ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๒ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๙ มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๓
ปัญหาวาร
[๒๗๐] อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย โดยเหตุปัจจัย ปฏิสนธิ อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย โดยเหตุปัจจัย ปฏิสนธิ อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม และอรูปีธรรม โดยเหตุปัจจัย คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตต- *สมุฏฐานรูปทั้งหลาย โดยเหตุปัจจัย ปฏิสนธิ [๒๗๑] รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ จักขุ ฯลฯ หทัยวัตถุ อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ อาโปธาตุ ฯลฯ กวฬิงการาหาร โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัส เกิดขึ้น บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ โดยอารัมมณปัจจัย โผฏฐัพพา- *ยตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ โดยอารัมมณปัจจัย ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ แก่ปุพเพนิวาสา- *นุสสติญาณ แก่อนาคตังสญาณ แก่อาวัชชนะ โดยอารัมมณปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอารัมมณปัจจัย คือ บุคคลให้ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรม ฯลฯ แล้ว พิจารณาซึ่งกุศลกรรมนั้น บุคคลพิจารณาซึ่งกุศลกรรมทั้งหลาย ที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อน จากฌาน ฯลฯ พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค ฯลฯ แล้วพิจารณาผล นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู แก่โวทาน แก่มรรค แก่ผล แก่ อาวัชชนะ โดยอารัมมณปัจจัย พระอริยะทั้งหลายพิจารณากิเลสที่ละแล้ว ฯลฯ กิเลสที่ข่มแล้ว ฯลฯ กิเลสทั้งหลายที่เคยเกิดขึ้นแล้วในกาลก่อน ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัส เกิดขึ้น บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิต ที่เป็นอรูปีธรรม โดยเจโต- *ปริยญาณ อากาสานัญจายตนะ เป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ แก่เจโตปริย- *ญาณ แก่บุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมุปคญาณ แก่อนาคตตังสญาณ แก่อาวัชชนะ โดยอารัมมณปัจจัย [๒๗๒] รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ จักขุ ฯลฯ บุคคลกระทำ กวฬิงการาหารให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำความยินดีนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะ เกิดขึ้น ทิฏฐิ เกิดขึ้น อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ สหชาตาธิปติ ที่เป็นอารัมมณาธิปติ ได้แก่ ทาน ฯลฯ นิพพาน เป็นปัจจัยแก่มรรค แก่ผล โดยอธิปติปัจจัย บุคคลกระทำขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นอรูปีธรรมให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น แล้ว ย่อมยินดี ฯลฯ ราคะ เกิดขึ้น ทิฏฐิ เกิดขึ้น ที่เป็นสหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัย แก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย โดยอธิปติปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย โดยอธิปติปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม และอรูปีธรรม โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิปติธรรมที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย โดยอธิปติปัจจัย [๒๗๓] อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอนันตรปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม ที่เกิดหลังๆ และแก่ผลสมาบัติ โดยอนันตรปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยสมนันตรปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยสหชาตปัจจัย มี ๗ นัย ในที่นี้ปัจจัยสงเคราะห์ไม่มี ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยอัญญมัญญปัจจัย มี ๖ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยนิสสยปัจจัย มี ๗ นัย ในที่นี้ปัจจัยสงเคราะห์ไม่มี [๒๗๔] รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็นปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลเข้าไปอาศัยฤดู ฯลฯ โภชนะ ฯลฯ เสนาสนะ แล้วให้ทาน ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ฤดู โภชนะ เสนาสนะ เป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ แก่ผล สมาบัติ โดยอุปนิสสยปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ ที่เป็นปกตูปนิสสยะ ได้แก่บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาแล้ว ให้ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ บุคคลเข้าไปอาศัยทุกข์ทางกายแล้ว ให้ทาน ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ศรัทธา ฯลฯ ทุกข์ทางกาย เป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ แก่ผลสมาบัติ โดยอุปนิสสยปัจจัย [๒๗๕] รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาต วัตถุปุเรชาต ที่เป็นอารัมมณปุเรชาต ได้แก่จักขุ ฯลฯ หทัยวัตถุ ฯลฯ กวฬิง- *การาหาร โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัส เกิดขึ้น บุคคลเห็นรูป ด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียง ด้วยทิพพโสตธาตุ รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัย แก่กายวิญญาณ ที่เป็นวัตถุปุเรชาต ได้แก่ จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ หทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็น อรูปีธรรม โดยปุเรชาตปัจจัย [๒๗๖] อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยปัจฉาชาตปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม ที่เกิดภายหลัง เป็นปัจจัยแก่กายนี้ ที่เกิดก่อน โดยปัจฉาชาตปัจจัย [๒๗๗] อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอาเสวนปัจจัย คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็น อรูปีธรรม ที่เกิดก่อนๆ ฯลฯ [๒๗๘] อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาต นานาขณิก ที่เป็นสหชาต ได้แก่ เจตนาที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต- *ขันธ์ทั้งหลาย โดยกัมมปัจจัย ที่เป็นนานาขณิก ได้แก่ เจตนาที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่วิบาก- *ขันธ์ทั้งหลาย โดยกัมมปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาต นานาขณิก ที่เป็นสหชาต ได้แก่ เจตนาที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตต- *สมุฏฐานรูปทั้งหลาย โดยกัมมปัจจัย ที่เป็นนานาขณิก ได้แก่ เจตนาที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่กฏัตตา- *รูปทั้งหลาย โดยกัมมปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม และอรูปีธรรม โดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาต นานาขณิก ที่เป็นสหชาต ได้แก่ เจตนาที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต- *ขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย โดยกัมมปัจจัย ที่เป็นนานาขณิก ได้แก่ เจตนาที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่วิบากขันธ์ และกฏัตตารูปทั้งหลาย โดยกัมมปัจจัย [๒๗๙] อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยวิปากปัจจัย มี ๓ นัย [๒๘๐] รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยอาหารปัจจัย คือ กวฬิงการาหาร เป็นปัจจัยแก่กายนี้ โดยอาหารปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอาหารปัจจัย มี ๓ นัย [๒๘๑] รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยอินทริยปัจจัย คือ รูปชีวิตินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลาย โดยอินทริยปัจจัย รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอินทริยปัจจัย คือ จักขุนทรีย์ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ กายินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่ กายวิญญาณ โดยอินทริยปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอินทริยปัจจัย มี ๓ นัย รูปีธรรมและอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอินทริยปัจจัย คือ จักขุนทรีย์ และจักขุวิญญาณ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลาย ที่ สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ โดยอินทริยปัจจัย กายินทรีย์ ฯลฯ [๒๘๒] อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยฌานปัจจัย มี ๓ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยมัคคปัจจัย มี ๓ นัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ นัย [๒๘๓] รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาต ปุเรชาต ที่เป็นสหชาต ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม โดยวิปปยุตตปัจจัย ที่เป็นปุเรชาต ได้แก่ จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ หทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็น อรูปีธรรม โดยวิปปยุตตปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาต ปัจฉาชาต ที่เป็นสหชาต ได้แก่ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัย แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย โดยวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลาย โดยวิปปยุตตปัจจัย ที่เป็นปัจฉาชาต ได้แก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่กาย นี้ ที่เกิดก่อน โดยวิปปยุตตปัจจัย [๒๘๔] รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยอัตถิปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ สหชาต อาหาร อินทรีย์ ที่เป็นสหชาต ได้แก่มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ ตลอดถึงอสัญญสัตว์ กวฬิงการาหาร เป็นปัจจัยแก่กายนี้ โดยอัตถิปัจจัย รูปชีวิตินทรีย์ เป็นปัจจัย แก่กฏัตตารูปทั้งหลาย โดยอัตถิปัจจัย รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาต ปุเรชาต ที่เป็นสหชาต ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม โดยอัตถิปัจจัย ที่เป็นปุเรชาต ได้แก่ จักขุ ฯลฯ กวฬิงการาหาร โดยความเป็น ของไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัส เกิดขึ้น ด้วยทิพพจักขุ ฯลฯ ด้วยทิพพโสตธาตุ ฯลฯ รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่ กายวิญญาณ จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่ กายวิญญาณ หทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม โดย อัตถิปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอัตถิปัจจัย คือ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาต ปัจฉาชาต ที่เป็นสหชาต ได้แก่ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่ จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย โดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ที่เป็นปัจฉาชาต ได้แก่ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่ กายนี้ ที่เกิดก่อน โดยอัตถิปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม และอรูปีธรรม โดยอัตถิปัจจัย คือ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐาน- *รูปทั้งหลาย โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ รูปีธรรม และอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ สหชาต ปัจฉาชาต อาหาร อินทรีย์ ที่เป็นสหชาต ได้แก่ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม และมหาภูตรูป ทั้งหลาย เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย โดยอัตถิปัจจัย ที่เป็นปัจฉาชาต ได้แก่ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม และกวฬิง- *การาหาร เป็นปัจจัยแก่กายนี้ โดยอัตถิปัจจัย ที่เป็นปัจฉาชาต ได้แก่ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปีธรรม และ รูปชีวิตินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลาย โดยอัตถิปัจจัย รูปีธรรม และอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาต ปุเรชาต ที่เป็นสหชาต ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ และ จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอรูปีธรรม ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ และหทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอรูปีธรรม และ หทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ ฯลฯ ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยนัตถิปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยวิคตปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัย โดยอวิคตปัจจัย [๒๘๕] ในเหตุปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๓ ในอารัมมณปัจจัย มี " ๒ ในอธิปติปัจจัย มี " ๔ ในอนันตรปัจจัย มี " ๑ ในสมนันตรปัจจัย มี " ๑ ในสหชาตปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๗ ในอัญญมัญญปัจจัย มี " ๖ ในนิสสยปัจจัย มี " ๗ ในอุปนิสสยปัจจัย มี " ๒ ในปุเรชาตปัจจัย มี " ๑ ในปัจฉาชาตปัจจัย มี " ๑ ในอาเสวนปัจจัย มี " ๑ ในกัมมปัจจัย มี " ๓ ในวิปากปัจจัย มี " ๓ ในอาหารปัจจัย มี " ๔ ในอินทริยปัจจัย มี " ๖ ในฌานปัจจัย มี " ๓ ในมัคคปัจจัย มี " ๓ ในสัมปยุตตปัจจัย มี " ๑ ในวิปปยุตตปัจจัย มี " ๒ ในอัตถิปัจจัย มี " ๗ ในนัตถิปัจจัย มี " ๑ ในวิคตปัจจัย มี " ๑ ในอวิคตปัจจัย มี " ๗ พึงนับอย่างนี้
อนุโลม จบ
[๒๘๖] รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็น ปัจจัยโดยอาหารปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอินทริยปัจจัย รูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เป็นปัจจัยโดย สหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยอารัมมณปัจจัย เป็นปัจจัยโดย สหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยโดยกัมมปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดย ปัจฉาชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยกัมมปัจจัย อรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดย กัมมปัจจัย รูปีธรรม และอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่รูปีธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยปัจฉาชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอาหารปัจจัย เป็นปัจจัยโดย อินทริยปัจจัย รูปีธรรม และอรูปีธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปีธรรม โดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย [๒๘๗] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มี " ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มี " ๙ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย มี " ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย มี " ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สหชาตปัจจัย มี " ๖ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัญญมัญญปัจจัย มี " ๖ ในปัจจัยที่ไม่ใช่นิสสยปัจจัย มี " ๖ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย มี " ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย มี " ๗ ฯลฯ ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย มี " ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย มี " ๖ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๕ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัตถิปัจจัย มี " ๔ ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย มี " ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย มี " ๗ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อวิคตปัจจัย มี " ๔ พึงนับอย่างนี้
ปัจจนียะ จบ
[๒๘๘] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓ ในปัจจัยทั้งปวง กับ ฯลฯ มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๑ ในปัจจัยที่ไม่ใช่นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓ ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓ พึงนับอย่างนี้
อนุโลม จบ
[๒๘๙] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๒ ในอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๔
พึงกระทำอนุโลมมาติกา
ในอวิคตปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๗
ปัจจนียานุโลม จบ
รูปีทุกะ จบ

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔๒ บรรทัดที่ ๔๖๙๒-๔๙๕๘ หน้าที่ ๑๙๒-๒๐๓. https://84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=42&A=4692&Z=4958&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/pitaka3/m_siri.php?B=42&siri=29              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=42&i=270              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [270-289] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=42&item=270&items=20              The Pali Tipitaka in Roman :- [270-289] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=42&item=270&items=20              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๒ https://84000.org/tipitaka/read/?index_42

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :