ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
๓. สรณคมนิยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระสรณคมนิยเถระ
(พระสรณคมนิยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า) [๒๐] สงครามของท้าวเทวราชทั้ง ๒ ฝ่าย ได้ปรากฏประชิดติดกัน เสียงดังกึกก้องได้เป็นไป [๒๑] พระศาสดาพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้ทรงรู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชา ประทับยืนอยู่ในอากาศ ทรงทำมหาชนให้สังเวชแล้ว [๒๒] เทวดาทั้งปวงมีใจเบิกบาน ต่างวางเกราะและอาวุธ พร้อมใจกันถวายอภิวาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในขณะนั้น [๒๓] พระศาสดาผู้ทรงอนุเคราะห์ ทรงรู้แจ้งโลก ทรงทราบความคิดของข้าพเจ้าแล้ว ทรงเปล่งอาสภิวาจา๑- ทำมหาชนให้เย็นใจว่า [๒๔] บุคคลผู้เกิดเป็นมนุษย์ มีจิตประทุษร้าย เบียดเบียนสัตว์เพียงตัวเดียว จะต้องเกิดยังอบายภูมิ เพราะจิตประทุษร้ายนั้น @เชิงอรรถ : @ อาสภิวาจา หมายถึงวาจาแสดงความเป็นผู้องอาจ วาขาองอาจคือคำประกาศพระองค์ว่าเป็นเอกในโลก @(ที.ม. (แปล) ๑๐/๓๑/๑๔) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๒๖๔}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๑๒. มหาปริวารวรรค]

๓. สรณคมนิยเถราปทาน

[๒๕] เปรียบเหมือนช้างในสนามรบ เบียดเบียนสัตว์จำนวนมาก ท่านทั้งหลายจงทำจิตของตนให้เย็นเถิด อย่าเบียดเบียนกันนักเลย [๒๖] แม้พวกเสนาของพญายักษ์ทั้ง ๒ ได้สงบสงคราม และพากันถึงพระผู้มีพระภาคผู้เจริญที่สุดในโลก ผู้คงที่เป็นอันดี ว่าเป็นสรณะ อย่างมั่นคง [๒๗] ส่วนพระศาสดา ผู้มีพระจักษุ ทรงให้หมู่ชนยินยอมแล้ว อันหมู่เทวดาเพ่งดูอยู่ ทรงก้าวย่างพระบาท ทรงบ่ายพระพักตร์เสด็จหลีกไปทางทิศเหนือ [๒๘] ข้าพเจ้าได้ถึงพระองค์ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาและมนุษย์ ผู้คงที่ ว่าเป็นสรณะเป็นคนแรก ข้าพเจ้าไม่ไปเกิดยังทุคติเลยตลอด ๑๐๐,๐๐๐ กัป [๒๙] ในกัปที่ ๓๐,๐๐๐ (นับจากกัปนี้ไป) ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๖ ชาติ มีพระนามว่ามหาทุนทุภิและพระนามว่ารเถสภะ [๓๐] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล ได้ทราบว่า ท่านพระสรณคมนิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
สรณคมนิยเถราปทานที่ ๓ จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๒๖๕}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๒ หน้าที่ ๒๖๔-๒๖๕. http://84000.org/tipitaka/pitaka2/m_siri.php?B=32&siri=115              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=32&A=3512&Z=3534                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=115              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=32&item=115&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=50&A=3391              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=32&item=115&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=50&A=3391                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu32              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/tha-ap115/en/walters



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :