ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม
อรรถกถาเล่มที่ ๔๕ ภาษาบาลีอักษรไทย นิทฺ.อ.๑ (สทฺธมฺมปชฺ.)

หน้าที่ ๓๕๒.

๑๑. กลหวิวาทสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา [๙๗] เอกาทสเม กลหวิวาทสุตฺตนิทฺเทเส กุโต ปหูตา กลหา วิวาทาติ กลโห จ ตสฺส ปุพฺพภาโค วิวาโท จาติ อิเม กุโต ชาตา. ปริเทวโสกา สหมจฺฉรา จาติ ปริเทวโสกา จ สหมจฺฉรา จ กุโต ปหูตา. มานาติมานา สหเปสุณา จาติ มานา จ อติมานา จ เปสุณา จ กุโต ปหูตา. เตติ เต สพฺเพปิ อฏฺฐ กิเลสธมฺมา. ตทิงฺฆ พฺรูหีติ ตํ มยา ปุจฺฉิตมตฺถํ พฺรูหิ, ยาจามิ ตํ อหนฺติ. ยาจนตฺโถ หิ อิงฺฆาติ นิปาโต. เอเกนากาเรนาติ เอเกน การเณน. อปเรน อากาเรนาติ อปเรน การเณน. อาคาริกา ทณฺฑปสุตาติ คหปติโน วิเหสมานา. ปพฺพชิตา อาปตฺตึ อาปชฺชนฺตาติ อนาคาริกา สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ อญฺญตรํ อาปชฺชมานา. กุโต ปหูตาติ กุโต ภูตา. กุโต ชาตาติ กุโต ปฏิลทฺธตฺตภาวา. ๑- กุโต สญฺชาตาติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ. กุโต นิพฺพตฺตาติ กุโต นิพฺพตฺตลกฺขณํ ปตฺตา. อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา "กุโต อภินิพฺพตฺตา"ติ วุตฺตํ. กุโต ปาตุภูตาติ กุโต ปากฏีภูตา. กึนิทานาติอาทีสุ อตฺตโน ผลํ นิเทตีติ นิทานํ. เอตสฺมา ผลํ สมุเทตีติ สมุทโย. เอตสฺมา ผลํ ชายตีติ ชาติ. เอตสฺมา ผลํ ปภวตีติ ปภโว. มูลํ ปุจฺฉตีติ กลหสฺส การณํ ปุจฺฉติ. การณํ หิ ปติฏฺฐฏฺเฐน มูลํ. อตฺตโน ผลนิปฺผาทนตฺถํ หิโนติ ปวตฺตตีติ เหตุ. "หนฺท นํ คณฺหถา"ติ ทสฺเสนฺตํ วิย อตฺตโน ผลํ นิเทตีติ นิทานํ. เอตสฺมา ผลํ สมฺภวตีติ สมฺภโว. ปภวติ ผลํ เอตสฺมาติ ปภโว. สมุฏฺฐาติ เอตฺถ ผลํ, เอเตน วา สมุฏฺฐาตีติ สมุฏฺฐานํ. อตฺตโน ผลํ อาหรตีติ อาหาโร. อปฺปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺเฐน อตฺตโน ผลํ อารเมตีติ อารมฺมณํ. เอตํ ปฏิจฺจ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ผลํ เอติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโย. เอตสฺมา ผลํ สมุเทตีติ สมุทโยติ เอวเมเตสํ ปทานํ @เชิงอรรถ: ฉ.ม. ปฏิลทฺธภาวา

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๕๓.

วจนตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตํ สนฺธาย "กลหสฺส จ วิวาทสฺส จ มูลํ ปุจฺฉตี"ติอาทินา นเยน เทสนา วุตฺตา. [๙๘] ปิยปฺปหูตาติ ปิยวตฺถุโต ชาตา. มจฺเฉรยุตฺตา กลหา วิวาทาติ อิมินา กลหวิวาทาทีนํ น เกวลํ ปิยวตฺถุเมว, มจฺฉริยมฺปิ ปจฺจยํ ทสฺเสติ. กลหวิวาทสีเสน เจตฺถ สพฺเพปิ เต ธมฺมา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ยถา จ เอเตสํ มจฺฉริยํ, ตถา เปสุณานญฺจ วิวาทํ. เตนาห "วิวาทชาเตสุ จ เปสุณานี"ติ. อิมิสฺสา คาถาย นิทฺเทโส อุตฺตานตฺโถเยว. [๙๙] ปิยา สุ โลกสฺมึ กุโตนิทานา, เย วาปิ ๑- โลภา วิจรนฺติ โลเกติ "ปิยปฺปหูตา กลหา"ติ เย เอตฺถ วุตฺตา, เต ปิยา สุ โลกสฺมึ กุโตนิทานา, น เกวลญฺจ ปิยา, เย วาปิ ขตฺติยาทโย โลเก วิจรนฺติ โลภเหตุ โลเภนาภิภูตา วิจรนฺติ, เตสํ โส โลโภ จ กุโตนิทาโนติ เทฺว อตฺเถ เอกาย ปุจฺฉาย ปุจฺฉติ. กุโตนิทานาติ เจตฺถ กึนิทานา กึเหตุกาติ ปจฺจตฺตวจนสฺส โตอาเทโส เวทิตพฺโพ, สมาเส จสฺส โลปาภาโว. อถ วา นิทานาติ ชาตา, อุปฺปนฺนาติ อตฺโถ. ตสฺมา ๒- กุโต นิทานา ๒- กุโต ชาตา กุโต อุปฺปนฺนาติ วุตฺตํ โหติ. อาสา จ นิ จาติ อาสา จ ตสฺสา อาสาย สมิทฺธิ จ. เย สมฺปรายาย นรสฺส โหนฺตีติ เย นรสฺส สมฺปรายาย โหนฺติ, ปรายนา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เอกา เอวายมฺปิ ปุจฺฉา. ทีปา โหนฺตีติ ปติฏฺฐา ภวนฺติ. สรณา โหนฺตีติ ทุกฺขนาสนา โหนฺติ. นิฏฺฐา ปรายนา โหนฺตีติ สมิทฺธิปรายนา โหนฺติ. [๑๐๐] ฉนฺทานิทานานีติ กามจฺฉนฺทาทิฉนฺทนิทานานิ. เย วาปิ ๑- โลภา วิจรนฺตีติ เย วาปิ ขตฺติยาทโย โลภา วิจรนฺติ, เตสํ โลโภปิ ฉนฺทนิทาโนติ @เชิงอรรถ: ฉ.ม. จาปิ ๒-๒ ฉ.ม. อิเม ปาฐา น ทิสฺสนฺติ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๕๔.

เทฺวปิ อตฺเถ เอกโต วิสฺสชฺเชติ. อิโตนิทานาติ ฉนฺทนิทานา เอวาติ วุตฺตํ โหติ. "อิโต นิทานา"ติ หิ ฉนฺทํ สนฺธายาห. ฉนฺทนิทานา หิ โลภาทโย. "อิโตนิทานา"ติ สทฺทสิทฺธิ เจตฺถ "กุโตนิทานา"ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อาสาย สมิทฺธิ วุจฺจติ นิฏฺฐาติ อชฺฌาสยนิพฺพตฺติปฏิลาโภ กถียติ. [๑๐๑] วินิจฺฉยาติ ตณฺหาทิฏฺฐิวินิจฺฉยา. เย จาปิ ธมฺมา สมเณน วุตฺตาติ เย จ อญฺเญปิ โกธาทีหิ สมฺปยุตฺตา, ตถารูปา วา อกุสลา ธมฺมา พุทฺธสมเณน วุตฺตา, เต กุโตปหูตาติ. อญฺญชาติกาติ อญฺญสภาวา. อญฺญวิหิตกาติ อญฺเญนากาเรน ฐิตา. สมิตปาเปนาติ นิพฺพุตปาเปน. ๑- พาหิตปาปธมฺเมนาติ ปหีนลามกธมฺเมน. ภินฺนกิเลสมูเลนาติ กิเลสมูลานิ ภินฺทิตฺวา ฐิเตน. สพฺพากุสลพนฺธนา ๒- ปมุตฺเตนาติ ทฺวาทสากุสลพนฺธนํ โมเจตฺวา ฐิเตน. วุตฺตาติ กถิตา. ปวุตฺตาติ ปกาเรน กถิตา. [๑๐๒] ตมูปนิสฺสาย ปโหติ ฉนฺโทติ ตํ สุขทุกฺขเวทนํ ตทุภยวตฺถุสงฺขาตํ สาตาสาตํ อุปนิสฺสาย สํโยควิโยคปตฺถนาวเสน ฉนฺโท ปโหติ. เอตฺตาวตา "ฉนฺโท นุ โลกสฺมึ กุโตนิทาโน"ติ อยํ ปโญฺห วิสฺสชฺชิโต โหติ. รูเปสุ ทิสฺวา วิภวํ ภวญฺจาติ รูเปสุ วยญฺจ อุปฺปาทญฺจ ทิสฺวา. วินิจฺฉยํ กุรุเต ๓- ชนฺตุ โลเกติ อปายาทิเก โลเก อยํ ชนฺตุ โภคาธิคมตฺถํ ตณฺหาวินิจฺฉยํ "อตฺตา เม อุปฺปนฺโน"ติอาทินา นเยน ทิฏฺฐิวินิจฺฉยญฺจ กุรุเต. เอตฺตาวตา "วินิจฺฉยา จาปิ กุโตปหูตา"ติ อยํ ปโญฺห วิสฺสชฺชิโต โหติ. สาตาสาตํ นิสฺสายาติ มธุรญฺจ อมธุรญฺจ อุปนิสฺสยํ กตฺวา. อิฏฺฐานิฏฺฐนฺติ อิฏฺฐารมฺมณญฺจ อนิฏฺฐารมฺมณญฺจ. @เชิงอรรถ: ฉ.ม. นิพฺพาปิตปาเปน ฉ.ม. สพฺพากุสลมูลพนฺธนา ฉ.ม. กุพฺพติ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๕๕.

สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานานุโยคนฺติ เอตฺถ สุราติ ปิฏฺฐสุรา ปูวสุรา โอทนสุรา กิณฺณปกฺขิตฺตา สมฺภารสํยุตฺตาติ ปญฺจ สุรา. เมรยนฺติ ปุปฺผาสโว ผลาสโว มธฺวาสโว คุฬาสโว สมฺภารสํยุตฺโตติ ปญฺจ อาสวา. ตํ สพฺพมฺปิ มทกรณวเสน มชฺชํ. ปมาทฏฺฐานนฺติ ปมาทการณํ, ยาย เจตนาย ตํ มชฺชํ ปิวติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ. อนุโยคนฺติ ตํ สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺฐานานุโยคํ อนุอาโยคํ ปุนปฺปุนํ กรณํ. ยสฺมา จ ปน ตํ อนุยุตฺตสฺส เม อุปฺปนฺนา เจว โภคา ปริหายนฺติ, อนุปฺปนฺนา จ นุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา "เม โภคา ปริกฺขยํ ขีณภาวํ คจฺฉนฺตี"ติ ชานาติ. เอวํ สพฺพตฺถ. วิกาลวิสิขาจริยานุโยคนฺติ อเวลาย วิสิขาสุ จริยานุยุตฺตํ. สมชฺชาภิจรณนฺติ นจฺจาทิทสฺสนวเสน สมชฺชาภิคมนํ. อาลสฺยานุโยคนฺติ กายาลสิยยุตฺตปฺปยุตฺตํ. ๑- อปายมุขานิ น เสวตีติ โภคานํ วินาสทฺวารานิ น เสวติ. กสิยา วาติ กสิกมฺเมน วา. วณิชฺชาย วาติ ธมฺมิกวาณิชกมฺเมน วา. โครกฺเขน วาติ โคปาลกกมฺเมน วา. อิสฺสตฺเถน วาติ ธนุสิปฺเปน วา. ราชโปริเสน วาติ ราชเสวกกมฺเมน วา. สิปฺปญฺญตเรน วาติ กุมฺภการาทิสิปฺปานํ อญฺญตเรน วา. ปฏิปชฺชตีติ ปโยคํ กโรติ. จกฺขุสฺมึ อุปฺปนฺเน ชานาตีติ สสมฺภารจกฺขุสฺมึ อุปฺปนฺเน ชานาติ. "อตฺตา เม อุปฺปนฺโน"ติ ทิฏฺฐึ คณฺหาติ. จกฺขุสฺมึ อนฺตรหิเตติ ตสฺมึ วินฏฺเฐ. อตฺตา เม อนฺตรหิโตติ "มม อตฺตา วินฏฺโฐ"ติ ทิฏฺฐึ คณฺหาติ. วิคโต เม อตฺตาติ วีติกฺกนฺโต ๒- มม อตฺตา. โสตสฺมินฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. [๑๐๓] เอเตปิ ธมฺมา ทฺวยเมว สนฺเตติ เอเต โกธาทโย ธมฺมา สาตาสาตทฺวเย สนฺเต เอว โหนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺตาวตา ตติยปโญฺหปิ วิสฺสชฺชิโต โหติ. อิทานิ โย เอวํ วิสฺสชฺชิเตสุ เอเตสุ ปเญฺหสุ กถํกถี ภเวยฺย, ตสฺส กถํกถาปหานูปายํ ทสฺเสนฺโต อาห "กถํกถี ญาณปถาย สิกฺเข"ติ, ญาณทสฺสนญาณาธิคมนตฺถํ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺเขยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. กึการณา? ญตฺวา ปวุตฺตา สมเณน ธมฺมา. @เชิงอรรถ: ฉ.ม. กายาลสิยตาย ยุตฺตปฺปยุตฺตํ สี. อติกฺกนฺโต

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๕๖.

พุทฺธสมเณน หิ ญตฺวา ธมฺมา วุตฺตา, นตฺถิ ตสฺส ธมฺเมสุ อญฺญาณํ, อตฺตโน ปน ญาณานุภาเวน เต อชานนฺโต น ชาเนยฺย, น เทสนาโทเสน. ตสฺมา กถํกถี ญาณปถาย สิกฺเข, ญตฺวา ปวุตฺตา สมเณน ธมฺมาติ. ปกฺเขปพนฺธเนน วา พทฺโธติ พนฺธนาคาริกพนฺธเนน วา ๑- พทฺโธ. ปริกฺเขปพนฺธเนน วาติ วติปริกฺเขปพนฺธเนน วา. คามพนฺธเนนาติอาทีสุ ตสฺมา ตสฺมา ฐานโต นิกฺขมิตุํ อลภนฺโต คามพนฺธนาทีหิ พทฺโธ นาม โหติ. ตสฺส พนฺธนสฺส โมกฺขตฺถายาติ เอตสฺส วุตฺตปฺปการสฺส พนฺธนสฺส โมจนตฺถํ. ญาณมฺปิ ญาณปโถติ ปุเร อุปฺปนฺนญาณํ อปราปรุปฺปนฺนสฺส ญาณมฺปิ ญาณสฺส สญฺจรณมคฺโคติ ญาณมฺปิ ญาณปโถ. ญาณสฺส อารมฺมณมฺปิ ญาณปโถติ ญาณสฺส ปจฺจโยปิ ตํ อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชนโต ญาณปโถ. ญาณสหภุโนปิ ธมฺมา ญาณปโถติ ญาเณน สหุปฺปนฺนา อวเสสา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมาปิ ญาณปโถ. อิทานิ อุปมาย สาเธนฺโต "ยถา อริยมคฺโค อริยปโถ"ติอาทิมาห. กถํกถี ปุคฺคโลติ วิจิกิจฺฉาวนฺโต ปุคฺคโล. สกงฺโขติ สเทฺวฬฺหโก. สวิเลโขติ จิตฺตราชิวนฺโต. สเทฺวฬฺหโกติ กงฺขาวนฺโต. สวิจิกิจฺโฉติ สนฺเทหวนฺโต. ญาณาธิคมายาติ ญาณปฏิลาภตฺถาย. ญาณผุสนายาติ ๒- ญาณปฏิวิชฺฌนตฺถาย. อถ วา ญาณวินฺทนตฺถาย. ๓- ญาณสจฺฉิกิริยายาติ ญาณสฺส ปจฺจกฺขกรณตฺถาย. สนิทานาหนฺติ อหํ สนิทานํ สปฺปจฺจยํ กตฺวา ธมฺมเทสนํ กโรมิ. สปฺปาฏิหาริยนฺติ นิยฺยานิกํ กตฺวา. โน อปฺปาฏิหาริยนฺติ อนิยฺยานิกํ อกตฺวา ธมฺมเทสนํ กโรมิ. [๑๐๔] สาตํ อสาตญฺจ กุโตนิทานาติ เอตฺถ สาตาสาตนฺติ สุขทุกฺขเวทนา เอว อธิปฺเปตา. น ภวนฺติ เหเตติ น ภวนฺติ หิ ๔- เอเต. วิภวํ ภวญฺจาปิ ยเมตมตฺถํ, เอตํ เม ปพฺรูหิ ยโตนิทานนฺติ สาตาสาตานํ วิภวํ ภวญฺจ เอตมฺปิ @เชิงอรรถ: ฉ.ม. นาคริกพนฺเธน สี. ญาณทสฺสนายาติ สี. ญาณนิปฺผาทนตฺถาย ฉ.ม. @หิสทฺโท น ทิสฺสติ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๕๗.

ยํ อตฺถํ. ลิงฺคพฺยตฺตโย เอตฺถ กโต. อิทมฺปน วุตฺตํ โหติ:- สาตาสาตานํ วิภโว ภโว จาติ โย เอส อตฺโถ, เอตมฺเม ปพฺรูหิ ยโตนิทานนฺติ. เอตฺถ จ สาตาสาตานํ วิภวภววตฺถุกา วิภวภวทิฏฺฐิโย เอว วิภวภวาติ อตฺถโต เวทิตพฺพา. ตถา หิ อิมสฺส ปญฺหสฺส วิสฺสชฺชนปกฺเข "ภวทิฏฺฐิปิ ผสฺสนิทานา, วิภวทิฏฺฐิปิ ผสฺสนิทานา"ติ อุปริ นิทฺเทเส ๑- วกฺขติ. อิมาย คาถาย นิทฺเทเส วตฺตพฺพํ นตฺถิ. [๑๐๕] อิโตนิทานนฺติ ผสฺสนิทานํ. อิมายปิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. [๑๐๖] กิสฺมึ วิภูเต น ผุสนฺติ ผสฺสาติ กิสฺมึ วีติวตฺเต จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ปญฺจ ผสฺสา น ผุสนฺติ. อิมายปิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. [๑๐๗] นามญฺจ รูปญฺจ ปฏิจฺจาติ สมฺปยุตฺตกนามญฺจ วตฺถารมฺมณรูปญฺจ ปฏิจฺจ. รูเป วิภูเต น ผุสนฺติ ผสฺสาติ รูเป วีติวตฺเต ปญฺจ ผสฺสา น ผุสนฺติ. ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโสติ จกฺขุรูปวิญฺญาณานํ ติณฺณนฺนํ สงฺคติยา ผสฺโส ชายติ. จกฺขุญฺจ รูปา จ รูปสฺมินฺติ ปสาทจกฺขุญฺจ รูปารมฺมณานิ จ รูปภาเค รูปโกฏฺฐาเส กตฺวา. จกฺขุสมฺผสฺสํ ฐเปตฺวาติ ติณฺณํ สงฺคติยา อุปฺปนฺนผสฺสํ มุญฺจิตฺวา. สมฺปยุตฺตกา ธมฺมา นามสฺมินฺติ อวเสสา เวทนาทโย ผสฺเสน สหชาตา ธมฺมา นามภาเค. โสตญฺจ ปฏิจฺจาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. จตูหากาเรหิ รูปํ วิภูตํ โหตีติ จตูหิ การเณหิ รูปํ วีติวตฺตํ โหติ. ญาตวิภูเตนาติ ปากฏํ กตฺวา วีติวตฺเตน. ตีรณวิภูเตนาติ อนิจฺจาทิโต ตีเรตฺวา วีติวตฺเตน. ปหานวิภูเตนาติ ฉนฺทราคปฺปหานโต วีติวตฺเตน. สมติกฺกมวิภูเตนาติ จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ ปฏิลาภวเสน วีติวตฺเตน. [๑๐๘] กถํ สเมตสฺสาติ กถํ ปฏิปนฺนสฺส. วิโภติ รูปนฺติ รูปํ วิภวติ, น ภเวยฺย วา. สุขํ ทุกฺขํ วาติ ๒- อิฏฺฐานิฏฺฐรูปเมว ปุจฺฉติ. @เชิงอรรถ: ขุ.มหา ๒๙/๔๘๔/๓๒๙ (สฺยา) ฉ.ม. ทุขญฺจ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๕๘.

ชาเนยฺยามาติ ชานิสฺสาม. อาชาเนยฺยามาติ วิเสเสน ชานิสฺสาม. วิชาเนยฺยามาติ อเนกวิเธน ชานิสฺสาม. ปฏิวิชาเนยฺยามาติ สมฺมา ชานิสฺสาม. ปฏิวิชฺเฌยฺยามาติ จิตฺเตน พุชฺฌิสฺสาม. [๑๐๙] น สญฺญสญฺญีติ ยถา สเมตสฺส วิโภติ รูปํ, โส ปกติสญฺญาย สญฺญีปิ น โหติ. น วิสญฺญสญฺญีติ วิสญฺญายปิ วิรูปาย สญฺญาย วิสญฺญี น โหติ อุมฺมตฺตโก วา ขิตฺตจิตฺโต วา. โนปิ อสญฺญีติ สญฺญาวิรหิโตปิ น โหติ นิโรธสมาปนฺโน วา อสญฺญสตฺโต วา. น วิภูตสญฺญีติ "สพฺพโส รูปสญฺญานนฺ"ติอาทินา ๑- นเยน สมติกฺกนฺตสญฺญีปิ น โหติ อรูปชฺฌานลาภี. เอวํ สเมตสฺส วิโภติ รูปนฺติ เอตสฺมึ สญฺญสญฺญิตาทิภาเว อฏฺฐตฺวา ยเทตํ วุตฺตํ "โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ฯเปฯ อากาสานญฺจายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย จิตฺตํ อภินีหรตี"ติ, เอวํ สเมตสฺส อรูปมคฺคสมงฺคิโน ๒- วิโภติ รูปํ. สญฺญานิทานา หิ ปปญฺจสงฺขาติ เอวํ ปฏิปนฺนสฺสาปิ จ ยา สญฺญา, ตํนิทานา ตณฺหาทิฏฺฐิปปญฺจาสฺส อปฺปหีนาว โหนฺตีติ ทสฺเสติ. อสญฺญิโน วุจฺจนฺติ นิโรธสมาปนฺนาติ สญฺญาเวทนา นิโรเธตฺวา นิโรธสมาปนฺนา สญฺญาภาเวน อสญฺญิโนติ กถิยนฺติ. อสญฺญสตฺตาติ สพฺเพน สพฺพํ สญฺญาภาเวน อสญฺญภเว นิพฺพตฺตา. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติ ตตฺถ โสติ โส ภิกฺขุ. เอวนฺติ จตุตฺถชฺฌานกฺ- กมนิทสฺสนเมตํ, อิมินานุกฺกเมน จตุตฺถชฺฌานํ ปฏิลภิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. สมาหิเตติ อิมินา จตุตฺถชฺฌานสมาธินา สมาหิเต. ปริสุทฺเธติอาทีสุ ปน อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาเวน ปริสุทฺเธ. ปริสุทฺธตฺตาเยว ปริโยทาเต, ปภสฺสเรติ วุตฺตํ โหติ. สุขาทีนํ ปจฺจยานํ ฆาเตน วิหตราคาทิองฺคณตฺตา อนงฺคเณ. อนงฺคณตฺตาเยว จ วิคตูปกฺกิเลเส. องฺคเณน หิ จิตฺตํ อุปกฺกิลิสฺสติ. สุภาวิตตฺตา มุทุภูเต, วสีภาวปฺปตฺเตติ วุตฺตํ โหติ. วเส วตฺตมานํ หิ จิตฺตํ มุทูติ วุจฺจติ. มุทุตฺตาเยว @เชิงอรรถ: อภิ.วิ. ๓๕/๕๐๘/๒๙๕ สี. อรูปจิตฺตสมงฺคิโน

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๕๙.

จ กมฺมนิเย, กมฺมกฺขเม กมฺมโยคฺเคติ วุตฺตํ โหติ. มุทุญฺหิ จิตฺตํ กมฺมนิยํ โหติ สุทฺธนฺตมิว สุวณฺณํ. ตทุภยมฺปิ จ สุภาวิตตฺตาเยว. ยถาห "นาหํ ภิกฺขเว อญฺญํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ภาวิตํ กมฺมนิยํ โหติ ยถยิทํ ภิกฺขเว จิตฺตนฺ"ติ. ๑- เอเตสุ หิ ปริสุทฺธภาวาทีสุ ฐิตตฺตา ฐิเต. ฐิตตฺตาเยว อาเนญฺชปฺปตฺเต อจเล นิริญฺชเนติ วุตฺตํ โหติ. มุทุกมฺมญฺญภาเวน วา อตฺตโน วเส ฐิตตฺตา ฐิเต. สทฺธาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา อาเนญฺชปฺปตฺเต. สทฺธาปริคฺคหิตญฺหิ จิตฺตํ อสฺสทฺธิเยน น อิญฺชติ, วีริยปริคฺคหิตํ โกสชฺเชน น อิญฺชติ, สติปริคฺคหิตํ ปมาเทน น อิญฺชติ, สมาธิปริคฺคหิตํ อุทฺธจฺเจน น อิญฺชติ, ปญฺญาปริคฺคหิตํ อวิชฺชาย น อิญฺชติ, โอภาสปริคฺคหิตํ ๒- กิเลสนฺธกาเรน น อิญฺชติ. อิเมหิ ฉหิ ธมฺเมหิ ปริคฺคหิตํ อาเนญฺชปฺปตฺตํ โหติ. เอวํ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคตํ จิตฺตํ อภินีหารกฺขมํ โหติ อากาสานญฺจายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย. อปโร นโย:- จตุตฺถชฺฌานสมาธินา สมาหิเต. นีวรณทูรีภาเวน ปริสุทฺเธ. วิตกฺกาทิสมติกฺกเมน ปริโยทาเต. ฌานปฏิลาภปจฺจนีกานํ ปาปกานํ อิจฺฉาวจรานญฺจ อภาเวน อนงฺคเณ. อิจฺฉาวจรานนฺติ อิจฺฉาย อวจรานํ, อิจฺฉาวเสน โอติณฺณานํ ปวตฺตานํ นานปฺปการานํ โกธอปฺปจฺจยานนฺติ อตฺโถ. อภิชฺฌาทีนญฺจ จิตฺตูปกฺกิเลสานํ วิคเมน วิคตูปกฺกิเลเส. อุภยมฺปิ เจตํ อนงฺคณสุตฺตวตฺถสุตฺตานุสาเรน ๓- เวทิตพฺพํ. วสีภาวปฺปตฺติยา ๔- มุทุภูเต. อิทฺธิปาทภาวูปคมเนน กมฺมนิเย. ภาวนาปาริปูริยา ปณีตภาวูปคเมน ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต, ยถา อาเนญฺชภาวํ อาเนญฺชปฺปตฺตํ โหติ, เอวํ ฐิเตติ อตฺโถ. เอวมฺปิ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคตํ ๕- จิตฺตํ อภินีหารกฺขมํ โหติ อากาสานญฺจายตนสมาปตฺติปฏิลาภตฺถาย ปาทกํ ปทฏฺฐานภูตํ. อรูปมคฺคสมงฺคีติ ๖- อรูปสมาปตฺติยา คมนมคฺเคน อปริหีโน. ปปญฺจาเยว ปปญฺจสงฺขาติ ตณฺหาทิปปญฺจาเยว ปปญฺจสงฺขา. @เชิงอรรถ: องฺ.เอกก. ๒๐/๒๒/๔ ฉ.ม. โอภาสคตํ ฉ.ม. องฺคณ..., ม.มู. ๑๒/๓๒ @ ฉ.ม. วสิปฺปตฺติยา ฉ.ม. อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเมน ฉ.ม. อารุปฺปมคฺคสมงฺคีติ

--------------------------------------------------------------------------------------------- หน้าที่ ๓๖๐.

[๑๑๐] เอตฺตาวตคฺคํ นุ วทนฺติ เหเก, ยกฺขสฺส สุทฺธึ อิธ ปณฺฑิตาเส. อุทาหุ อญฺญมฺปิ วทนฺติ เอตฺโตติ เอตฺตาวตา นุ อิธ ปณฺฑิตา สมณพฺราหฺมณา อคฺคํ สุทฺธึ สตฺตสฺส วทนฺติ, อุทาหุ อญฺญมฺปิ เอตฺโต อรูปสมาปตฺติโต อธิกํ จ วทนฺตีติ ปุจฺฉติ. เอตฺโต อรูปโตติ ๑- เอตสฺมา อรูปสมาปตฺติโต. [๑๑๑] เอตฺตาวตคฺคมฺปิ วทนฺติ เหเกติ เอเก สสฺสตวาทา สมณพฺราหฺมณา ปณฺฑิตมานิโน เอตฺตาวตาปิ อคฺคํ สุทฺธึ วทนฺติ. เตสํ ปเนเก สมยํ วทนฺตีติ เตสญฺเญว เอเก อุจฺเฉทวาทา สมยํ อุจฺเฉทํ วทนฺติ. อนุปาทิเสเส กุสลาวทานาติ อนุปาทิเสเส กุสลวาทา สมานา. ภวตชฺชิตาติ ภวโต ภีตา. วิภวํ อภินนฺทนฺตีติ อุจฺเฉทํ ปฏิจฺจ ตุสฺสนฺติ. เต สตฺตสฺส สมนฺติ เต อุจฺเฉทวาทิโน ปุคฺคลสฺส สมํ อนุปฺปตฺตึ วทนฺติ. อุปสมนฺติ อตีว สมํ. วูปสมนฺติ สนฺตึ. ๒- นิโรธนฺติ อนุปฺปาทํ. ปฏิปสฺสทฺธินฺติ อนุปฺปตฺตึ. ๓- [๑๑๒] เอเต จ ญตฺวา อุปนิสฺสิตาติ เอเต จ ทิฏฺฐิคติเก สสฺสตุจฺเฉททิฏฺฐิโย นิสฺสิตาติ ญตฺวา. ญตฺวา มุนี นิสฺสเย โส วีมํสีติ นิสฺสเย จ ญตฺวา โส วีมํสี ปณฺฑิโต พุทฺธมุนิ. ญตฺวา วิมุตฺโตติ ทุกฺขานิจฺจาทิโต ธมฺเม ญตฺวา วิมุตฺโต. ภวาภวาย น สเมตีติ ปุนปฺปุนํ อุปปตฺติยา น สมาคจฺฉติ. อปรามสนฺติ อปรามสนฺโต. ปรามาสํ นาปชฺชนฺโตติ อตฺโถ. สทฺธมฺมปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺฐกถาย กลหวิวาทสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตา. เอกาทสมํ. @เชิงอรรถ: ฉ.ม. เอตฺโต อรูปสมาปตฺติโตติ ฉ.ม. สนฺตํ ฉ.ม. อปุนุปฺปตฺตึ


             อรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย เล่มที่ ๔๕ หน้า ๓๕๒-๓๖๐. http://84000.org/tipitaka/atthapali/th_line.php?B=45&A=8151&modeTY=2&pagebreak=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=45&A=8151&modeTY=2&pagebreak=1              อ่านอรรถกถาแปลไทย :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=29&i=442              เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=29&A=5617              พระไตรปิฎกฉบับบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=29&A=6094              The Pali Tipitaka in Roman Character :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=29&A=6094              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๙ http://84000.org/tipitaka/read/?index_29

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วไม่แสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย คลิกเพื่อเปลี่ยน ฐญ เป็นแบบดั้งเดิม

บันทึก ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]