ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๘ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ยมกปกรณ์ ภาค ๑
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร
๑. ปัจจุปปันนวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบัน
อนุโลมบุคคล
[๑๓๖] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดกำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็กำลังดับ ใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดกำลังดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๒๖}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดกำลังดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ [๑๓๗] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็กำลัง ดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดกำลังดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่
อนุโลมโอกาส
[๑๓๘] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดกำลังเกิด สมุทยสัจในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นทุกขสัจกำลังเกิด แต่สมุทยสัจไม่ใช่กำลังดับ ฯลฯ (คำที่ท่านกำหนดว่า ในภูมิใด เหมือนกันทั้งในอุปปาทวาร นิโรธวาร และ อุปปาทนิโรธวาร ไม่มีข้อแตกต่างกัน)
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๓๙] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ (คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด และ ของบุคคลใดในภูมิใด เหมือนกัน)
ปัจจนีกบุคคล
[๑๔๐] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งตัณหา ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ สมุทยสัจมิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๒๗}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

จากตัณหาในปวัตติกาล และในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจ ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสมุทยสัจก็ไม่ใช่กำลังดับ ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง เกิดใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สมุทย- สัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้ กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากตัณหาในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะ แห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและ ทุกขสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง ดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งมรรค ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ มัคคสัจมิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจาก มรรคในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคล เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมัคคสัจก็ไม่ใช่กำลังดับ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมด ผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากมรรคในปวัตติกาล และในอุปปาท- ขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและ ทุกขสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด [๑๔๑] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็ ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งมรรค สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ มัคคสัจมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากตัณหา ในภังคขณะ แห่งจิตที่วิปปยุตจากมรรค บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญ- สัตตภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมัคคสัจก็ไม่ใช่กำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๒๘}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร

ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง เกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งตัณหา มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สมุทยสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากมรรคและในอุปปาท- ขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากตัณหา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน อสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสมุทยสัจก็ไม่ใช่ กำลังเกิด
ปัจจนีกโอกาส
[๑๔๒] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๔๓] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฯลฯ (คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด และ ของบุคคลใดในภูมิใด เหมือนกัน ใน คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใดในภูมิใด ไม่พึงเพิ่มคำว่า บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ)
๒. อตีตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นอดีต
อนุโลมบุคคล
[๑๔๔] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่เคยเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็เคย ดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดเคยดับ ฯลฯ วิ. ใช่ (พึงจำแนกอนุโลมและปัจจนีกะแม้ในอุปปาทนิโรธวารให้เหมือนกับอตีตปุจฉา ในอุปปาทวาร) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๒๙}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร

๓. อนาคตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นอนาคต
อนุโลมบุคคล
[๑๔๕] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดจักเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็จักดับ ใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้น จักเกิด แต่สมุทยสัจไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและ สมุทยสัจก็จักดับ ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดจักดับ ฯลฯ วิ. ใช่ อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดจักเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคลและบุคคลผู้เป็นปุถุชน ซึ่งจักไม่ได้มรรค ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่มัคคสัจไม่ใช่จักดับ ใน อุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ใน ลำดับแห่งจิตนั้น) และบุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรค ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นจัก เกิดและมัคคสัจก็จักดับ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดจักดับ ฯลฯ วิ. ใช่ [๑๔๖] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดจักเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็จักดับ ใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่มัคคสัจไม่ใช่จักดับ บุคคลผู้จักได้มรรค สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและ มัคคสัจก็จักดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๓๐}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร

ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดจักดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง จิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สมุทยสัจไม่ใช่ จักเกิด บุคคลผู้จักได้มรรค มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นจักดับและสมุทยสัจก็จักเกิด
อนุโลมบุคคล
[๑๔๗] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดจักเกิด ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๔๘] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) และบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน อสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่สมุทยสัจไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่า นั้นในภูมินั้นจักเกิดและสมุทยสัจก็จักดับ (คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด และ ของบุคคลใดในภูมิใด เหมือนกัน)
ปัจจนีกบุคคล
[๑๔๙] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่ จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล และบุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่จักดับ แต่ทุกขสัจมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต สมุทย- สัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและทุกขสัจก็ไม่ใช่จักเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๓๑}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร

อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับ ใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล และบุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่ง จักไม่ได้มรรค มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่ทุกขสัจมิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและ ทุกขสัจก็ไม่ใช่จักเกิด [๑๕๐] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่ จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ แห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มัคคสัจ มิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล สมุทยสัจของบุคคล เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและมัคคสัจก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จัก ดับ แต่สมุทยสัจมิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล มัคคสัจ ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสมุทยสัจก็ไม่ใช่จักเกิด
ปัจจนีกโอกาส
[๑๕๑] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๕๒] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๓๒}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร

(คำที่ท่านกำหนดว่า ของบุคคลใด และ ของบุคคลใดในภูมิใด เหมือนกัน สมุทยสัจกับมัคคสัจมีข้อแตกต่างกัน คือ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันต- บุคคลและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น ไม่ใช่จักดับและสมุทยสัจก็ไม่ใช่จักเกิด)
๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบันและที่เป็นอดีต
อนุโลมบุคคล
[๑๕๓] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดกำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็เคยดับ ใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดเคยดับ ฯลฯ (คำถามที่เป็นอดีตพร้อมกับปัจจุบันในอุปปาทวารก็ดี อุปปาทนิโรธวารก็ดี คำที่ท่านกำหนดว่าของบุคคลก็ดี ของบุคคลใดในภูมิใดก็ดี เหมือนกันทั้งอนุโลมและ ปัจจนีกะ ผู้มีปัญญาพึงจำแนก)
๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นปัจจุบันและที่เป็นอนาคต
อนุโลมบุคคล
[๑๕๔] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดกำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็จักดับ ใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค และในอุปปาทขณะแห่งจิตของ อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิต นั้น ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่สมุทยสัจไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ซึ่ง กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นกำลัง เกิดและสมุทยสัจก็จักดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๓๓}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร

ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดจักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาลและใน อุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่ ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นจักดับและทุกขสัจก็กำลังเกิด อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้ มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้น กำลังเกิด แต่มัคคสัจไม่ใช่จักดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้ มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่า นั้นกำลังเกิดและมัคคสัจก็จักดับ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดจักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิต ใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะ แห่งจิตในปวัตติกาล และในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ มัคคสัจของ บุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคล เหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล มัคคสัจ ของบุคคลเหล่านั้นจักดับและทุกขสัจก็กำลังเกิด [๑๕๕] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็จักดับ ใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค สมุทยสัจ ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่มัคคสัจไม่ใช่จักดับ ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของ บุคคลผู้จักได้มรรค สมุทยสัจบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและมัคคสัจก็จักดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๓๔}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร

ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดจักดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลเหล่าอื่นผู้ จักได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สมุทยสัจ ไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้จักได้มรรค มัคคสัจของ บุคคลเหล่านั้นจักดับและสมุทยสัจก็กำลังเกิด
อนุโลมโอกาส
[๑๕๖] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดกำลังเกิด ฯลฯ
อนุโลมปุคคโลกาส
[๑๕๗] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรคและในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันต- บุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สมุทยสัจไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด และสมุทยสัจก็จักดับ ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้น ก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง จิตในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติใน จตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สมุทยสัจของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและทุกขสัจก็กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๓๕}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร

อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้น ก็จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิ และบุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน ปวัตติกาล บุคคลผู้กำลังอุบัติในอบายภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มัคคสัจไม่ใช่จักดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคล เหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ทุกขสัจ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมัคคสัจก็จักดับ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิต ใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะ แห่งจิตในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ มัคคสัจของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่ทุกขสัจไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่ง อรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและทุกขสัจก็กำลังเกิด [๑๕๘] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิและบุคคลผู้เป็น ปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มัคคสัจ ไม่ใช่จักดับ ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้จักได้มรรค สมุทยสัจของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมัคคสัจก็จักดับ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ กำลังเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๓๖}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร

วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลเหล่าอื่นผู้ จักได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นจักดับ แต่สมุทยสัจไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้ จักได้มรรค มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสมุทยสัจก็กำลังเกิด
ปัจจนีกบุคคล
[๑๕๙] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้น ก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล และใน อุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สมุทยสัจมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและในภังคขณะแห่งจิตของ อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรคและอรหัตตผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคล เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสมุทยสัจก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรคและในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันต- บุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ แห่งอรหัตตมรรคและในภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตต- มรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้นและในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค และอรหัตตผลในอรูปภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและทุกขสัจก็ไม่ ใช่กำลังเกิด อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับ ใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๓๗}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร

วิ. ในภังคขณะแห่งมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ใน ภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิต ในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคล เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มัคคสัจมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและ ในภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลัง จุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมัคคสัจก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้ มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่จักดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและใน ภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล และในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตผลในอรูปภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและทุกขสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด [๑๖๐] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้น ก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลเหล่าอื่นผู้ จักได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ มัคคสัจมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค ในภังคขณะแห่งตัณหาของ อรหันตบุคคลและบุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหา เป็นไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สมุทยสัจ ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมัคคสัจก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง เกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๓๘}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร

วิ. ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่สมุทยสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง อรหัตตมรรค ในภังคขณะแห่งตัณหาของอรหันตบุคคลและบุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจัก ไม่ได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและ สมุทยสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปัจจนีกโอกาส
[๑๖๑] อนุ. ทุกขสัจในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฯลฯ
ปัจจนีกปุคคโลกาส
[๑๖๒] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สมุทยสัจของ บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง จิตในปวัตติกาลและในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สมุทยสัจมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่ง อรหัตตมรรคและในภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคใน ลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรคและ อรหัตตผลในอรูปภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสมุทยสัจก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นในภูมิ นั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรคและในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันต- บุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก ดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและในภังคขณะแห่งจิต ของอรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๓๙}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร

และในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรคและอรหัตตผลในอรูปภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจาก อสัญญสัตตภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและทุกขสัจก็ไม่ใช่ กำลังเกิด อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มัคคสัจของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ใน ภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลเหล่าอื่นผู้จักได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตใน ปวัตติกาลและในอุปปาทขณะแห่งมรรคและผลในอรูปภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่า นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มัคคสัจมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค และในภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิและบุคคล ผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาลและใน อุปปาทขณะแห่งอรหัตตผลในอรูปภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจากอบายภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมัคคสัจก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ ทุกขสัจของบุคคลนั้นในภูมิ นั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิ และบุคคลผู้เป็นปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติ- กาล บุคคลผู้กำลังอุบัติในอบายภูมิและอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่ทุกขสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและใน ภังคขณะแห่งจิตของอรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิและบุคคลผู้เป็น ปุถุชนที่จักไม่ได้มรรคซึ่งกำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ในอุปปาทขณะ แห่งอรหัตตผลในอรูปภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจากอบายภูมิและอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและทุกขสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด [๑๖๓] อนุ. สมุทยสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มัคคสัจของ บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๔๐}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๕. สัจจยมก]

๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร

วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลเหล่าอื่นผู้ จักได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มัคคสัจมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล และในภังคขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิและ บุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ บุคคลผู้ อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สมุทยสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ มัคคสัจก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. มัคคสัจของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สมุทยสัจของบุคคลนั้นในภูมิ นั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิและบุคคลผู้เป็น ปุถุชนซึ่งจักไม่ได้มรรค มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่ สมุทยสัจมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรคและในภังคขณะแห่งตัณหา ของอรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอบายภูมิและบุคคลผู้เป็นปุถุชนซึ่งจักไม่ได้ มรรค เมื่อจิตที่วิปปยุตจากตัณหาเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มัคคสัจของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสมุทยสัจก็ไม่ใช่กำลังเกิด
๖. อตีตานาคตวาร
ว่าด้วยสภาวธรรมที่เป็นอดีตและที่เป็นอนาคต
อนุโลมบุคคล
[๑๖๔] อนุ. ทุกขสัจของบุคคลใดเคยเกิด สมุทยสัจของบุคคลนั้นก็จักดับ ใช่ไหม (ผู้รู้จำแนกอตีตปุจฉากับอนาคตปุจฉาในนิโรธวารทั้งอนุโลมและปัจจนีกะฉันใด ในอุปปาทนิโรธวารก็พึงจำแนกฉันนั้น)
อุปปาทนิโรธวาร จบ
ปวัตติวาร จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า : ๔๔๑}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๘ หน้าที่ ๔๒๖-๔๔๑. http://84000.org/tipitaka/pitaka3/m_siri.php?B=38&siri=26              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=38&A=8740&Z=9070                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=38&i=984              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=38&item=984&items=33              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=38&item=984&items=33                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๘ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu38



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :