ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] กถาวัตถุปกรณ์
๑๐. ชีวิตินทริยกถา (๘๒)
ว่าด้วยชีวิตินทรีย์
[๕๔๐] สก. ชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปไม่มีใช่ไหม ปร.๒- ใช่๓- สก. อายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไป กิริยาที่เป็นไป อาการที่สืบต่อ ความเป็นอยู่ ความหล่อเลี้ยง ไม่มีแก่สภาวธรรมที่มีรูปใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ @เชิงอรรถ : @ ดูเทียบ ม.อุ. (แปล) ๑๔/๓๐๐/๓๕๙-๓๖๐ @ ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายปุพพเสลิยะและนิกายสมิติยะ (อภิ.ปญฺจ.อ. ๕๔๐/๒๓๙) @ เพราะมีความเห็นว่า ชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปไม่มี มีแต่ที่เป็นนามเท่านั้น ซึ่งต่างกับความเห็นของสกวาทีที่ @เห็นว่า ชีวิตินทรีย์มีทั้งที่เป็นนามและรูป (อภิ.ปญฺจ.อ. ๕๔๐/๒๓๙) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๕๘๕}

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๘. อัฏฐมวรรค]

๑๐. ชีวิตินทริยกถา (๘๒)

สก. อายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไป กิริยาที่เป็นไป อาการที่สืบต่อ ความเป็นอยู่ ความหล่อเลี้ยง มีอยู่แก่สภาวธรรมที่มีรูปใช่ไหม ปร. ใช่ สก. หากอายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไป กิริยาที่เป็นไป อาการที่สืบต่อ ความเป็นอยู่ ความหล่อเลี้ยง มีอยู่แก่สภาวธรรมที่มีรูป ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า “ชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปไม่มี” สก. อายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไป กิริยาที่เป็นไป อาการที่สืบต่อ ความเป็นอยู่ ความหล่อเลี้ยง มีอยู่แก่สภาวธรรมที่ไม่มีรูป ชีวิตินทรีย์ที่ไม่เป็นรูป จึงมีอยู่ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. อายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไป กิริยาที่เป็นไป อาการที่สืบต่อ ความเป็นอยู่ ความหล่อเลี้ยงมีอยู่แก่สภาวธรรมที่มีรูป ชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปจึงมีอยู่ ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. อายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไป กิริยาที่เป็นไป อาการที่สืบต่อ ความเป็นอยู่ ความหล่อเลี้ยงมีอยู่แก่สภาวธรรมที่มีรูป แต่ชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปไม่มี ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. อายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไป กิริยาที่เป็นไป อาการที่สืบต่อ ความเป็นอยู่ ความหล่อเลี้ยง มีอยู่แก่สภาวธรรมที่ไม่มีรูป แต่ชีวิตินทรีย์ที่ไม่เป็น รูปไม่มีใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. อายุของสภาวธรรมที่ไม่มีรูป เป็นชีวิตินทรีย์ที่ไม่เป็นรูปใช่ไหม ปร. ใช่ สก. อายุของสภาวธรรมที่มีรูป เป็นชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๕๘๖}

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๘. อัฏฐมวรรค]

๑๐. ชีวิตินทริยกถา (๘๒)

สก. อายุของสภาวธรรมที่มีรูป ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็นชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูป” ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. อายุของสภาวธรรมที่ไม่มีรูป ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็นชีวิตินทรีย์ที่ไม่ เป็นรูป” ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๕๔๑] สก. อายุของสภาวธรรมที่มีรูป เป็นชีวิตินทรีย์ที่ไม่เป็นรูปใช่ไหม ปร. ใช่ สก. อายุของสภาวธรรมที่ไม่มีรูป เป็นชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. อายุของสภาวธรรมที่ไม่มีรูป ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็นชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูป” ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. อายุของสภาวธรรมที่มีรูป ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็นชีวิตินทรีย์ที่ไม่เป็นรูป” ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. อายุของสภาวธรรมทั้งที่มีรูปและไม่มีรูป เป็นชีวิตินทรีย์ที่ไม่เป็นรูปใช่ไหม ปร. ใช่ สก. อายุของสภาวธรรมทั้งที่เป็นรูปและไม่เป็นรูป เป็นชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. อายุของสภาวธรรมทั้งที่เป็นรูปและไม่เป็นรูป ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็น ชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูป” ใช่ไหม ปร. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๕๘๗}

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๘. อัฏฐมวรรค]

๑๐. ชีวิตินทริยกถา (๘๒)

สก. อายุของสภาวธรรมทั้งที่เป็นรูปและไม่เป็นรูป ท่านไม่ยอมรับว่า “เป็น ชีวิตินทรีย์ที่ไม่เป็นรูป” ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. ชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปไม่มีใช่ไหม ปร. ใช่ สก. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติไม่มีชีวิตินทรีย์ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๕๔๒] สก. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติมีชีวิตินทรีย์ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. หากบุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติมีชีวิตินทรีย์อยู่ ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า “ชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปไม่มี” สก. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติมีชีวิตินทรีย์ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ชีวิตินทรีย์นั้นนับเนื่องในขันธ์ไหน ปร. นับเนื่องในสังขารขันธ์ สก. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติมีสังขารขันธ์ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติมีสังขารขันธ์ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติมีเวทนาขันธ์ ฯลฯ สัญญาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณ- ขันธ์ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติมีเวทนาขันธ์ ฯลฯ สัญญาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณ- ขันธ์ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. บุคคลผู้ไม่เข้านิโรธสมาบัติมีเวทนาขันธ์ ฯลฯ ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๕๘๘}

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๘. อัฏฐมวรรค]

๑๐. ชีวิตินทริยกถา (๘๒)

[๕๔๓] สก. ชีวิตินทรีย์ที่เป็นรูปไม่มีใช่ไหม ปร. ใช่ สก. อสัญญสัตว์ไม่มีชีวิตินทรีย์ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. อสัญญสัตว์มีชีวิตินทรีย์ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. หากอสัญญสัตว์มีชีวิตินทรีย์ ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า “ชีวิตินทรีย์ที่ เป็นรูปไม่มี” สก. อสัญญสัตว์มีชีวิตินทรีย์ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ชีวิตินทรีย์นับเนื่องในขันธ์ไหน ปร. นับเนื่องในสังขารขันธ์ สก. อสัญญสัตว์มีสังขารขันธ์ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. อสัญญสัตว์มีสังขารขันธ์ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. อสัญญสัตว์มีเวทนาขันธ์ ฯลฯ สัญญาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. อสัญญสัตว์มีเวทนาขันธ์ ฯลฯ สัญญาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. ภพแห่งอสัญญสัตว์เป็นภพที่มีขันธ์ ๕ ใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๕๔๔] สก. เมื่อปฏิสนธิจิตดับไป ชีวิตินทรีย์ที่เกิดขึ้นด้วยปฏิสนธิจิต ย่อม แตกดับไปส่วนหนึ่งใช่ไหม ปร. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๗ หน้า : ๕๘๙}

พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [๘. อัฏฐมวรรค]

๑๑. กัมมเหตุกถา (๘๓)

สก. เมื่อปฏิสนธิจิตดับ ผัสสะที่เกิดขึ้นด้วยปฏิสนธิจิต ย่อมแตกดับไปส่วน หนึ่งไปใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ สก. เมื่อปฏิสนธิจิตดับไป ผัสสะที่เกิดขึ้นด้วยปฏิสนธิจิตย่อมแตกดับไปทั้งหมด ใช่ไหม ปร. ใช่ สก. เมื่อปฏิสนธิจิตดับไป ชีวิตินทรีย์ที่เกิดด้วยปฏิสนธิจิต ย่อมแตกดับไป ทั้งหมดใช่ไหม ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ [๕๔๕] ปร. ชีวิตินทรีย์มี ๒ อย่างใช่ไหม สก. ใช่ ปร. บุคคลมีชีวิตอยู่ด้วยชีวิตินทรีย์ ๒ อย่าง ตายด้วยความตาย ๒ อย่าง ใช่ไหม สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ชีวิตินทริยกถา จบ


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๗ หน้าที่ ๕๘๕-๕๙๐. http://84000.org/tipitaka/pitaka3/m_siri.php?B=37&siri=102              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=37&A=12862&Z=12979                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=37&i=1285              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=37&item=1285&items=18              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=55&A=5389              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=37&item=1285&items=18              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=55&A=5389                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu37              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/kv8.10/en/aung-rhysdavids



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :