ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก  หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
มิลินทปัญหา
ทุกกรปัญหา ที่ ๑๙
             อถโข นาคเสโน ฝ่ายพระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูกรบพิตรพระราช- สมภาร บพิตรจงทราบพระทัยเถิด แต่บพิตรทรงถามซึ่งอรรถปัญหามานี้ เวลาก็สมควรแล้ว              ส่วนสมเด็จพระเจ้ามิลินท์ ผู้เป็นปิ่นกษัตริย์จึงตรัสว่า อาม เออ โยมนี้รู้ว่าเวลาล่วง เข้ามัชฌิมยาม คนทั้งหลายตามประทีปไว้สว่างอยู่ในกาลบัดนี้              ครั้งนี้เจ้าพนักงานก็นำซึ่งผ้าสี่พับ สำหรับพระมหากษัตราธิราชจะบูชาธรรมถวายพระ นาคเสนนั้น มาจัดแจงตระเตรียมไว้              ฝ่ายว่าโยนกข้าหลวงทั้งปวงก็กราบทูลพระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์ว่า ขอพระราชทาน พระภิกษุนี้สมควรที่จะถามปัญหา ปณฺฑิโต ท่านมีปัญญาเป็นแท้แล้ว              สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์จึงตรัสว่า อาม ภเณ เออดูกรพนายทั้งหลาย พระ ภิกษุองค์นี้มีปัญญา แม้ว่าผู้ใดส้องเสพย์อาจารย์อันมีปรีชาญาณเห็นปานดังภิกษุนี้ ผู้นั้นอาจ สามารถที่จะรู้ธรรมวิเศษเร็วพลันไม่ช้าไม่นาน เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัส สรรเสริญดังนั้นแล้ว ก็มีน้ำพระทัยผ่องแผ้วในปัญหาพยากรณ์ของพระนาคเสน จึงบริจาค ผ้ากัมพลราคาแสนหนึ่งถวายพระนาคเสน แล้วมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต ข้าแต่พระผู้ โยมอนุญาตปวารณาเป็นกัปปิยการกไว้ แม้พระผู้เป็นเจ้าจะปรารถนาซึ่งวัตถุอันมีในพระราช- เคหาของโยม โยมจะถวายให้ในกาลบัดนี้              พระนาคเสนจึงมีเถรวาจาถวายพระพรว่า บพิตรพระราชสมภาร อาตมาภาพนี้เลี้ยง ชีวิตพอสมควรอยู่แล้ว              พระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์จึงตรัสว่า โยมทราบแล้วว่าพระผู้เป็นเจ้าเลี้ยงชีวิตพอสมควร แต่ทว่านิมนต์รักษาไว้ซึ่งตัวของพระผู้เป็นเจ้ากับทั้งโยมนี้              พระนาคเสนจึงมีเถรวาจาถามว่า ซึ่งมหาบพิตรตรัสว่าให้อาตมารักษาไว้ซึ่งอาตมา นี้อย่างไร ประการหนึ่งให้รักษาตัวมหาบพิตรไว้ด้วยนั้น จะให้รักษาประการใด              พระเจ้ามิลิท์ปิ่นกษัตริย์จึงตรัสว่า ภนฺเต ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า คำปรับปวาทจะล่วงเข้า มาครหาว่า พระนาคเสนมีปัญญาฉลาดอาจสามารถที่จะให้พระยามิลินท์ยินดีแล แต่ทว่าเสียที กระทำหาได้ลาภสักการะไม่ เหตุดังนี้โยมจึงว่าให้รักษาซึ่งตัวของพระผู้เป็นเจ้าไว้ ประการหนึ่ง ให้รักษาซึ่งตัวโยมนี้เล่าด้วยคำคนจะล่วงเข้ามาว่า สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ยินดีเลื่อมใส ปัญหา พยากรณ์ของพระนาคเสนแล้ว หาถวายไทยทานไม่ เหตุฉะนี้จงได้โปรดรับซึ่งนิตยภัต รับซึ่งคำ ปวารณาของโยมก่อน นะพระผู้เป็นเจ้า              พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูกรบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ ถ้า กระนั้นก็ตามพระราชอัชฌาสัยของบพิตรพระราชสมภาร              ฝ่ายพระเจ้ามิลินท์จึงมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าผู้เจริญ สีโห อันว่าพระยาสีหราชเป็นเจ้าแห่งมฤคชาติ ถึงมาตรแม้วส่าจะอยู่ในกรงทอง ย่อมจะมี หน้ามองออกไปนอกกรง มีความปรารถนาที่จะออกไปข้างภายนอก ยถา ฉันใด ได้แก่ตัว ของโยมนี้ อยู่ภายในเรือนทองก็จริงอยู่แล แต่ทว่าปรารถนาจะไปภายนอก เหมือนหนึ่งพระยา มฤคราชนั้น ครั้นโยมจะละราชนิเวศไปทรงบรรพชาเล่า ข้าศึกนั้นก็จะติดตามฆ่าตี ชีวิตโยม ก็มิได้ตั้งอยู่จิรังกาลนานไป เหตุฉะนี้โยมจึงไม่บรรพชา แต่ใจของโยมนี้ปรารถนาจะใคร่บรรพชา              อถ โข นาคเสโน ฝ่ายพระนาคเสนก็ถวายพระพรลาลุกจากอาสน์ลีลาศไปสู่สังฆาราม อันเป็นที่อยู่ของอาตมาในกาลนั้น              เมื่อพระนาคเสนคมนาการไปแล้ว สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี ก็มาดำริใน พระทัยว่า วันนี้อาตมาถามอรรถปัญหาแก่พระนาคเสนเป็นปัญหาเท่านี้              ส่วนพระนาคเสนว่าพระผู้เป็นเจ้าก็ดำริว่า วันนี้สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี ตรัสถามปัญหาแก่อาตมาเป็นปัญหาเท่านี้ อาตมานี้วิสัชนาเท่านี้ ตกว่าพระนาคเสนกับพระยา มิลินท์ถ้อยทีถ้อยจำไว้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย              ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปน ครั้นแสงทองอรุณรุ่งรางสว่างฟ้า ฝ่ายพระนาคเสนก็ นุ่งสบงทรงจีวร พระกรจับบาตรแล้วลีลาศเข้าสู่ราชนิเวศ ครั้นถึง พระผู้เป็นเจ้าจึงนั่งเหนือ ปัญญัตตาอาสน์อันตกแต่งตั้งไว้              ส่วนสมเด็จพระเจ้ามิลินท์บรมกษัตริย์ก็กระทำปรนนิบัติให้ฉันจังหันสำเร็จแล้ว พระเจ้า มิลินท์ปิ่นกษัตริย์ ก็เข้าไปสู่สำนักพระนาคเสน ถวายนมัสการแล้วจึงตรัสว่า ภนฺเต ข้าแต่ พระผู้เป็นเจ้าผู้เจริญ แต่โยมมารำพึงถึงอรรถปัญหาที่ถามพระผู้เป็นเจ้านั้น โสมนสฺสปฺปตฺโต ให้บังเกิดโสมนัสยินดีปรีดานี้นักหนา โยมมิได้หยั่งลงสู่นิทรารมณ์สิ้นราตรียังรุ่ง รำพึงไปว่า ได้ถามอรรถปัญหาเท่านี้ พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนาอย่างนั้นๆ โยมก็จำได้สิ้น              ส่วนพระนาคเสนก็ถวายพระพรแก่สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ว่า มหาราช ดูรานะ มหาบพิตรพระราชสมภาร อาตมาเล่าก็เหมือนกัน คืนนี้กลับไปสู่อาราม คิดถึงปัญหาที่บพิตร ถาม มีความยินดี รู้ว่าปัญหาที่บพิตรถามเท่านี้ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งโสมนัสปรีดา              เต อุโภ ปณฺฑิตา ฝ่ายว่านักปราชญ์ทั้งสองถ้อยทีถ้อยมีความโสมนัสปรีดา ถ้อยที ถ้อยมีสุนทรกถาเจรจาแก่กันไปมาในกาลนั้น
ทุกกรปัญหา คำรบ ๑๙ ในสัตตมวรรคจบเท่านี้
จบปุจฉาวิสัชนามิลินทปัญหา
ในมิลินทปัญหานี้ มี ๑๐๘@- ปัญหา พระอาจารย์เจ้ากล่าวยกขึ้นพรรณนาไว้ในลังกาทวีป @- ตรวจดู ตามปัญหามีเพียง ๘๙ เท่านั้น

             เนื้อความมิลินทปัญหา หน้าที่ ๑๗๓ - ๑๗๕. http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=92              สารบัญมิลินทปัญหา http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=0#item_92

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]