บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) การค้นหาคำว่า อาวาสิกธรรม ผลการค้นหาพบ 7 ตำแหน่ง ดังนี้ :-
1. อากัปปวัตตสัมปันนะ (ถึงพร้อมด้วยมารยาทและวัตร to be accomplished in manner and duties) 2. พหุสสุตะ (เป็นพหูสูต ทรงความรู้ to have great learning) 3. ปฏิสัลเลขิตา (เป็นผู้ประพฤติขัดเกลา ชอบความสงบ ยินดีในกัลยาณธรรม to be fond of solitude) 4. กัลยาณวาจา (มีวาจางาม รู้จักพูด รู้จักเจรจาให้เป็นผลดี to have and convincing speech) 5. ปัญญวา (มีปัญญา เฉลียวฉลาด to be wise)
1. สีลวา (มีศีล สำรวมในพระปาฏิโมกข์ ประพฤติเคร่งครัดในสิกขาบททั้งหลาย to gave good conduct) 2. พหุสสุตะ (เป็นพหูสูต ทรงความรู้ to have great learning) 3. กัลยาณวาจา (มีวาจางาม รู้จักพูด รู้จักเจรจาให้เป็นผลดี to have lovely and convincing speech) 4. ฌานลาภี (ได้แคล่วคล่องในฌาน 4 สำหรับอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน to be able to gain pleasure of the Four Absorptions ot will) 5. อนาสวเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ (บรรลุเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ สิ้นอาสวะแล้ว to have gained the Deliverance
1. สีลวา (มีศีล สำรวมในพระปาฏิโมกข์ ประพฤติเคร่งครัดในสิกขาบททั้งหลาย to have good conduct) 2. พหุสสุตะ (เป็นพหูสูต ทรงความรู้ to have great learning) 3. กัลยาณวาจา (มีวาจางาม รู้จักพูด รู้จักเจรจาให้เป็นผลดี to have lovely and convincing speech) 4. ธัมมิกถาย สันทัสสนา (สามารถกล่าวธรรมีกถาให้ผู้มาหาเห็นแจ่มชัด ยอมรับไปปฏิบัติ เร้าใจให้แกล้วกล้า และเบิกบานใจ to be able teach, incite, rouse and satisfy those who him with talk on the Dharma) 5. ฌานลาภี (ได้แคล่วคล่องในฌาน 4 ที่เป็นเครื่องอยู่สุขสบายในปัจจุบัน to be able to gain pleasure of the Four Absorptions)
1. สีลวา (มีศีล สำรวมในพระปาฏิโมกข์ ประพฤติเคร่งครัดในสิกขาบททั้งหลาย to have good conduct) 2. พหุสสุตะ (เป็นพหูสูต ทรงความรู้ to have great learning) 3. ขัณฑผุลลปฏิสังขรกะ (รู้จักปฏิสังขรณ์เสนาสนะสิ่งของที่ชำรุดหักพัง to repair broken and dilapidated things) 4. ปุญญกรณายาโรจกะ (เมื่อมีสงฆ์หมู่ใหญ่มาจากต่างถิ่นต่างแคว้น ขวนขวายบอกชาวบ้านผู้ปวารณาไว้ให้มาทำบุญ to inform the householders of the arrival of incoming monks in order that the former may make merit) 5. ฌานลาภี (ได้แคล่วคล่องในฌาน 4 ที่เป็นเครื่องอยู่สุขสบายในปัจจุบัน to be able to gain pleasure of the Four Absorptions)
1. อธิสีเล สมาทปกะ (ชักนำคฤหัสถ์ให้ถือปฏิบัติในอธิศีล to incite them to higher virtue) อธิศีลในที่นี้ ท่านอธิบายว่า ได้แก่เบญจศีลที่เป็นไปเพื่อคุณเบื้องสูง 2. ธัมมทัสสเน นิเวสกะ (ยังคฤหัสถ์ให้ตั้งอยู่ในธรรมทัศนะ คือรู้เห็นเข้าใจธรรม to encourage them in the discernment of truth or the vision of the doctrine) 3. คิลานสตุปปาทกะ (เมื่อคฤหัสถ์เจ็บไข้ ไปเยี่ยมให้สติ to visit the sick and rouse them to mindfulness and awareness) 4. ปุญญกรณายาโรจกะ (เมื่อมีสงฆ์หมู่ใหญ่มาจากต่างแคว้น ขวนขวายบอกชาวบ้านผู้ปวารณาไว้ให้มาทำบุญ to inform the householders of the arrival of incoming monks in order that the former may make merit) 5. สัทธาเทยยาวินิปาตกะ (เขาถวายโภชนะใดๆ จะเลวหรือดี ก็ฉันด้วยตนเอง ไม่ยังศรัทธาไทยให้ตกไป to enjoy by himself any given food, whether mean or choice, not frustrating the gift of faith)
1. พิจารณาใคร่ครวญโดยรอบคอบแล้ว จึงกล่าวตำหนิติเตียนบุคคลที่ควรตำหนิติเตียน to speak in blame of a person deserving blame only after deliberately testing and plumbing the matter. 2. พิจารณาใคร่ครวญโดยรอบคอบแล้ว จึงกล่าวยกย่องสรรเสริญบุคคลที่ควรยกย่องสรรเสริญ to speak in praise of a person deserving praise only after deliberately testing and plumbing the matter. 3. พิจารณาใคร่ครวญโดยรอบคอบแล้ว จึงแสดงความไม่เลื่อมใส ในฐานะอันไม่ควรเลื่อมใส to show disbelief in what deserves disbelief only after deliberately testing and plumbing the matter. 4. พิจารณาใคร่ครวญโดยรอบคอบแล้ว จึงแสดงความเลื่อมใส ในฐานะอันควรเลื่อมใส to show appreciation in what deserves appreciation only after deliberately testing and plumbing the matter. 5. ไม่ยังศรัทธาไทยให้ตกไป -- not to frustrate to gift of faith. เจ้าอาวาสที่ประพฤติตรงข้ามจากนี้ ย่อมเสื่อมดุจถูกจับไปขังในนรก.
1. อนุวิจจาวัณณภาสกะ (พิจารณาใคร่ครวญโดยรอบคอบแล้ว จึงกล่าวตำหนิติเตียนบุคคลที่ควรตำหนิติเตียน - คำแปลภาษาอังกฤษดูในหมวดก่อน) 2. อนุวิจจวัณณภาสกะ (พิจารณาใคร่ครวญโดยรอบคอบแล้ว จึงกล่าวยกย่องสรรเสริญบุคคลที่ควรยกย่องสรรเสริญ - คำและภาษาอังกฤษดูในหมวดก่อน) 3. น อาวาสมัจฉรี (ไม่ตระหนี่หวงแหนที่อยู่อาศัย not to be stingy as to lodging) 4. น กุลมัจฉรี (ไม่ตระหนี่หวงแหนตระกูลอุปฐาก not to be stingy as to supporting-families) 5. น ลาภมัจฉรี (ไม่ตระหนี่หวงแหนลาภ not to be stingy as to gain) นอกจากนี้ ยังมีอาวาสิกธรรมประเภทมีความสุขความเจริญเหมือนได้รับเชิญไปอยู่ในสวรรค์ อีก 3 หมวด แต่มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย หรือกำหนดได้ง่ายคือ หมวดหนึ่ง เปลี่ยนเฉพาะข้อ 5 เป็น ไม่ยังศรัทธาไทยให้ตกไป อีกหมวดหนึ่ง เปลี่ยน 4 ข้อต้นเป็นเรื่องมัจฉริยะทั้งหมด คือ เป็น น อาวาสมัจฉรี, น กุลมัจฉรี, น ลาภมัจฉรี, น วัณณมัจฉรี ส่วนข้อสุดท้ายเป็น ไม่ยังศรัทธาไทย ให้ตกไป อีกหมวดหนึ่ง เปลี่ยนเป็นเรื่องมัจฉริยะทั้ง 5 ข้อ คือ เป็นผู้ไม่มีมัจฉริยะทั้ง 5 ดู [233] มัจฉริยะ 5.
|
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=อาวาสิกธรรม
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=%CD%D2%C7%D2%CA%D4%A1%B8%C3%C3%C1
บันทึก ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗, ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๓๕, พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]