ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๔ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๑ ธรรมสังคณีปกรณ์
มาติกา
เอกกมาติกา
[๕๐๓] รูปทั้งหมด ไม่ใช่เหตุ ไม่มีเหตุ วิปปยุตจากเหตุ เป็นไปกับด้วยปัจจัย เป็นสังขตธรรม เป็นรูปธรรม เป็นโลกิยะธรรม เป็นอารมณ์ของอาสวะ เป็นอารมณ์ของ สัญโญชน์ เป็นอารมณ์ของคันถะ เป็นอารมณ์ของโอฆะ เป็นอารมณ์ของโยคะ เป็นอารมณ์ ของนิวรณ์ เป็นอารมณ์ของปรามาส เป็นอารมณ์ของอุปาทาน เป็นอารมณ์ของสังกิเลส เป็น อัพยากตธรรม ไม่มีอารมณ์ ไม่ใช่เจตสิก วิปปยุตจากจิต ไม่ใช่วิบาก และไม่ใช่ธรรมเป็นเหตุ แห่งวิบาก ไม่เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของสังกิเลส ไม่ใช่ธรรมมีทั้งวิตกทั้งวิจาร ไม่ใช่ธรรม ไม่มีวิตก แต่มีวิจาร ไม่มีทั้งวิตกวิจาร ไม่ใช่ธรรมที่สหรคตด้วยปีติ ไม่ใช่ธรรมที่สหรคต ด้วยสุข ไม่ใช่ธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขา อันโสดาปัตติมรรค และมรรคเบื้องบน ๓ ไม่ ประหาณ ไม่มีสัมปยุตตเหตุอันโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ประหาณ ไม่เป็นเหตุให้ จุติปฏิสนธิและไม่เป็นเหตุให้ถึงนิพพาน ไม่เป็นของเสกขบุคคลและไม่เป็นของอเสกขบุคคล เป็นปริตตธรรม เป็นกามาวจรธรรม ไม่ใช่รูปาวจรธรรม ไม่ใช่อรูปาวจรธรรม เป็นปริยาปันน- *ธรรม ไม่ใช่อปริยาปันนธรรม เป็นอนิยตธรรม เป็นอนิยยานิกธรรม เป็นปัจจุปันนธรรม อัน วิญญาณ ๖ พึงรู้ ไม่เที่ยง อันชราครอบงำแล้ว สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๑ อย่างนี้.
เอกกมาติกา จบ.
-----------------------------------------------------
ทุกมาติกา
[๕๐๔] สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๒ รูปเป็นอุปาทา [อุปาทายรูป] ก็มี รูปเป็นอนุปาทาก็มี รูปเป็นอุปาทินนะ ๑- ก็มี รูปเป็นอนุปาทินนะก็มี รูปเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ ๒- ก็มี รูปเป็นอนุปาทินนุปาทานิยะก็มี รูปเป็นสนิทัสสนะ ๓- ก็มี รูปเป็นอนิทัสสนะก็มี รูปเป็นสัปปฏิฆะ ๔- ก็มี รูปเป็นอัปปฏิฆะก็มี รูปเป็นอินทรีย์ก็มี รูปไม่เป็นอินทรีย์ก็มี รูปเป็นมหาภูตก็มี รูปไม่เป็นมหาภูตก็มี รูปเป็นวิญญัติก็มี รูปไม่เป็นวิญญัติก็มี รูปเป็นจิตตสมุฏฐานก็มี รูปไม่เป็นจิตตสมุฏฐานก็มี รูปเป็นจิตตสหภู ๕- ก็มี รูปไม่เป็นจิตตสหภูก็มี รูปเป็นจิตตานุปริวัติก็มี รูปไม่เป็นจิตตานุปริวัติก็มี รูปเป็นภายในก็มี รูปเป็นภายนอกก็มี รูปหยาบก็มี รูปละเอียดก็มี รูปไกลก็มี รูปใกล้ก็มี รูปเป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัสก็มี รูปไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัสก็มี รูปเป็นที่อาศัยเกิดของเวทนา อันเกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของ เจตนา ฯลฯ ของจักขุวิญญาณก็มี รูปไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุวิญญาณก็มี รูปเป็นที่อาศัยเกิดของโสตสัมผัส ฯลฯ ของฆานสัมผัส ฯลฯ ของชิวหาสัมผัส ฯลฯ ของกายสัมผัสก็มี รูปไม่เป็นที่อาศัยเกิดของกายสัมผัสก็มี รูปเป็นที่อาศัยเกิดของเวทนา อันเกิดแต่กายสัมผัส ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของ เจตนา ฯลฯ ของกายวิญญาณก็มี รูปไม่เป็นที่อาศัยเกิดของกายวิญญาณก็มี รูปเป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัสก็มี รูปไม่เป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัสก็มี @๑. ดูคำแปล หน้า ๑๖ ๒. ดูคำแปล หน้า ๒ @๓. ดูคำแปล หน้า ๖ ๔. ดูคำแปล หน้า ๗ @๕. ดูคำแปล หน้า ๑๕ รูปเป็นอารมณ์ของเวทนา อันเกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของจักขุวิญญาณก็มี รูปไม่เป็นอารมณ์ของจักขุวิญญาณก็มี รูปเป็นอารมณ์ของโสตสัมผัส ฯลฯ ของฆานสัมผัส ฯลฯ ของชิวหาสัมผัส ฯลฯ ของ กายสัมผัสก็มี รูปไม่เป็นอารมณ์ของกายสัมผัสก็มี รูปเป็นอารมณ์ของเวทนา อันเกิดแต่กายสัมผัส ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของกายวิญญาณก็มี รูปไม่เป็นอารมณ์ของกายวิญญาณก็มี รูปเป็นจักขายตนะก็มี รูปไม่เป็นจักขายตนะก็มี รูปเป็นโสตายตนะก็มี รูปไม่เป็นโสตายตนะก็มี รูปเป็นฆานายตนะ ฯลฯ เป็นชิวหายตนะ ฯลฯ เป็นกายายตนะก็มี รูปไม่เป็นกายายตนะ ก็มี รูปเป็นรูปายตนะก็มี รูปไม่เป็นรูปายตนะก็มี รูปเป็นสัททายตนะ ฯลฯ เป็นคันธายตนะ ฯลฯ เป็นรสายตนะ ฯลฯ เป็นโผฏฐัพพา- *ยตนะก็มี รูปไม่เป็นโผฏฐัพพายตนะก็มี รูปเป็นจักขุธาตุก็มี รูปไม่เป็นจักขุธาตุก็มี รูปเป็นโสตธาตุ ฯลฯ เป็นฆานธาตุ ฯลฯ เป็นชิวหาธาตุ ฯลฯ เป็นกายธาตุก็มี รูป ไม่เป็นกายธาตุก็มี รูปเป็นรูปธาตุก็มี รูปไม่เป็นรูปธาตุก็มี รูปเป็นสัททธาตุ ฯลฯ เป็นคันธธาตุ ฯลฯ เป็นรสธาตุ ฯลฯ เป็นโผฏฐัพพธาตุก็มี รูปไม่เป็นโผฏฐัพพธาตุก็มี รูปเป็นจักขุนทรีย์ก็มี รูปไม่เป็นจักขุนทรีย์ก็มี รูปเป็นโสตินทรีย์ ฯลฯ เป็นฆานินทรีย์ ฯลฯ เป็นชิวหินทรีย์ ฯลฯ เป็นกายินทรีย์ก็มี รูปไม่เป็นกายินทรีย์ก็มี รูปเป็นอิตถินทรีย์ก็มี รูปไม่เป็นอิตถินทรีย์ก็มี รูปเป็นปุริสินทรีย์ก็มี รูปไม่เป็นปุริสินทรีย์ก็มี รูปเป็นชีวิตินทรีย์ก็มี รูปไม่เป็นชีวิตินทรีย์ก็มี รูปเป็นกายวิญญัติก็มี รูปไม่เป็นกายวิญญัติก็มี รูปเป็นวจีวิญญัติก็มี รูปไม่เป็นวจีวิญญัติก็มี รูปเป็นอากาสธาตุก็มี รูปไม่เป็นอากาสธาตุก็มี รูปเป็นอาโปธาตุก็มี รูปไม่เป็นอาโปธาตุก็มี รูปเป็นรูปลหุตาก็มี รูปไม่เป็นรูปลหุตาก็มี รูปเป็นรูปมุทุตาก็มี รูปไม่เป็นรูปมุทุตาก็มี รูปเป็นรูปกัมมัญญตาก็มี รูปไม่เป็นรูปกัมมัญญตาก็มี รูปเป็นรูปอุปจยะก็มี รูปไม่เป็นรูปอุปจยะก็มี รูปเป็นรูปสันตติก็มี รูปไม่เป็นรูปสันตติก็มี รูปเป็นรูปชรตาก็มี รูปไม่เป็นรูปชรตาก็มี รูปเป็นรูปอนิจจตาก็มี รูปไม่เป็นรูปอนิจจตาก็มี รูปเป็นรูปกพฬิงการาหารก็มี รูปไม่เป็นกพฬิงการาหารก็มี
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๒ อย่างนี้.
ทุกมาติกา จบ.
-----------------------------------------------------
ติกมาติกา
[๕๐๕] สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๓ รูปภายในเป็นอุปาทา, รูปภายนอกที่เป็นอุปาทาก็มี, ที่เป็นอนุปาทาก็มี รูปภายในเป็นอุปาทินนะ, รูปภายนอกที่เป็นอุปาทินนะก็มี, ที่เป็นอนุปาทินนะก็มี รูปภายในเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ, รูปภายนอกที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยะก็มี ที่เป็น อนุปาทินนุปาทานิยะก็มี รูปภายในเป็นอนิทัสสนะ, รูปภายนอกที่เป็นสนิทัสสนะก็มี, ที่เป็นอนิทัสสนะก็มี รูปภายในเป็นสัปปฏิฆะ, รูปภายนอกที่เป็นสัปปฏิฆะก็มี, ที่เป็นอัปปฏิฆะก็มี รูปภายในเป็นอินทรีย์, รูปภายนอกที่เป็นอินทรีย์ก็มี, ที่ไม่เป็นอินทรีย์ก็มี รูปภายในไม่เป็นมหาภูต, รูปภายนอกที่เป็นมหาภูตก็มี, ที่ไม่เป็นมหาภูตก็มี รูปภายในไม่เป็นวิญญัติ, รูปภายนอกที่เป็นวิญญัติก็มี, ที่ไม่เป็นวิญญัติก็มี รูปภายในไม่เป็นจิตตสมุฏฐาน, รูปภายนอกที่เป็นจิตตสมุฏฐานก็มี, ที่ไม่เป็นจิตต- *สมุฏฐานก็มี รูปภายในไม่เป็นจิตตสหภู, รูปภายนอกที่เป็นจิตตสหภูก็มี, ที่ไม่เป็นจิตตสหภูก็มี รูปภายในไม่เป็นจิตตานุปริวัติ, รูปภายนอกที่เป็นจิตตานุปริวัติก็มี, ที่ไม่เป็นจิตตา- *นุปริวัติก็มี รูปภายในหยาบ, รูปภายนอกที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี รูปภายในอยู่ใกล้, รูปภายนอกที่อยู่ไกลก็มี, ที่อยู่ใกล้ก็มี รูปภายนอกไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัส, รูปภายในเป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัส ก็มี, ไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัสก็มี รูปภายนอกไม่เป็นที่อาศัยเกิดของเวทนา อันเกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของจักขุวิญญาณ, รูปภายในเป็นที่อาศัยเกิดของจักขุวิญญาณก็มี, ไม่เป็นที่ อาศัยเกิดของจักขุวิญญาณก็มี รูปภายนอกไม่เป็นที่อาศัยเกิดของโสตสัมผัส ฯลฯ ของฆานสัมผัส ฯลฯ ของชิวหา สัมผัส ฯลฯ ของกายสัมผัส, รูปภายในเป็นที่อาศัยเกิดของกายสัมผัสก็มี, ไม่เป็นที่อาศัยเกิด ของกายสัมผัสก็มี รูปภายนอกไม่เป็นที่อาศัยเกิดของเวทนา อันเกิดแต่กายสัมผัส ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของกายวิญญาณ, รูปภายในเป็นที่อาศัยเกิดของกายวิญญาณก็มี ไม่เป็นที่ อาศัยเกิดของกายวิญญาณก็มี รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัส, รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัสก็มี, ที่ไม่เป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัสก็มี รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของเวทนา อันเกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของจักขุวิญญาณ, รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของจักขุวิญญาณก็มี, ที่ไม่เป็น อารมณ์ของจักขุวิญญาณก็มี รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของโสตสัมผัส ฯลฯ ของฆานสัมผัส ฯลฯ ของชิวหาสัมผัส ฯลฯ ของกายสัมผัส, รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของกายสัมผัสก็มี, ที่ไม่เป็นอารมณ์ของกาย สัมผัสก็มี รูปภายในไม่เป็นอารมณ์ของเวทนา อันเกิดแต่กายสัมผัส ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของกายวิญญาณ, รูปภายนอกที่เป็นอารมณ์ของกายวิญญาณก็มี, ที่ไม่เป็น อารมณ์ของกายวิญญาณก็มี รูปภายนอกไม่เป็นจักขายตนะ, รูปภายในที่เป็นจักขายตนะก็มี, ที่ไม่เป็นจักขายตนะก็มี รูปภายนอกไม่เป็นโสตายตนะ ฯลฯ ไม่เป็นฆานายตนะ ฯลฯ ไม่เป็นชิวหายตนะ ฯลฯ ไม่เป็นกายายตนะ, รูปภายในที่เป็นกายายตนะก็มี, ที่ไม่เป็นกายายตนะก็มี รูปภายในไม่เป็นรูปายตนะ, รูปภายนอกที่เป็นรูปายตนะก็มี, ที่ไม่เป็นรูปายตนะก็มี รูปภายในไม่เป็นสัททายตนะ ฯลฯ ไม่เป็นคันธายตนะ ฯลฯ ไม่เป็นรสายตนะ ฯลฯ ไม่เป็นโผฏฐัพพายตนะ, รูปภายนอกที่เป็นโผฏฐัพพายตนะก็มี, ที่ไม่เป็นโผฏฐัพพายตนะก็มี รูปภายนอกไม่เป็นจักขุธาตุ, รูปภายในที่เป็นจักขุธาตุก็มี, ที่ไม่เป็นจักขุธาตุก็มี รูปภายนอกไม่เป็นโสตธาตุ ฯลฯ ไม่เป็นฆานธาตุ ฯลฯ ไม่เป็นชิวหาธาตุ ฯลฯ ไม่เป็นกายธาตุ, รูปภายในที่เป็นกายธาตุก็มี, ที่ไม่เป็นกายธาตุก็มี รูปภายในไม่เป็นรูปธาตุ, รูปภายนอกที่เป็นรูปธาตุก็มี, ที่ไม่เป็นรูปธาตุก็มี รูปภายในไม่เป็นสัททธาตุ ฯลฯ ไม่เป็นคันธธาตุ ฯลฯ ไม่เป็นรสธาตุ ฯลฯ ไม่เป็น โผฏฐัพพธาตุ, รูปภายนอกที่เป็นโผฏฐัพพธาตุก็มี, ที่ไม่เป็นโผฏฐัพพธาตุก็มี รูปภายนอกไม่เป็นจักขุนทรีย์, รูปภายในที่เป็นจักขุนทรีย์ก็มี, ที่ไม่เป็นจักขุนทรีย์ก็มี รูปภายนอกไม่เป็นโสตินทรีย์ ฯลฯ ไม่เป็นฆานินทรีย์ ฯลฯ ไม่เป็นชิวหินทรีย์ ฯลฯ ไม่เป็นกายินทรีย์, รูปภายในที่เป็นกายินทรีย์ก็มี, ที่ไม่เป็นกายินทรีย์ก็มี รูปภายในไม่เป็นอิตถินทรีย์, รูปภายนอกที่เป็นอิตถินทรีย์ก็มี, ที่ไม่เป็นอิตถินทรีย์ก็มี รูปภายในไม่เป็นปุริสินทรีย์, รูปภายนอกที่เป็นปุริสินทรีย์ก็มี, ที่ไม่เป็นปุริสินทรีย์ก็มี รูปภายในไม่เป็นชีวิตินทรีย์, รูปภายนอกที่เป็นชีวิตินทรีย์ก็มี, ที่ไม่เป็นชีวิตินทรีย์ก็มี รูปภายในไม่เป็นกายวิญญัติ, รูปภายนอกที่เป็นกายวิญญัติก็มี, ที่ไม่เป็นกายวิญญัติก็มี รูปภายในไม่เป็นวจีวิญญัติ, รูปภายนอกที่เป็นวจีวิญญัติก็มี, ที่ไม่เป็นวจีวิญญัติก็มี รูปภายในไม่เป็นอากาสธาตุ, รูปภายนอกที่เป็นอากาสธาตุก็มี, ที่ไม่เป็นอากาสธาตุก็มี รูปภายในไม่เป็นอาโปธาตุ, รูปภายนอกที่เป็นอาโปธาตุก็มี, ที่ไม่เป็นอาโปธาตุก็มี รูปภายในไม่เป็นรูปลหุตา, รูปภายนอกที่เป็นรูปลหุตาก็มี, ที่ไม่เป็นรูปลหุตาก็มี รูปภายในไม่เป็นรูปมุทุตา, รูปภายนอกที่เป็นรูปมุทุตาก็มี, ที่ไม่เป็นรูปมุทุตาก็มี รูปภายในไม่เป็นรูปกัมมัญญตา, รูปภายนอกที่เป็นรูปกัมมัญญตาก็มี, ที่ไม่เป็นรูป กัมมัญญตาก็มี รูปภายในไม่เป็นรูปอุปจยะ, รูปภายนอกที่เป็นรูปอุปจยะก็มี, ที่ไม่เป็นรูปอุปจยะก็มี รูปภายในไม่เป็นรูปสันตติ, รูปภายนอกที่เป็นรูปสันตติก็มี, ที่ไม่เป็นรูปสันตติก็มี รูปภายในไม่เป็นรูปชรตา, รูปภายนอกที่เป็นรูปชรตาก็มี, ที่ไม่เป็นรูปชรตาก็มี รูปภายในไม่เป็นรูปอนิจจตา, รูปภายนอกที่เป็นรูปอนิจจตาก็มี, ที่ไม่เป็นรูปอนิจจตาก็มี รูปภายในไม่เป็นกพฬิงการาหาร, รูปภายนอกที่เป็นกพฬิงการาหารก็มี ที่ไม่เป็น กพฬิงการาหารก็มี
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๓ อย่างนี้.
ติกมาติกา จบ.
-----------------------------------------------------
จตุกกมาติกา
[๕๐๖] สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๔ รูปเป็นอุปาทา ที่เป็นอุปาทินนะก็มี, ที่เป็นอนุปาทินนะก็มี, รูปเป็นอนุปาทา ที่เป็น อุปาทินนะก็มี, ที่เป็นอนุปาทินนะก็มี รูปเป็นอุปาทา ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยะก็มี, ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยะก็มี, รูปเป็น อนุปาทา ที่เป็นอุปาทินนุปาทานิยะก็มี, ที่เป็นอนุปาทินนุปาทานิยะก็มี รูปเป็นอุปาทา ที่เป็นสัปปฏิฆะก็มี, ที่เป็นอัปปฏิฆะก็มี, รูปเป็นอนุปาทา ที่เป็นสัปปฏิฆะ ก็มี, ที่เป็นอัปปฏิฆะก็มี รูปเป็นอุปาทา ที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี, รูปเป็นอนุปาทา ที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี รูปเป็นอุปาทา ที่อยู่ไกลก็มี, ที่อยู่ใกล้ก็มี, รูปเป็นอนุปาทา ที่อยู่ไกลก็มี ที่อยู่ใกล้ก็มี รูปเป็นอุปาทินนะ ที่เป็นสนิทัสสนะก็มี, ที่เป็นอนิทัสสนะก็มี, รูปเป็นอนุปาทินนะ ที่เป็นสนิทัสสนะก็มี, ที่เป็นอนิทัสสนะก็มี รูปเป็นอุปาทินนะ ที่เป็นสัปปฏิฆะก็มี, ที่เป็นอัปปฏิฆะก็มี, รูปเป็นอนุปาทินนะ ที่เป็น สัปปฏิฆะก็มี, ที่เป็นอัปปฏิฆะก็มี รูปเป็นอุปาทินนะ ที่เป็นมหาภูตก็มี, ที่ไม่เป็นมหาภูตก็มี, รูปเป็นอนุปาทินนะ ที่เป็น มหาภูตก็มี, ที่ไม่เป็นมหาภูตก็มี รูปเป็นอุปาทินนะ ที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี, รูปเป็นอนุปาทินนะ ที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี รูปเป็นอุปาทินนะ ที่อยู่ไกลก็มี, ที่อยู่ใกล้ก็มี, รูปเป็นอนุปาทินนะ ที่อยู่ไกลก็มี, ที่อยู่ใกล้ก็มี รูปเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ ที่เป็นสนิทัสสนะก็มี, ที่เป็นอนิทัสสนะก็มี, รูปเป็น อนุปาทินนุปาทานิยะ ที่เป็นสนิทัสสนะก็มี, ที่เป็นอนิทัสสนะก็มี รูปเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ ที่เป็นสัปปฏิฆะก็มี, ที่เป็นอัปปฏิฆะก็มี, รูปเป็น อนุปาทินนุปาทานิยะ ที่เป็นสัปปฏิฆะก็มี, ที่เป็นอัปปฏิฆะก็มี รูปเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ ที่เป็นมหาภูตก็มี, ที่ไม่เป็นมหาภูตก็มี, รูปเป็น อนุปาทินนุปาทานิยะ ที่เป็นมหาภูตก็มี, ที่ไม่เป็นมหาภูตก็มี รูปเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ ที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี, รูปเป็นอนุปาทินนุปาทานิยะ ที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี รูปเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ ที่อยู่ไกลก็มี, ที่อยู่ใกล้ก็มี, รูปเป็นอนุปาทินนุปาทานิยะ ที่อยู่ไกลก็มี, ที่อยู่ใกล้ก็มี รูปกระทบได้ ที่เป็นอินทรีย์ก็มี, ที่ไม่เป็นอินทรีย์ก็มี, รูปกระทบไม่ได้ ที่เป็นอินทรีย์ ก็มี, ที่ไม่เป็นอินทรีย์ก็มี รูปกระทบได้ ที่เป็นมหาภูตก็มี, ที่ไม่เป็นมหาภูตก็มี, รูปกระทบไม่ได้ ที่เป็นมหาภูตก็มี, ที่ไม่เป็นมหาภูตก็มี รูปเป็นอินทรีย์ ที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี, รูปไม่เป็นอินทรีย์ ที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี รูปเป็นอินทรีย์ ที่อยู่ไกลก็มี, ที่อยู่ใกล้ก็มี, รูปไม่เป็นอินทรีย์ ที่อยู่ไกลก็มี, ที่อยู่ใกล้ก็มี รูปเป็นมหาภูต ที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี, รูปไม่เป็นมหาภูต ที่หยาบก็มี, ที่ละเอียดก็มี รูปเป็นมหาภูต ที่อยู่ไกลก็มี, ที่อยู่ใกล้ก็มี, รูปไม่เป็นมหาภูต ที่อยู่ไกลก็มี, ที่อยู่ใกล้ก็มี รูปที่เห็นได้, รูปที่ฟังได้, รูปที่รู้ได้, รูปที่รู้แจ้งได้
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๔ อย่างนี้.
จตุกกมาติกา จบ.
-----------------------------------------------------
ปัญจกมาติกา
[๕๐๗] สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๕ ปฐวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ และรูปที่เป็นอุปาทา
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๕ อย่างนี้.
ปัญจกมาติกา จบ.
-----------------------------------------------------
ฉักกมาติกา
[๕๐๘] สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๖ รูปอันจักขุวิญญาณพึงรู้, รูปอันโสตวิญญาณพึงรู้, รูปอันฆานวิญญาณพึงรู้, รูปอันชิวหา วิญญาณพึงรู้, รูปอันกายวิญญาณพึงรู้ รูปอันมโนวิญญาณพึงรู้
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๖ อย่างนี้.
ฉักกมาติกา จบ.
-----------------------------------------------------
สัตตกมาติกา
[๕๐๙] สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๗ รูปอันจักขุวิญญาณพึงรู้, รูปอันโสตวิญญาณพึงรู้, รูปอันฆานวิญญาณพึงรู้, รูปอัน ชิวหาวิญญาณพึงรู้, รูปอันกายวิญญาณพึงรู้, รูปอันมโนธาตุพึงรู้, รูปอันมโนวิญญาณธาตุพึงรู้
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๗ อย่างนี้.
สัตตกมาติกา จบ.
-----------------------------------------------------
อัฏฐกมาติกา
[๕๑๐] สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๘ รูปอันจักขุวิญญาณพึงรู้, รูปอันโสตวิญญาณพึงรู้, รูปอันฆานวิญญาณพึงรู้, รูปอัน ชิวหาวิญญาณพึงรู้, รูปอันกายวิญญาณพึงรู้ ที่มีสัมผัสเป็นสุขก็มี, ที่มีสัมผัสเป็นทุกข์ก็มี, รูปอันมโนธาตุพึงรู้ รูปอันมโนวิญญาณธาตุพึงรู้
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๘ อย่างนี้.
อัฏฐกมาติกา จบ.
-----------------------------------------------------
นวกมาติกา
[๕๑๑] สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๙ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานินทรีย์, ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, อิตถินทรีย์, ปุริสินทรีย์, ชีวิตินทรีย์, และรูปที่ไม่เป็นอินทรีย์
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๙ อย่างนี้.
นวกมาติกา จบ.
-----------------------------------------------------
ทสกมาติกา
[๕๑๒] สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๑๐ จักขุนทรีย์, โสตินทรีย์, ฆานินทรีย์, ชิวหินทรีย์, กายินทรีย์, อิตถินทรีย์, ปุริสินทรีย์, ชีวิตินทรีย์, รูปไม่เป็นอินทรีย์ที่กระทบได้ก็มี, ที่กระทบไม่ได้ก็มี
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๑๐ อย่างนี้.
ทสกมาติกา จบ.
-----------------------------------------------------
เอกาทสกมาติกา
[๕๑๓] สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๑๑ จักขายตนะ, โสตายตนะ, ฆานายตนะ, ชิวหายตนะ, กายายตนะ, รูปายตนะ, สัททายตนะ, คันธายตนะ, รสายตนะ, โผฏฐัพพายตนะ, และรูปที่เป็นอนิทัสสนะ เป็น อัปปฏิฆะ แต่นับเนื่องในธัมมายตนะ
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ ๑๑ อย่างนี้.
เอกาทสกมาติกา จบ.
มาติกา จบ.
-----------------------------------------------------

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๔ บรรทัดที่ ๔๑๔๑-๔๓๙๓ หน้าที่ ๑๖๗-๑๗๗. https://84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=34&A=4141&Z=4393&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka3/m_siri.php?B=34&siri=48              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=34&i=503              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [503-513] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=34&item=503&items=11              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=53&A=8961              The Pali Tipitaka in Roman :- [503-513] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=34&item=503&items=11              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=53&A=8961              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๔ https://84000.org/tipitaka/read/?index_34              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/ds2.2.2/en/caf_rhysdavids

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :