินิพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตวิปริยาเยน สุกฺกปกฺโข
เวทิตพฺโพ.
     อยมฺปน วิเสโส:- ตตฺถ สุคติคฺคหเณน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหติ,
สคฺคคฺคหเณน เทวคติเยว. ตตฺถ สุนฺทรา คตีติ สุคติ. รูปาทีหิ วิสเยหิ สุฏฺฐุ
อคฺโคติ สคฺโค. โส สพฺโพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเฐน โลโกติ อยํ วจนตฺโถ. อิติ
"ทิพฺเพน จกฺขุนา"ติอาทิ สพฺพํ นิคมนวจนํ. เอวํ ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตีติ
อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถติ.
                   ทิพฺพจกฺขุญาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตา.
                         --------------
     อิเมสุ ปญฺจสุ ญาเณสุ อิทฺธิวิธญาณํ ปริตฺตมหคฺคตอตีตานาคตปจฺจุปนฺน-
อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน สตฺตสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. โสตธาตุวิสุทฺธิญาณํ
ปริตฺตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ.
เจโตปริยญาณํ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณมคฺคอตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนพหิทฺธารมฺมณวเสน
อฏฺฐสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติญาณํ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณ-
มคฺคอตีตอชฺฌตฺตพหิทฺธานวตฺตพฺพารมฺมณวเสน อฏฺฐสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ.
ทิพฺพจกฺขุญาณํ ปริตฺตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน จตูสุ อารมฺมเณสุ
ปวตฺตติ. ยถากมฺมูปคญาณํ ปริตฺตมหคฺคตอตีตอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน ปญฺจสุ
อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. อนาคตํสญาณํ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณมคฺคอนาคตอชฺฌตฺต-
พหิทฺธานวตฺตพฺพารมฺมณวเสน อฏฺฐสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตตีติ.
                        ปญฺจญาณปกิณฺณกํ นิฏฺฐิตํ.
                          ------------


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๔๗ หน้า ๓๘๙-๓๙๕. http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=47&A=8681&modeTY=2              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=47&A=8681&modeTY=2              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=31&i=257              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=31&A=2887              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=31&A=3349              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=31&A=3349              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๑ http://84000.org/tipitaka/read/?index_31

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]