ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๑๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๔
๖๑. จิตตสหภูทุกะ ๗. ปัญหาวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๒๕๗] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับ จิตโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ จิตตสมุฏฐานรูปที่เกิดพร้อมกับจิตโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิต โดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่จิตและจิตตสมุฏฐานรูปที่ ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัย แก่จิตและกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๒) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์ จิต และจิตตสมุฏฐานรูปที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิต โดยเหตุปัจจัย (๓) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๑๔๕}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๑. จิตตสหภูทุกะ ๗. ปัญหาวาร

อารัมมณปัจจัย
[๒๕๘] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิต โดยอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ (เหมือนกับจิตตสมุฏฐานทุกะ ไม่มีข้อแตกต่างกัน)
อธิปติปัจจัย
[๒๕๙] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับ จิตโดยอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ (พึงเพิ่มอารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ) สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิต โดยอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ (สำหรับวาระทั้ง ๓ นี้ พึงเพิ่มอารัมมณาธิปติและ สหชาตาธิปติ ทั้ง ๙ วาระก็เหมือนกับจิตตสมุฏฐานทุกะ ในที่สุด มี ๓ วาระ มีเฉพาะอารัมมณาธิปติ)
อนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๒๖๐] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อม กับจิตโดยอนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ (เหมือนกับจิตตสมุฏฐานทุกะ ไม่มีข้อ แตกต่างกัน) เป็นปัจจัยโดยสมนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ (เหมือนกับปฏิจจวาร) เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ (เหมือนกับปฏิจจวาร) เป็นปัจจัยโดย อัญญมัญญปัจจัย มี ๙ วาระ (เหมือนกับปฏิจจวาร) เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ (เหมือนกับปัจจยวาร) เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ (เหมือนกับจิตตสมุฏฐานทุกะ)
ปุเรชาตปัจจัย
[๒๖๑] สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิด พร้อมกับจิตโดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่างคือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ มี ๓ วาระ (ได้เฉพาะมูล คือ สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเหมือนกับจิตต- สมุฏฐานทุกะ มี ๓ วาระ ไม่มีข้อแตกต่างกัน) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๑๔๖}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๑. จิตตสหภูทุกะ ๗. ปัญหาวาร

ปัจฉาชาตปัจจัยและอาเสวนปัจจัย
[๒๖๒] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับ จิตโดยปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับ จิตเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑) สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิต โดยปัจฉาชาตปัจจัย ฯลฯ (๑) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม ที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยปัจฉาชาตปัจจัย (ย่อ) เป็นปัจจัยโดยอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ
กัมมปัจจัย
[๒๖๓] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับ จิตโดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ จิตตสมุฏฐานรูปที่เกิดพร้อมกับจิตโดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่ง เกิดพร้อมกับจิตโดยกัมมปัจจัย (๑) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิต โดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่จิตและจิตตสมุฏฐานรูป ที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่จิตที่เป็นวิบากและ กฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย (๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๑๔๗}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๑. จิตตสหภูทุกะ ๗. ปัญหาวาร

สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ จิตและจิตตสมุฏฐานรูปที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบาก จิต และกฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย (๓)
วิปากปัจจัยเป็นต้น
[๒๖๔] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อม กับจิตโดยวิปากปัจจัย (เหมือนกับจิตตสมุฏฐานทุกะ) เป็นปัจจัยโดยอาหารปัจจัย มี ๙ วาระ (เหมือนกับจิตตสมุฏฐานทุกะ แม้ทุกะนี้ก็มี ๑ วาระ เหมือนกับ กวฬิงการาหาร) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตโดย อินทรียปัจจัย มี ๙ วาระ (เหมือนกับจิตตสมุฏฐานทุกะ ไม่มีข้อแตกต่างกัน) เป็นปัจจัยโดยฌานปัจจัย มี ๓ วาระ เป็นปัจจัยโดยมัคคปัจจัย มี ๓ วาระ เป็นปัจจัยโดยสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย
[๒๖๕] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อม กับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับ จิตเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย (๑) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิต โดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๑๔๘}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๑. จิตตสหภูทุกะ ๗. ปัญหาวาร

สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่ เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งไม่ เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย (๒) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อม กับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย (๓) [๒๖๖] สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อม กับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ และปัจฉาชาตะ สหชาตะ ได้แก่ จิตเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดย วิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ จิตเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยวิปปยุตตปัจจัย จิตเป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิตโดย วิปปยุตตปัจจัย ปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยวิปปยุตตปัจจัย ฯลฯ กายายตนะ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิตโดยวิปปยุตตปัจจัย ปัจฉาชาตะ ได้แก่ จิตเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งไม่เกิดพร้อมกับจิตโดย วิปปยุตตปัจจัย (๑) สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิต โดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ สหชาตะ ได้แก่ จิตเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่เกิดพร้อมกับจิตโดย วิปปยุตตปัจจัย ปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณโดย วิปปยุตตปัจจัย ฯลฯ กายายตนะ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เกิดพร้อม กับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย (๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๑๔๙}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๑. จิตตสหภูทุกะ ๗. ปัญหาวาร

สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิต และที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ สหชาตะ ได้แก่ จิตเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่ เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณและสัมปยุตตขันธ์ โดยวิปปยุตตปัจจัย ฯลฯ กายายตนะ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิตและ สัมปยุตตขันธ์โดยวิปปยุตตปัจจัย (๓) [๒๖๗] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่ สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับจิตและจิตเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่เกิดพร้อมกับ จิตโดยวิปปยุตตปัจจัย (๑) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม ที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับจิตที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตและจิตเป็นปัจจัย แก่จิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับจิตที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตและจิตเป็น ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย (๒) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม ที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อม กับจิตที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตและจิตเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่เกิดพร้อมกับจิตและ ที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยวิปปยุตตปัจจัย (๓)
อัตถิปัจจัย
[๒๖๘] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิต โดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เกิดพร้อมกับจิต ฯลฯ (เหมือนกับปฏิจจวาร) (๑) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๑๕๐}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๑. จิตตสหภูทุกะ ๗. ปัญหาวาร

สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิต โดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ (ย่อ) (๒) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เกิดพร้อมกับจิต ฯลฯ (เหมือนกับปฏิจจวาร) (๓) สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิต โดยอัตถิปัจจัย มี ๕ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ (ย่อ) (๑) สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิต โดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ (ย่อ) (๒) สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิต และที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ (ย่อ) (๓) [๒๖๙] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่ สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ จักขายตนะและ จักขุวิญญาณเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ (ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่มทั้งหมด คือทั้งสหชาตะและปุเรชาตะ) (๑) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม ที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอัตถิปัจจัย มี ๕ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณและจักขายตนะเป็นปัจจัยแก่ จักขุวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ ฯลฯ ขันธ์ที่เกิดพร้อม กับจิตและจิตเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอัตถิปัจจัย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๑๕๑}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๑. จิตตสหภูทุกะ ๗. ปัญหาวาร

สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับจิตและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่จิตโดย อัตถิปัจจัย สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับจิตและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตต- สมุฏฐานรูปที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอัตถิปัจจัย (ในปฏิสนธิขณะ พึงเพิ่ม เป็น ๓ วาระ) ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับจิตที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตและจิตเป็น ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอัตถิปัจจัย ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับจิตและกวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่ กายนี้ที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอัตถิปัจจัย ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกับจิตและรูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่ กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๒) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม ที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะ และปุเรชาตะ สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณและจักขายตนะ ฯลฯ (เหมือนกับปัจจยวาร) (๓)
๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๒๗๐] เหตุปัจจัย มี ๓ วาระ อารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ อนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ สมนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๑๕๒}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๑. จิตตสหภูทุกะ ๗. ปัญหาวาร

สหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ อัญญมัญญปัจจัย มี ๙ วาระ นิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ อุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ ปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ อาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ กัมมปัจจัย มี ๓ วาระ วิปากปัจจัย มี ๙ วาระ อาหารปัจจัย มี ๙ วาระ อินทรียปัจจัย มี ๙ วาระ ฌานปัจจัย มี ๓ วาระ มัคคปัจจัย มี ๓ วาระ สัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ วิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ อัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ นัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ วิคตปัจจัย มี ๙ วาระ อวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ
อนุโลม จบ
๒. ปัจจนียุทธาร
[๒๗๑] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับ จิตโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย (๑) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิต โดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย และ กัมมปัจจัย (๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๑๕๓}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๑. จิตตสหภูทุกะ ๗. ปัญหาวาร

สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและ ที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และ กัมมปัจจัย (๓) [๒๗๒] สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เกิด พร้อมกับจิตโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปุเรชาตปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย อาหารปัจจัย และอินทรียปัจจัย (๑) สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิต โดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และปุเรชาตปัจจัย (๒) สภาวธรรมที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิต และที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และปุเรชาตปัจจัย (๓) [๒๗๓] สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัย แก่สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย และอุปนิสสย- ปัจจัย (๑) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม ที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และ ปัจฉาชาตปัจจัย (๒) สภาวธรรมที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม ที่เกิดพร้อมกับจิตและที่ไม่เกิดพร้อมกับจิตโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย และ อุปนิสสยปัจจัย (๓)
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
[๒๗๔] นเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ นอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๙ วาระ) โนอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๓ หน้า : ๑๕๔}

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน]

๖๒. จิตตานุปริวัตติทุกะ ๑. ปฎิจจวาร

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
[๒๗๕] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ นอธิปติปัจจัย ” มี ๓ วาระ นอนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ นสมนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๓ วาระ นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๓ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๓ วาระ) นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ โนนัตถิปัจจัย ” มี ๓ วาระ โนวิคตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
[๒๗๖] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ (พึงเพิ่มบทอนุโลมมาติกา)
จิตตสหภูทุกะ จบ


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๔๓ หน้าที่ ๑๔๕-๑๕๕. http://84000.org/tipitaka/pitaka3/m_siri.php?B=43&siri=24              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=43&A=3308&Z=3545                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=43&i=0              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=43&item=207&items=16              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=43&item=207&items=16                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๓ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu43



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :