ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๖ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ยมกปกรณ์ ภาค ๒
อนุโลมปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๒๐๔] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสตินทรีย์ของ บุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้โสตะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสตินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุและโสตะ เกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและโสตินทรีย์ก็ กำลังเกิด ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้น ก็กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๗๔}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

วิ. บุคคลผู้มีโสตะเกิดได้จักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ โสตินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีโสตะและจักขุ เกิดได้กำลังอุบัติ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็ กำลังเกิด อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้ฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุและฆานะ เกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ กำลังเกิด ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้จักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่า นั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะและจักขุเกิดได้ กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้อิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุและอิตถี เกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ กำลังเกิด ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้จักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีและจักขุ เกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็ กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๗๕}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้ปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุและปุริสะเกิดได้ กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้จักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะและจักขุ เกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็ กำลังเกิด อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นกำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุ เกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด และโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๗๖}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้แต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุ เกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง เกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเป็นอุเบกขาและมีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ ของบุคคลนั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจิตเป็น อุเบกขาและมีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง เกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้แต่เป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่า นั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้และเป็น สเหตุกะกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ กำลังเกิด ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นสเหตุกะและมีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะ และมีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ จักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๗๗}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้ แต่เป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้ และเป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด และปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุต แต่มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็น ญาณวิปปยุต แต่มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้จักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้นกำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ
ฆานินทรียมูลกนัย
[๒๐๕] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของ บุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๗๘}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้อิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะและอิตถี เกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ กำลังเกิด ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้ฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีและฆานะ เกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ กำลังเกิด อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้ปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะและปุริสะ เกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ กำลังเกิด ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้ฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะและฆานะ เกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ กำลังเกิด อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๗๙}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มี ฆานะเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นกำลัง เกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเป็นโสมนัสแต่มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีมีจิตเป็น โสมนัสและฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง เกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้แต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะ เกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง เกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๘๐}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

วิ. บุคคลผู้มีจิตเป็นอุเบกขาและมีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจิต เป็นอุเบกขาและมีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้แต่เป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้ และเป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ สัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นสเหตุกะแต่มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะ และมีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ ฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้แต่เป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะ เกิดได้และเป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๘๑}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

วิ. บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุต แต่มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็น ญาณสัมปยุตและมีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้ฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลัง อุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ
อิตถินทรียมูลกนัย
[๒๐๖] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของ บุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๘๒}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้๑- กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้น กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถี เกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด และโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้แต่มีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถี เกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้แต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มี อิตถีเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้แต่มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถี เกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด @เชิงอรรถ : @ คำว่า บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้ หมายถึงมีอิตถีภาวรูปเกิดไม่ได้ เช่น ผู้ชายอิตถีภาวรูปก็เกิดไม่ได้ หรือว่า @ผู้หญิงปุริสภาวรูปก็เกิดไม่ได้เช่นกัน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๘๓}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้แต่เป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้ และเป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ สัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นสเหตุกะแต่มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะและ มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอิตถิน- ทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้แต่เป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้ และเป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด และปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตแต่มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นญาณ- สัมปยุตและมีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง เกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๘๔}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้อิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่า นั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ
ปุริสินทรียมูลกนัย
[๒๐๗] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของ บุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มี ปุริสะเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๘๕}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้แต่มีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะ เกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้แต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะ เกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง เกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้แต่มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะ เกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้แต่เป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้ และเป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ สัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นสเหตุกะแต่มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะ และมีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ ปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๘๖}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้แต่เป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะ เกิดได้และเป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตแต่มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็น ญาณสัมปยุตและมีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้ปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่า นั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลัง อุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ
ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๒๐๘] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ บุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลมีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากโสมนัสในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัส- {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๘๗}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

สินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่ สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด และโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิป- ปยุตจากอุเบกขาในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่ง จิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง เกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจาก สัทธาในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุต ด้วยสัทธาในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ สัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๘๘}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากญาณในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุต ด้วยญาณในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ ปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ก็ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจิตเกิดได้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ แห่งจิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ ก็กำลังเกิด ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ
โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๒๐๙] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๘๙}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสและที่วิปปยุตจากสัทธาใน ปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่ กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย โสมนัสและสัทธาในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลัง เกิดและสัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นสเหตุกะแต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาและที่วิปปยุตจากโสมนัสในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิต เป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาและโสมนัสใน ปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ กำลังเกิด อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตแต่มีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสและที่วิปปยุตจากญาณในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็น ญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสและญาณ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสและญาณในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๙๐}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตแต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลัง ในอุป- ปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณและที่วิปปยุตจากโสมนัสในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตและมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่ สัมปยุตด้วยญาณและโสมนัสในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ แห่งจิตที่วิปปยุตจากโสมนัสในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ
อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๒๑๐] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของ บุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นอเหตุกะและมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาและที่วิปปยุตจากสัทธาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็น {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๙๑}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

อุเบกขาและเป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา และสัทธาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ สัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นสเหตุกะแต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาท- ขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาและที่วิปปยุตจากอุเบกขาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็น สเหตุกะและมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธา และอุเบกขาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ อุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตและมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาและที่วิปปยุตจากญาณในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็น ญาณสัมปยุตและมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย อุเบกขาและญาณในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด และปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตแต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาท- ขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณและที่วิปปยุตจากอุเบกขาในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็น ญาณสัมปยุตและมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย ญาณและอุเบกขาในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด และอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๙๒}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้แต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ แห่งจิตที่วิปปยุตจากอุเบกขาในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง เกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบขากำลังอุบัติ ในอุปปาท- ขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ
สัทธินทรียมูลกนัย
[๒๑๑] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของ บุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้เป็นสเหตุกะแต่เป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาและที่วิปปยุตจากญาณในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะ และเป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาและ ญาณในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปัญญินทรีย์ ก็กำลังเกิด ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้น ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๒๙๓}

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก]

๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร

ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้ แต่เป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่ วิปปยุตจากสัทธาในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่ง จิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง เกิดและสัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ
ปัญญินทรียมูลกนัย
[๒๑๒] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของ บุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้แต่เป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่ง จิตที่วิปปยุตจากญาณในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรียไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาท- ขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๙ หน้าที่ ๒๗๔-๒๙๔. http://84000.org/tipitaka/pitaka3/m_siri.php?B=39&siri=14              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5], [6], [7].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=39&A=6179&Z=6687                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=39&i=558              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=39&item=558&items=46              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=39&item=558&items=46                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu39



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :