อรรถกถาเล่มที่ ๑๑ หน้าที่ ๒๐๘.

วสฺสคณนาปิ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพา:- ยเถว หิ สตํ สตสหสฺสานํ ^๑- โกฏิ โหติ, เอวํ สตํ สตสหสฺสโกฏิโย ปโกฏิ นาม โหติ, สตํ สตสหสฺสปโกฏิโย โกฏิปฺปโกฏิ นาม, สตํ สตสหสฺสโกฏิปฺปโกฏิโย นหุตํ, สตํ สตสหสฺสนหุตานิ นินฺนหุตํ, สตํ สตสหสฺสนินฺนหุตานิ เอกํ อพฺพุทํ, ตโต วีสติคุณํ นิรพฺพุทํ. เอเสว นโย สพฺพตฺถาติ. ทสมํ. ปโม วคฺโค. --------- ๒. ทุติยวคฺค ๑. สนงฺกุมารสุตฺตวณฺณนา [๑๘๒] ทุติยวคฺคสฺส ปเม สปฺปินีตีเรติ สปฺปินีนามิกาย นทิยา ตีเร. สนงฺกุมาโรติ โส กิร ปญฺจสิขกุมารกกาเล ฌานํ ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต กุมารกวณฺเณเนว วิจรติ, เตน นํ "กุมาโร"ติ สญฺชานนฺติ, โปราณกตฺตา ปน "สนงฺกุมาโร"ติ วุจฺจติ. ชเนตสฺมินฺติ ชนิตสฺมึ, ^๒- ปชายาติ อตฺโถ. เย โคตฺตปฏิสาริโนติ เย ชเนตสฺมึ โคตฺตํ ปฏิสรนฺติ, เตสุ โลเก โคตฺตปฏิสารีสุ ขตฺตโย เสฏฺโ. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ ภยเภรวสุตฺตปริยาเยน ^๓- ปุพฺเพนิวาสาทีหิ วา ตีหิ, อมฺพฏฺสุตฺตปริยาเยน ^๔- วิปสฺสนาาณํ มโนมยิทฺธิ ฉ อภิญฺาโยติ อิมาหิ วา อฏฺหิ วิชฺชาหิ, สีเลสุ ปริปูรการิตา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา โภชเน มตฺตญฺุตา ชาคริยานุโยโค สตฺต สทฺธมฺมา จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานีติ เอวํ ปณฺณรสธมฺมเภเทน จรเณน จ สมนฺนาคโต. โส เสฏฺโ เทวมานุเสติ โส ขีณาสวพฺราหฺมโณ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ เสฏฺโ อุตฺตโมติ. ปมํ. @เชิงอรรถ: ^๑ ฉ.ม., อิ. สตสหสฺสานิ ^๒ อิ. ชนตสฺมึ @^๓ ม. มู. ๑๒/๕๒/๒๙ ^๔ ที.สี. ๙/๒๗๘ อาทิ/๙๘

เนื้อความอรรถกถาฉบับภาษาบาลี อักษรไทย เล่มที่ ๑๑ หน้าที่ ๒๐๘. http://84000.org/tipitaka/read/attha_page.php?book=11&page=208&pages=1&edition=pali ศึกษาพระสูตร (เนื้อความ) นี้แยกตามสารบัญ :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/read_th.php?B=11&A=5400&pagebreak=1 http://84000.org/tipitaka/atthapali/th_line.php?B=11&A=5400&pagebreak=1#p208