ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก  หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
มิลินทปัญหา
ภควโต ราชปัญหา ที่ ๗
             สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้า แต่พระนาคเสนผู้ประกอบด้วยญาณปรีชาเฉลิมธีรชาติ สมเด็จพระบรมโลกนาถศาสดาจารย์มี พระพุทธฎีกาตรัสไว้ว่า ภิกฺขเว ดูรานะภิกษุทั้งหลาย ตถาคตนี้ พฺราหฺมโณ เป็นพราหมณ์ ยาจ- โยโค ประกอบขอทานทายกเลี้ยงชีวิต สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธบพิตรมีพระพุทธฎีกาตรัส ดังนี้แล้ว ปุน จ ภณิตํ พระองค์กลับมีพระพุทธฎีกาตรัสประภาษอีกใหม่เล่าว่า ตถาคตเป็น สมเด็จบรมกษัตริย์ทรงทศพิธราชธรรม นี่แหละพระพุทธฎีกาตรัสเป็นสองไม่ต้องกัน อยํ ปญฺโห ปริศนานี้เป็นอุภโตโกฏิ นิมนต์พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนาให้แจ้งก่อน              พระนาคเสนถวายพระพรวิสัชนาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร ผู้ประเสริฐ เดิมสมเด็จพระมหากรุณามีพระพุทธฎีกาตรัสว่า ตถาคตนี้ พฺราหฺมโณ เป็นพราหมณ์ ยาจโยโค เที่ยวขอทานเลี้ยงชีวิต ด้วยเหตุที่พระพิชิตมารญาณสัพพัญญูบรมครูเจ้า ลอยบาป มิให้ซึมซาบอยู่ในบวรพุทธสันดานเหมือนพราหมณ์เหมือนกัน พระองค์จึงบัญญัติพระนาม พระองค์ชื่อว่าพราหมณ์              ประการหนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายย่อมทำลายเสียซึ่งวิมัติสงสัยของมหาชนทั้งปวงมิให้ สงสัยได้ ยถา ฉันใด สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถศาสดาจารย์ ก็ตรัสพระสัทธรรมเทศนา ทำลายเสียซึ่งวิมัติกังขาของมนุษย์นาคนิกรอินทร์พรหมยกยักษ์และหมู่อสูรให้สิ้นสงสัย ดุจพราหมณ์ทั้งหลายฉันนั้น              ประการหนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายย่อมเป็นผู้สละภพและคติและกำเนิดพ้นจากมลทิน และละอองธุลี เมื่อจะกระทำให้หมดมลทินทั้งหลายมิได้มีสหายเป็นสอง คือไปกระทำพิธีแต่ผู้ เดียวตามวิสัยฉันใด สมเด็จพระบรมโลกนาถเจ้า ก็เป็นผู้สละภพและคติและกำเนิดทั้งปวงกำจัด เสียซึ่งภพทั้ง ๓ คือกามภพ รูปภพ อรูปภพ ให้ขาดจากพระบรมพุทธสันดานทีเดียว มิได้ ปรารถนาที่ว่าจะท่องเที่ยวเกิดตายอยู่ในภายในภพทั้ง ๓ นั้น เมื่อพระองค์บรรเทาประหาณซึ่ง กิเลสให้ขาดเด็ดจากพระบวรพุทธสันดาน ก็ทรงกระทำพระมหาปธานวิริยะอยู่แต่ผู้เดียว ตั้ง มัธยัสถ์พยายามเหมือนพราหมณ์ทั้งหลาย อันกระทำพิธีแต่ผู้เดียวฉันนั้น              ประการหนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายถือตัวว่า ทรงไว้ซึ่งทิพยวิหารธรรมอันประเสริฐเลิศล้น เป็นอันมากฉันใด สมเด็จพระสัพพัญญูเข้าก็มากไปด้วยทิพยวิธรรมอันประเสริฐเลิศล้นเป็น อันมาก มีครุวนาดุจพราหมณ์ทั้งหลายฉันนั้น              ประการหนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายย่อมถือการเรียนและสอนให้ผู้อื่นเรียนไตรเพทวิชา การทั้งหลาย เป็นผู้รู้ขวนขวายรับทานทรมานตนสำรวมตน และมีนิยมกำหนดเป็นสมัย รักษาไว้ซึ่งคำสอนอันมีมาแต่ก่อนกับทั้งประเพณีและวงศ์ มิให้อันตรธานสูญหายเสียไป ให้ตั้ง อยู่ดำรงอยู่ตามโลกวิสัย ยถา มีครุวนาฉันใด สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถศาสดาจารย์ ก็ทรง ถือ การเรียนและทรงสั่งสอนให้สาวกเล่าเรียนไตรสิขาและพระกรรมฐานทั้งหลาย ทรงขวนขวาย รับซึ่งทาน โปรดการทรมานฝึกฝนสำรวมตน และมีนิยมกำหนดพุทธกิจเป็นเวลา ทรงรักษา คำสอนให้ตรงตามพระพุทธเจ้าในปางก่อน และทรงอาทรเอื้อเฟื้อปฏิบัติตามพุทธวงศ์ อันเป็น ประเพณีรักษาวงศ์ประเพณีของตนมิให้อันตรธานสูญไปฉันนั้น              ประการหนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายย่อมเพ่งฌานในสุขวิหารดุจพรหมฉันใด สมเด็จพระ บรมไตรโลกนาถ ก็ทรงเพ่งฌานในสุขวิหาร ดุจพรหมฉันนั้น              อนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายย่อมรู้ความประพฤติให้เป็นอภิชาตและความท่องเที่ยวไปใน ภพน้อยและภพใหญ่ และคติทั้งหลายฉันใด สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถศาสดาจารย์เจ้า ก็ทรง รู้ซึ่งจารีต อันประพฤติให้เป็นอภิชาตและความท่องเที่ยวไปในภพน้อยและภพใหญ่และคติทั้ง หลายฉันนั้น              ประการหนึ่ง พระนามของสมเด็จพระบรมโลกนาถศาสดาจารย์ทรงพระนามชื่อ ว่าพราหมณ์นั้น ใช่ว่าสมเด็จพระพุทธบิดาสมเด็จพระพุทธมารดาและพระบรมวงศาศากยราช และอำมาตย์ราชเสนาและมิตรทั้งหลายอันเป็นที่เสน่หาและฝูงเทพนิกานาคยักษ์ยมทั้งหลาย จะถวายพระนามหามิได้ เอตํ นามํ อันว่าพระนามนี้ สมเด็จพระพิชิตมารโมลีเลิศบุคคลทศพล ญาณ มารเสนํ วิธํสิตฺวา กำจัดหมู่มารและเสนาทั้งหลายแห่งมารให้ปราชัยพ่ายแพ้แล้วมิได้ เนิ่นช้า โพธิยา มูเล พระองค์เสร็จทรงนั่งอยู่ใต้ควงไม้พระศรีมหาโพธิ ลอยเสียแล้วซึ่ง อกุศลกองบาปอันเป็นมลทินลามก ทั้งที่เป็นปัจจุบันและอนาคต คือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตชาติ ให้ขาดจากพระบวรสันดานแล้วก็ได้ตรัสรู้แก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ จึงได้นามชื่อว่าพราหมณ์ ตามประเพณีสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้งหลาย อันได้ตรัสรู้ทรงบัญญัติพระนามว่าพราหมณ์เหมือน กันทุกๆ พระองค์มา เหตุฉะนี้ สมเด็จพระบรมโลกนาถศาสดา จึงมีพระพุทธฎีกาตรัสว่าพระ องค์เป็นพราหมณ์ ขอถวายพระพร              ลำดับนั้นสมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามพระนาคเสนว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชาญาณยอดปราชญ์ ข้อที่ว่าสมเด็จพระบรมโลกนาถ ศาสดา มีพระพุทธฎีกาตรัสว่าพระองค์เป็นกษัตริย์นั้นเหตุผลเป็นประการใด พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไข้ว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารผู้ประ เสริฐ สมเด็จพระบรมโลกนาถศาสดามีพระพุทธฎีกาตรัสว่า พระองค์เป็นกษัตริย์นั้น ด้วยเหตุว่า สมเด็จพระบรมกษัตราธิราชได้ซึ่งปราบดาภิกเษกราชภิเษกราชภิเษกหรือปุสสาภิเษก ได้ครองราชสมบัติ ด้วยรบได้ก็ดี ได้ครองราชสมบัติด้วยประชาชนคนทั้งปวงเห็นสมควรยินยอมให้เป็นพระราชา เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินก็ดี เชิญให้ครองราชสมบัติด้วยเสี่ยงบุสสพิชัยราชรถก็ดี ครั้นได้เป็นใหญ่ เป็นท้าวพระยาแล้ว ย่อมสั่งสอนไพร่ฟ้าประชาราษฎรข้าแผ่นดิน อันอยู่ในขอบเขต ขัณฑสีมาแห่งพระราชธานีนครนั้นฉันใด สมเด็จพระสัพพัญญูก็เสวยราชสมบัติเป็นใหญ่ใน อนันตโลกธาตุชาติเขต ทรงสั่งสอนอินทร์พรหมอมเรศนิกรมนุษย์นาคยักษ์ยมทั้งปวงด้วยพระ สัทธรรมเทศนา ดุจพระบรมกษัตริย์ขัตติยราชทั้งปวงฉันนั้น              ข้อหนึ่งเล่า สมเด็จพระบรมกษัตริย์อันได้ดำรงรัฐเป็นพระยาแล้วนั้น ย่อมครอบงำ เสียซึ่งมนุษย์นิกรชนทั้งปวง กระทำหมู่พระญาติให้มีจิตร่าเริงบันเทิงอภิรมย์ ข่มเสียซึ่งปัจจามิตร ให้ย่อท้อ มีแต่จะโศกเศร้าเหงาใจกลัวภัยจะมาถึงตน และทรงยกเศวตฉัตรอันขาวสะอาดปราศ- จากมลทิน ประดับด้วยซี่ครบร้อยไม่บกพร่อง นำมาซึ่งพระเกียรติยศและสิริสวัสดิ์แก่พระองค์ เป็นอันมากฉันใด สมเด็พจระบรมไตรโลกนาถเจ้าก็ทรงกระทำมารและเสนามารผู้เป็นมิจฉาปฏิบัติ ประพฤติไม่ชอบธรรมให้เศร้าโศกรันทดใจ และทรงชักนำกระทำเทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย ผู้ปฏิบัติชอบให้ได้ความชื่นบานร่าเริงบันเทิงทั่วไป และทรงยกเศวตฉัตรมีสีขาวสะอาดปราศจาก มลทิน กล่าวคือพระวิมุตติธรรมอันล้ำเลิศ มีคันอันมั่นคง กล่าวคือ ขันตีประกอบด้วยซี่อันประ เสริฐ คือ พระญาณ ซึ่งจะนำพระเกียรติยศและสิริสวัสดิภาพให้แก่พระองค์เป็นอันมาก ในหมื่น โลกธาตุดุจบรมกษัตราธิราชฉันนั้น              ประการหนึ่ง สมเด็จพระบรมกษัตราธิราช เป็นผู้อันมหาชนเป็นอันมากจะพึงเคารพ นบไหว้ฉันใด สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถศาสดาจารย์ ก็เป็นผู้ควรที่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นอันมากจะเคารพนบไหว้ฉันนั้น              ประการหนึ่ง สมเด็จพระบรมกษัตริย์นั้น บุคคลผู้ใดกระทำความชอบในราชการ ก็พระ ราชทานรางวัลเงินทองเสื้อผ้าสิ่งของอันพึงใจ โดยสมควรแก่ความชอบในราชการฉันใด สมเด็จ พระบรมไตรโลกนาถศาสดาจารย์ เมื่อสัตว์โลกได้กระทำความชอบประกอบก่อสร้างบารมี ไว้ด้วยกายวาจาใจก็ตาม ซึ่งนับว่าเป็นสุจริตธรรมแล้ว พระองค์ก็ทรงเลื่อมใสประทานรางวัล โลกุตรสมบัติมรรคผล อันเป็นเครื่องกำจัดกิเลสให้พ้นสรรพทุกข์ทั้งปวง จะหาสิ่งอื่นประเสริฐ ล่วงนั้นมิได้ ฝูงประชาชนที่มีบารมีอบรมไว้ และมีความชอบคือประกอบปลูกศรัทธาเลื่อมใสใน พระบวรพุทธศาสนา พระองค์ก็ประทานให้เพียงสวรรค์สมบัติ ดุจพระบรมกษัตริย์อันพระราช- ทานรางวัลแก่ข้าราชการโดยสมควรแก่ความชอบฉันนั้น ประการหนึ่ง สมเด็จพระบรมกษัตริย์ย่อมตรัสติเตียนบุคคลผู้มิยำเกรงต่อพระราช- อาญา ล่วงละเมิดพระราชกำหนดกฎหมาย เป็นผู้ร้ายควรจะลงโทษแล้ว ทรงกำจัดเสียฉันใด สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้าก็ทรงติเตียนบุคคลอลัชชีที่ไม่ประพฤติพระวินัยบัญญัติ เหมือนฉันนั้น              ประการหนึ่ง สมเด็จบรมกษัตริย์ย่อมทรงแสดงธรรมานุธรรมปฏิบัติ พระราชทาน โอวาทแก่ข้าแผ่นดินเสวยพระราชสมบัติโดยยุติธรรมตามประเพณีแห่งพระบรมกษัตริย์แต่ปางก่อน กระทำให้ชาวพระนครทั้งหลายมีความนับถือยำเกรงพระบรมเดชานุภาพ รักใคร่ปรารถนาและ ทรงสถาปนาวงศ์แห่งตระกูลของพระบรมกษัตริย์ไว้ให้มั่นคง ดำรงอยู่ต่อไปด้วยกำลังแห่งพระ คุณธรรมฉันใด แม้สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้าก็ทรงแสดงข้อธรรมานุธรรมปฏิบัติให้พระพุทธโอวาท ตรัสสอนหมู่ประชากรสัตว์โลกทั้งปวงตามประเพณีแห่งพระสัพพัญญูเจ้าแต่ปางก่อน กระทำ ให้สรรพสัตว์ทั้งหลายรักใคร่ปรารถนาทั้งเทวดาและมนุษย์ ยังพระศาสนาอันบริสุทธิ์ ให้ถาวร ตั้งมั่นคงดำรงอยู่นานด้วยกำลังแห่งพระคุณธรรม ดุจสมเด็จพระบรมกษัตราธิราชฉันนั้น              มหาราช ขอถวายพระพร สมเด็จพระชินวรบรมศาสาดาจารย์มีพระพุทธฎีกาตรัส เรียกพระองค์ว่า เป็นพราหมณ์บ้าง เป็นกษัตริย์บ้าง ด้วยมีเหตุมากมายหลายประการ แม้ ภิกษุจะเป็นผู้มีโวหารอันฉลาดพรรณนาไปตลอดกัลป์หนึ่ง ก็ไม่สามารถจะให้สิ้นสุดได้ ต้อง การอะไรที่จะพรรณนาให้มากไปกว่าเหตุ เชิญบพิตรรับไว้ปฏิบัติ ตามที่อาตมาถวายวิสัชนา โดยย่อฉะนี้ ขอถวายพระพร              สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากร ได้ทรงฟังพระนาคเสนผู้ปรีชาถวายวิสัชนาดังนั้น ก็ มีพระหฤทัยเบิกบาน ยอพระกรนอบนบเคารพซ้องสาธุการดุจนัยหนหลัง
ภควโต ราชปัญหา คำรบ ๗ จบเท่านี้

             เนื้อความมิลินทปัญหา หน้าที่ ๓๕๘ - ๓๖๑. http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=151              สารบัญมิลินทปัญหา http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=0#item_151

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]