ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๙ สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
๒๓-๑๑๒. สารคันธาทิทานูปการสูตร ที่ ๑-๙๐
ว่าด้วยเหตุให้เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่แก่นเป็นต้น
[๕๔๑] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มี พระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่แก่น ... สิงอยู่ที่ ต้นไม้มีกลิ่นที่กระพี้ ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่เปลือก ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กะเทาะ ... สิงอยู่ที่ ต้นไม้มีกลิ่นที่ใบ ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ดอก ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ผล ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มี กลิ่นที่รส ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กลิ่น พระเจ้าข้า? พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วย วาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า ... พวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กลิ่น มีอายุยืน มีวรรณะ งาม มีความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึง ความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กลิ่น. เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีปและอุปกรณ์แห่งประทีป เมื่อตายไป เขา ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กลิ่น ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็น เหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวก เทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กลิ่น.
จบ สูตรที่ ๒๓-๑๑๒.
จบ คันธัพพกายสังยุต.
-----------------------------------------------------
รวมพระสูตรที่มีในสังยุตนี้ คือ
๑. สุทธกสูตร ๔-๑๒. สารคันธาทิทาตาสูตร ๙ สูตร ๒. สุจริตสูตร ๑๓-๒๒. มูลคันธทานูปการสูตร ๑๐ สูตร ๓. มูลคันธทาตาสูตร ๒๓-๑๑๒. สารคันธาทิทานูปการสูตร ๙๐ สูตร
(รวม ๑๑๒ สูตร)
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ บรรทัดที่ ๖๔๓๖-๖๔๖๐ หน้าที่ ๒๘๕-๒๘๖. https://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=17&A=6436&Z=6460&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka2/m_siri.php?B=17&siri=298              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=17&i=541              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [541] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=17&item=541&items=1              The Pali Tipitaka in Roman :- [541] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=17&item=541&items=1              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๗ https://84000.org/tipitaka/read/?index_17              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://84000.org/tipitaka/english/metta.lk/17i536-e.php#sutta23 https://suttacentral.net/sn31.23-112/en/sujato

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :