บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [๖. ฉักกนิบาต]
๑. อวาริยวรรค ๑. อวาริยชาดก (๓๗๖)
๖. ฉักกนิบาต ๑. อวาริยวรรค หมวดว่าด้วยบิดาของนางอวาริยา ๑. อวาริยชาดก (๓๗๖) ว่าด้วยบิดาของนางอวาริยา (ฤๅษีโพธิสัตว์กล่าวสอนพระราชาอยู่ทุกๆ วันว่า) [๑] ขอถวายพระพรมหาบพิตรผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ขอพระองค์อย่าทรงพิโรธเลย มหาบพิตรผู้เป็นจอมทัพ ขอพระองค์อย่าทรงพิโรธเลย พระราชาผู้ไม่ทรงพิโรธตอบผู้ที่โกรธ ย่อมเป็นที่บูชาของชาวแว่นแคว้น [๒] อาตมภาพพร่ำสอนในที่ทุกสถาน คือ ทั้งในหมู่บ้าน ในป่า ในที่ลุ่ม หรือในที่ดอน ขอถวายพระพรมหาบพิตรผู้จอมทัพ ขอพระองค์อย่าทรงพิโรธเลย (พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงนายเรือผู้โง่เขลาว่า) [๓] ที่แม่น้ำคงคาได้มีคนแจวเรือจ้างชื่ออวาริยปิตา๑- เขารับส่งคนข้ามฟากก่อนแล้วจึงขอค่าโดยสารภายหลัง เพราะเหตุนั้น เขาจึงมีการทะเลาะวิวาทกับคนโดยสาร จึงไม่เจริญด้วยโภคะทั้งหลาย @เชิงอรรถ : @๑ อวาริยปิตา แปลว่า เป็นบิดาของนางอวาริยา (ขุ.ชา.อ. ๕/๓/๓) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๗ หน้า : ๒๒๗}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [๖. ฉักกนิบาต]
๑. อวาริยวรรค ๒. เสตเกตุชาดก (๓๗๗)
(ฤๅษีโพธิสัตว์บอกถึงเหตุที่จะให้โภคะเจริญแก่นายเรือนั้นว่า) [๔] พ่อเรือจ้าง ท่านจงขอค่าโดยสาร กับคนที่ยังไม่ได้ข้ามไปฝั่งโน้นก่อนซิ เพราะว่า ใจของคนที่ข้ามฟากไปแล้วเป็นอย่างหนึ่ง ใจของคนที่ต้องการจะข้ามฟากเป็นอีกอย่างหนึ่ง (ฤๅษีโพธิสัตว์สอนนายเรือนั้นอีกว่า) [๕] อาตมภาพพร่ำสอนในที่ทุกสถาน คือ ทั้งในหมู่บ้าน ในป่า ในที่ลุ่ม หรือในที่ดอน พ่อเรือจ้าง ขอท่านอย่าโกรธเลย (พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า) [๖] พระราชาได้พระราชทานบ้านส่วยเพราะอนุสาสนีบทใด เพราะอนุสาสนีบทนั้นแหละ คนแจวเรือจ้างจึงได้ตบปาก๑- (พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสข้อความสุดท้ายว่า) [๗] ถาดใส่อาหารก็ตกแตกแล้ว ภรรยาก็ถูกทำร้าย และเด็กที่เกิดในครรภ์ก็แท้งตกลงมาที่ภาคพื้น เขาไม่อาจจะให้ประโยชน์เกิดขึ้นจากโอวาทนั้นได้ เหมือนเนื้อไม่อาจจะให้ประโยชน์เกิดขึ้นจากทองคำ๒-อวาริยชาดกที่ ๑ จบ ๒. เสตเกตุชาดก (๓๗๗) ว่าด้วยเสตเกตุดาบส (พระโพธิสัตว์เป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์สอนมาณพเสตเกตุผู้เป็นหัวหน้าศิษย์ว่า) @เชิงอรรถ : @๑ ตบปาก ในที่นี้หมายถึงตบปากของฤาษีโพธิสัตว์ (ขุ.ชา.อ. ๕/๖/๕) @๒ ไม่อาจจะให้ประโยชน์เกิดขึ้นจากทองคำ คือไม่อาจทำทองคำให้เกิดเป็นประโยชน์ได้ (ขุ.ชา.อ. ๕/๗/๖) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๗ หน้า : ๒๒๘}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒๗ หน้าที่ ๒๒๗-๒๒๘. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=27&siri=376 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=27&A=3825&Z=3847 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=831 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=27&item=831&items=6 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=39&A=1 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=27&item=831&items=6 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=39&A=1 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu27 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/ja376/en/francis-neil
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]